หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ชวนน้องคุย (๓) : เกือบได้ไปรับคนชอบวิ่งและอึ่งอ๊อบที่เชียงใหม่แล้วซิค่ะ


หัวค่ำคืนวานฉันโทรกลับไปบอกอัยการชาวเกาะว่า ผักเหมียงของท่านติดเกาะมาไม่ถึงซะแล้ว แล้วจึงชวนว่า ไหนๆก็ไหนๆ ไปสวนป่ากันไหม เพราะรถที่นำไปยังมีที่ว่าง พ่อครูก็จะติดรถไปกันด้วย แถมลุงเอกด้วยอีกคน น้องชายบอกว่า คิดๆดูก่อน ขอเช็คญาติที่กรุงเทพฯก่อน ฟังๆตอนนั้นฉันเดาได้ว่า ใจน้องชายหมายมั่นอยู่พอสมควรที่จะไปสวนป่าด้วยกัน

13 มิถุนายน 2551  เย็นวานนี้ไปติดตามทวงถามต้นผักเหมียงที่อัยการชาวเกาะจะฝากไปสวนป่าด้วย แล้วผิดหวังอย่างแรง  ทั้งๆที่ได้กุลีกุจอไปรับเอามันมาทันทีที่ฉันส่งข่าวไปบอกให้แวะไปบ้านอัยการชาวเกาะเพื่อรับมันมากระบี่ แถมรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะแพ็กมันให้ดีๆจะได้ใส่รถตู้ไปให้ดีและไม่เปื้อน เจ้าหลายเขยตัวดีลืมเอามันใส่รถมาจากภูเก็ตซะนี่ หลังจากรู้ว่าไม่มีผักเหมียงมาจากภูเก็ต ฉันโทรกลับไปบอกอัยการชาวเกาะช่วงหัวค่ำของคืนวานว่า ผักเหมียงของท่านติดเกาะมาไม่ถึงซะแล้ว  แล้วจึงชวนว่า ไหนๆก็ไหนๆ ไปสวนป่ากันไหม เพราะรถที่นั่งไปยังมีที่ว่าง พ่อครูก็จะติดรถไปด้วย แถมมีลุงเอกด้วยอีกคน  น้องชายบอกว่า คิดๆดูก่อน ขอเช็คญาติที่กรุงเทพฯก่อน ฟังๆตอนนั้นฉันเดาได้ว่า  ใจน้องชายหมายมั่นอยู่พอสมควรที่จะไปสวนป่าด้วยกัน 

 

ดอกไม้สวยๆหลังบ้านหมอแซ่เฮค่ะ

  

ค่อนรุ่งของวันนี้ หลังจัดการงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็อาบน้ำแต่งตัว ปลุกลูกชายให้ไปส่ง ณ จุดนัดพบ รอสักครู่รถตู้สีเขียวครามก็มาจอดเทียบบันไดตรงเวลานัดหมายเป๊ะเลย เหตุการณ์นี้บอกฉันว่าโชเฟอร์คนนี้มีวินัยในการใช้ชีวิตและให้เกียรติผู้รับบริการอย่างยิ่ง  รอกันอยู่สักครู่ทุกคนก็มากันพร้อม  แล้วการเดินทางสู่อีสานอีกครั้งก็เริ่มขึ้น

 

โชเฟอร์คนดีเป็นอิสลามหนุ่มน้อยในวัยไม่เกินเบญจเพส  ขับรถเรียบร้อยและใจเย็นดีนัก ก่อนออกเดินทาง ใจฉันแอบหวังว่า เราน่าจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ เร็วกว่า 5 โมงเย็น อยากจะแน่ใจจึงถามโชเฟอร์ เขาบอกมาว่า ปกติออกเดินทางเวลานี้ เขาจะถึงกรุงเทพฯราว 5 โมงเย็น ฉันฟังแล้วก็บอกตัวเองว่า คราวนี้มีลุ้น  เราไปแวะรับน้องอ้อมที่ทางแยกเข้าถนนเซาร์เทินซีบอร์ด น้องมารออยู่แล้ว มีคุณแม่และหลานน้อยมาส่ง โชเฟอร์ขับรถพาเรามุ่งหน้าเดินทางตามเส้นทางสุราษฎร์ธานีผ่านจังหวัดแล้วจังหวัดเล่าจนกระทั่งถึงชานเมืองกรุงเทพฯ  เวลา 4 โมงเย็นตามความคาดหมาย   นี่คือฝีมือที่ฉันขอเขาแล้วนะว่า บ่าวเอ๋ยทำเวลาหน่อยนะน้อง  จะไม่ให้เรียกว่าคนใจเย็นได้ไง 

 

วิ่งรถมาได้ระยะทางหนึ่ง  เสียงหนุ่มน้อย 2 คนก็แว่วมาทางโทรศัพท์  คนแรกคือ หนุ่มเมืองกาญจน์เสียงหวานเหน่อนิดๆพอกล้อมแกล้ม  คนหลังคือหนุ่มเมืองปายผู้สุภาพ  คนแรกโทรมาบอกเบอร์โทรศัพท์พ่อครู  คนหลังโทรมาบอกกล่าวว่าพ่อครูรอที่สถาบันพระปกเกล้า    บอกกล่าวกันแล้ว ก็ยังมีการติดตามถามไถ่มาเป็นระยะๆตลอดช่วงบ่ายของวัน  ฉันบอกโชเฟอร์ว่า น้องบ่าวเอ๋ย เราจะไปแวะรับเจ้าของบ้านกันก่อนถ้าเข้าเขตกทม.

