การสร้างกลุ่มหลักทรัพย์


กลุ่มหลักทรัพย์

นักลงทุนที่มีช่วงอายุแตกต่างกัน เช่น วัยรุ่น วัยทำงาน และวัยเกษียณ .. จะมีการกระจายการลงทุนในตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ หรือที่เรียกว่าพอร์ตการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป.. ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของพอร์ตการลงทุนในแต่ละช่วงอายุ..นะค่ะ

หมายเลขบันทึก: 188561เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2008 13:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 01:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยเกษียณ

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยนี้ เราควรเลือกลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำ อาจทำให้ได้ผลตอบแทนที่ไม่มากแต่ก็มีความมั่นคง และสมำเสมอ เช่น การลงทุนในตราสารแห่งหนี้ หรือลงทุนในหน่วยลงทุน เพราะ ตราสารหนี้มีผลตอบแทนที่แน่นอน ส่วนหน่วยลงทุนมีข้อดีคือ มี fundmanager คอยดูแลให้เราส่วนการลงทุนในตราสารทุน ถือว่ามีความเสี่ยงมากเกินไป สำหรับคนในวัยนี้ ส่วนที่เหลือจากค่ารักษาพยาบาล เราจะนำมาลงทุน ตามพอร์ตที่จัดไว้ข้างบน และนำกำไรที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศ อาจทำให้ไม่เสียเงินทุนของเราก็ได้ กลุ่ม 4

ปล. อาจารย์ช่วยลบความคิดเห็นแรกให้หน่อยค่ะ พอดีพิมพ์ไม่รายละเอียด  หากอาจารย์มีข้อเสนอแนะ แสดงความคิดเห็นมาได้ที่ http://learners.in.th/blog/tipynuan เลยนะค่ะ ของนวลทิพย์เองค่ะ

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยเกษียณ

         การสร้างพอร์ตสำหรับวัยเกษียณนั้น เลือกที่จะนำเงินที่เหลือจากการไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อเป็นการพักผ่อนหลังจากทำงานมานานนั้นไปลงทุน โดยจะต้องเลือกลงทุนในกลุ่มที่มีความมั่นคงมากกว่า  จึงเลือกลงทุนในการฝากธนาคารถึงแม้จะได้ดอกเบี้ยในอัตราที่ไม่มากนักแต่มีความมั่นคง และสามารถเบิกถอนใช้ในยามฉุกเฉินได้ และเลือกที่จะซื้อพันธบัตรและลงทุนในหุ้นกู้ เพราะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ รอรับดอกเบี้ย และรอรับเงินลงทุนคืนเมื่อครบกำหนดเวลา

กลุ่ม 4  การเงิน 02

การสร้างพอร์ตในฝันของวัยสร้างครอบครัว

การสร้างพอร์ตของนักลงทุนนั้นจำเป็นจะต้องคำนึงถึงปัจจัยในการกำหนดจุดมุ่งหมายของนักลงทุนและข้อจำกัดต่างๆ เพื่อที่จะได้ทราบว่าควรลงทุนในตราสารทางการเงินประเภทใด

สำหรับ"นายสามารถ"นั้นเป็นนักลงทุนประเภทบุคคลจึงมีการคาดหวังผลตอบแทนสูง แต่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับที่ต่ำ และมีข้อจำกัดในเรื่องของภาระความรับผิดชอบทางครอบครัว

ฉะนั้น"นายสามารถ"ควรที่จะเลือกลงทุนในตราสารทางการเงินประเภทตราสารหนี้(หุ้นกู้ พันธบัตร)มากกว่าตราสารทุน (หุ้นสามัญ หน่วยลงทุน)จึงถึงเป็นการกระจายความเสี่ยง เพราะเนื่องจากตราสารหนี้นั้นมีความเสี่ยงน้อยที่สุดส่วนตราสารทุนมีความเสี่ยงระดับกลาง และตราสารอนุพันธ์มีความเสี่ยงมากที่สุด

กลุ่มที่ 2 การเงิน 02(ขณิษฐา)

การสร้างพอร์ตวัยสร้างครอบครัว

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยสร้างครอบครัวนี้ จะเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการความเสี่ยงสูง เราควรจัดพอร์ตสำหรับวัยนี้ให้เลือกลงทุนในการซื้อพันธบัตรรัฐบาล เงินฝากธนาคาร เพราะสองประเภทนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย และได้ผลตอบแทนที่แน่นอน และนายสามารถยังสามารถเลือกลงทุนโดยการซื้อหุ้นกู้ เพื่อเป็นการเก็งกำไรซึ่งก็มีความเสี่ยงในระดับปานกลาง แต่ได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงกว่าสองประเภทแรก

จากการที่เลือกลงทุนในหลักทรัพย์ทั้ง 3 ประเภทนั้น ทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นในเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ถ้าหากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปก็ยังทำให้ขาดทุนน้อย เพราะว่าเราเลือกลงทุนใน เงินฝากธนาคารและพันธบัตรรัฐบาล มากกว่าการลงทุนในการซื้อหุ้นกู้ จึงทำให้มีความเสี่ยงน้อยกว่าและเหมาะสมกับวัยสร้างครอบครัว

กลุ่ม 3 การเงิน 01 (Freedom)

การสร้างพอร์ตวัยสร้างครอบครัว

การสร้างพอร์ตของวัยสร้างครอบครัวนี้ การสร้างพอร์ตในวัยนี้จะต้องการสร้างความมั่นคง จึงลงทุนในตราสารที่ไม่ค่อยมีความเสี่ยงมาก ดังนั้นจึงเลือกการสร้างบ้านเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ครอบครัวก่อนที่จะส่งลูกไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ จึงลงทุนใน

พันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และฝากธนาคาร แต่ฝากเพียงเล็กน้อยเพื่อใช้ยามฉุกเฉิน เเละการเลือกลงทุนกับหน่วยลงทุนเพราะมีfundmanagerคอยดูแลจัดการสินทรัพย์ให้กับเราจึงทำให้มีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นกู้และหุ้นสามัญ ซึ่งหุ้นกู้มีสิทธิที่จะไม่ได้รับเงินคืน ส่วนหุ้นสามัญก็อาจจะมีการผันผวนทำให้เราไม่ได้รับผลตอบแทนที่ต้องการและมีความเสี่ยงกับความมั่นคงของครอบครัวได้ เมื่อลงทุนตามนั้นแล้ว เราก็นำเงินส่วนที่เหลือหรือกำไรมาส่งลูกไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศได้

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยเกษียณ

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยเกษียณนั้น พวกกระผมเลือกที่จะไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อเป็นการพักผ่อนหลังจากทำงานมานาน และได้นำเงินที่เหลือไปลงทุนในกลุ่มที่มีความมั่นคงมากกว่า จึงเลือกลงทุนในการฝากธนาคารถึงแม้จะได้ดอกเบี้ยในอัตราที่ไม่มากนักแต่มีความมั่นคง และสามารถเบิกถอนใช้ในยามจำเป็นได้ และเลือกที่จะซื้อพันธบัตรและลงทุนในหุ้นกู้ เพราะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ รอรับดอกเบี้ย และรอรับเงินลงทุนคืนเมื่อครบกำหนดเวลา

เจ้าชายทั้ง 5

นักลงทุนที่มีช่วงอายุแตกต่างกัน เช่น วัยรุ่น วัยทำงาน และวัยเกษียณ .. จะมีการกระจายการลงทุนในตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ หรือที่เรียกว่าพอร์ตการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป

การสร้างพอร์ตของวัยรุ่น ในการสร้างพอร์ตวัยรุ่นนั้นวัยรุ่นจะเลือกที่จะซื้อโน๊ตบุ๊คก่อนเนื่องจากโนตบุ๊คเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีทั้งใช้ในการติดต่อสื่อสาร การหารายได้เพิ่มรวมทั้งการรับรู้ข่าวสารเพื่ที่จะนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจลงทุน ส่วนเงินที่เหลือก็นำไปลงทุนในหุ้นสามัญหน่วยลงทุนซะส่วนใหญ่เนื่องจากวัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบความเสี่ยงมากกว่าถ้าลงทุนแล้วดีก็จะได้กำไรคืนกลับมาเยอะส่วนเงินฝากธนาคารกับพันธบัตรนั้นก็ลงทุนเป็นส่วนน้อยเพราะได้ผลตอบแทนน้อย เมื่อลงทุนแล้วก็นำเงินที่เหลือไปซื้อรถยนต์มือสอง

< never dies alone >กลุ่มที่1 การเงิน01

การสร้างพอร์ตในวัยจ๊าบ

การสร้างพอร์ตการลงทุนในวัยนี้มักเป็ยวัยที่มีความกล้าที่จะเลี่ยงจึงเลือกที่จะลงทุนในการซื้อ computer ก่อนเนื่องจากมีความจำเป็นในการทำงานและเงินที่เหลือจากการซื้อcomputerนี้ก็สามารถที่จะนำมาลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนกลับมาในวัยนี้เลือกที่จะลงทุนในตราสารทุนมากกว่าการลงทุนโดยการฝากเงินในธนาคารหรือซื้อพันธบัตรเนื่องจากการลงทุนในตราสารทุนมีผลตอบแทนจากการที่เสี่ยงสุงกว่า และยังมีเงินเหลือไปซื้อรถยนต์มือสองได้โดยที่วัยจ๊าบยังมีเงินเหลืออีกส่วนหนึ่ง

กลุ่ม 5 การเงิน 03 (Quality)

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยจ๊าบ

ในการลงทุนแต่ละในช่วงวัยนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป เนื่องจากใต่ละวัยนั้นมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป

สำหรับ การสร้างพอร์ตสำหรับวัยจ๊าบนั้น กลุ่มข้าพเจ้าเลือกที่จะลงทุนในการซื้อคอมพิวเตอร์ก่อน เนื่องจาก เราสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ในการทำงาน หรือลงทุนได้ เช่น การเล่นหุ้น หรือติดตามข่าวสารต่างๆ เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนกลับมาในอนาคต และนำเงินส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารทุนเป็นส่วนใหญ่ เพราะในช่วงวัยนี้กล้าที่จะเสี่ยง กล้าลงทุน และผลจากการเสี่ยงอาจได้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน (Hight risk hight return) และยังมีเงินเหลือในการที่จะนำไปซื้อรถยนต์มือสองได้ โดยที่ยังมีเงินเหลือใช้อีกส่วนหนึ่งอีกด้วย

การสร้างพอร์ตสำหรับวัยจ๊าบ

ในการลงทุนสำหรับวัยจ๊าบมักจะมีความเสี่ยงสูงเนื่องมาจากวัยจ๊าบมักจะมีการลงทุนกล้าได้กล้าเสียเพื่อหวังผลกำไรตอบแทนสูงโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบว่าหากหุ้นตกจะได้รับความเสียหายมากเพียงใด

การสร้างพอร์ตครั้งนี้ทำให้เราทราบว่าควรจะลงทุนอย่างไรถึงจะได้กำไร เพราะเป็นการประเมินผลล่วงหน้าเพื่อที่จะได้เตรียมตัวรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที

ภูชิต ธนสารศิริกุล

BLOG สำหรับนักลงทุน >คลิกที่นี่ครับ<

กลุ่ม 2 การเงิน กลุ่มขณิษฐา

ความแตกต่างของเงินฝากประจำกับเงินฝากจ่ายคืนเมื่อทวงถาม

เงินฝากประจำ

เงินฝากที่มีกำหนดเวลาการฝากที่แน่นอน เช่นว่า ฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี เงื่อนไขที่คุณต้องรู้ คือหากถอนก่อนกำหนดอาจจะไม่ได้รับดอกเบี้ย หรือได้รับดอกเบี้ยลดลงแน่นอนว่าหากคุณตัดสินใจฝากเงินประเภทนี้จะต้องมีวินัยในการออมสูงมาก เพราะหากคุณเปลี่ยนใจระหว่างทางถอนเงินออกมาเท่ากับว่าคุณจะไม่ได้ดอกเบี้ยอย่างที่วาดหวังเอาไว้

และจะโดนหักภาษี 15 เปอเซ็นต์ของดอกเบี้ยด้วย

เงินฝากกระแสรายวัน

เป็นเงินฝากประเภทจ่ายคืนเมื่อทวงถามเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีเงินฝากหมุนเวียน โดยจะอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการถอนจากบัญชีด้วยการใช้เช็ค(CHEQUE ) สั่งจ่ายหรือโอนเงินจากบัญชีเงินฝากนอกจากนั้นยังสามารถขอมีบัตรATMเพื่อใช้ทำรายการ

ฝาก - ถอนเงิน โอนเงินได้อีกด้วย

นางสาวอัจจิมา เรณูรัตน์ รหัส51127312007 การเงิน-การธนาคาร ปี4

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

วัยจ๊าบ อายุระหว่าง 20-30 ปี ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง

วัยทำงาน อายุระหว่าง 31-40 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้รับความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

วัยเกษียณ อายุระหว่าง 51-60 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่องและยาวนานก็จะเกษียณตั้งแต่ช่วงอายุ 50 ต้นๆ หรือเกษียณอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางท่านอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเกษียณอายุ จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้มักจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย

                              นางสาวอัจจิมา เรณูรัตน์  รหัส 51127312007 เอก การเงิน-การธนาคาร ปี4

นาย สิทธิชัย วงค์เต้จ๊ะ 51127312022 การเงินการธนาคาร ปี4

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของแต่ละวัย ในการลงทุนนั้น เป็นที่แน่นอนว่ายังไงก็ต้องมีความเสี่ยง ทั้งจากการผันผวนของค่าเงินซึ่งมีปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมหลายๆอย่าง หรือ จะเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการทำเราเลือกลงทุนในสินทรัพย์แต่ละตัวซึ่งแตกต่างกันออกไป ดังนั้นในแต่ละช่วงวัยจึงมีการจัดรูปแบบของการลงทุนไว้ในรูปแบบที่ต่างกัน

วัยจ๊าบ

อยู่ในช่วงวัยที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถลงทุนได้ เป็นช่วงวัยระหว่างวัยที่ศึกษาใกล้จะจบจนถึงวัยที่เริ่มทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปได้ซักพัก ซึ่งตามหลักการของการจัดพอร์ตการลงทุนแล้ว บุคคลในวัยนี้จะเป็นวัยที่สามารถรองรับกับความเสี่ยงได้มากที่สุด เนื่องจากสุขภาพยังดี และ เป็นวัยที่มุ่งหวังหาผลกำไรในจำนวนมาก จึงเป็นวัยที่ต้องจัดการลงทุนประเภท high risk high return ให้ โดยเน้นในการลงทุนของกลุ่งประเภทหุ้นสามัญ และ กองทุนรวมต่างๆ ที่ค่าเงินค่อนข้างผันผวนแต่ให้