 

เข้าเขตกรุงเทพฯ ฉันคิดว่าน้องบ่าวจะชินเส้นทางเข้าถนนสายวงแหวนรอบนอก  อิๆๆๆที่ไหนได้  คาดผิดค่ะ  โชคดีหน่อยที่ไหวทัน โทรกลับไปหาน้องเอกถามทางว่า วิ่งเส้นไหนที่ใกล้ที่สุด  น้องเอกส่งมือถือให้ลุงเอกบอกทาง  ฉันขอสารภาพค่ะลุงเอกขา ตอนที่ลุงเอกถามชื่อถนนแต่ละสายนั่นนะ มันงงๆมากค่ะเลยกลายเป็นว่าต้องทวนความจำเดิมๆอุตลุดเลยค่ะ  ปะติดปะต่อพอกล้อมแกล้มเข้าใจจนเข้ามาถึงสถาบันพระปกเกล้าได้  เจ๊ศรีบอกว่า ฝีมือจริงหมอที่จำทางได้  เฮ้อ! ฉันไม่อยากจะบอกให้ตกใจกันหรอกนะว่า ฉันก็จำทางไม่ใคร่ได้  แหม! ก็ทั้งรถนั่นนะ มีฉันคนเดียวที่รู้จักเส้นทางในกรุงเทพฯนะซีค่ะ พอเริ่มเหยียบประตูเข้ากระทรวงสาธารณสุข น้องบ่าวเริ่มทำให้เราหายเครียด ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็เขาจะพาเราไปแวะรับพ่อครูที่ร.พ.ศรีธัญญานะซิค่ะ  ทุกคนรีบบอกพร้อมๆกันว่า ไม่ต้องแวะๆ ทุกคนสบายดีๆค่ะ  

 

สวนสวยๆที่สถาบันพระปกเกล้า

 

ผ่านศรีธัญญาเข้าไปแล้ววิญญาณโก๊ะเจ๊จังเริ่มเข้าสิงพารถวิ่งผ่านเลยสถาบันพระปกเกล้าเข้าไปกระทรวงสาธารณสุข  เลยไปแล้วจึงรู้ อ้อ! อยู่ที่ศูนย์ฯของก.พ.นี่เอง  เข้าไปภายในรั้ว ก็พบน้องเอกและนายช่างใหญ่มายืนรอรับอยู่แล้ว   แถมได้เจอหมอนนทลีรออยู่ด้วยนะนา  ดีใจมากเลย เจอกันก็เกิดมหกรรมกอดใหญ่กันรอบหนึ่งค่ะ เสียดายไม่ได้กอดนายช่างใหญ่ และน้องเอกเลยค่ะ ได้กอดแต่หมอนนท์ พ่อครู ลุงเอก และอัยการชาวเกาะเท่านั้นค่ะ  ตกลงลุงเอกไปสวนป่าไม่ได้ แต่อัยการชาวเกาะไปได้  สาวๆเข้าห้องสุขสบายเรียบร้อยกันแล้ว การเดินทางสู่แดนอีสานจึงเริ่มขึ้น ลุงเอกเป็นห่วงเรื่องการวิ่งรถในกทม. จึงให้โชเฟอร์ประจำตัวขับรถนำทาง  กว่าที่เราจะได้ออกจากกทม.ก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้วค่ะ    

 

รถวิ่งมาในเส้นทางสู่อยุธยา มัวคุยกันเพลินไปหน่อย มองกันอีกที อ้าว!ไหงวิ่งไปนครสวรรค์ซะละนี่  เลยต้องย้อนเข้าเส้นทางเมืองเก่าอยุธยา เพื่อไปออกวังน้อย การปรากฏว่าพ่อครูเริ่มมีแววจะได้ลูกชายคนใหม่ ชื่อ โก๊ะรอนจัง  ก็น้องบ่าวพาหลงอีกครั้งค่ะ  วิ่งไปจนถึงเส้นปากช่อง โก๊ะรอนจังจึงถามขึ้นว่า ขอโทษเถอะครับ จะไปถึงไหน  พ่อครูตอบว่า ไปบุรีรัมย์ไง หนุ่มจึงร้องว่า โอย! ผมเพิ่งเข้าใจ  ผมขับพานั่งมาตลอดนั้นเข้าใจไปว่า จะไปสุโขทัย ฮ่าๆๆๆๆ    สรุปว่าเย็นนั้น เรานั่งรถกินลมเล่นไปเกือบ 200 กม.มั๊ง   ผลลัพธ์ก็คือ  โชเฟอร์แบตหมดก่อนถึงสวนป่า อัยการชาวเกาะจึงได้โอกาสขับรถเข้าสวนป่าค่ะ   เกือบตี 2 เราจึงถึงสวนป่าแล้วได้พบว่าป้าจุ๋มผู้ใจถึงและทรหดยังนั่งรอเราอยู่ตามสัญญาค่ะ 

ช้างสวยที่ปั๊มแห่งหนึ่งระหว่างโชเฟอร์จอดช๊าตแบตตัวเองค่ะ

หมายเลขบันทึก: 189309เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2008 00:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:11 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ฝากความระลึกถึงลุงเอก หนุ่มหล่อแสนสุภาพและทุกๆ คนด้วยนะครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์

  • รูปสวยค่ะ ปั๊มก็สวยจัง
  • หายเหนื่อยยังคะเนี่ย
  • มาดูภาพครับ
  • ส่วนเนื้อหา หาแว่นไม่เจอครับ  ฮาๆเอิ๊กๆๆ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท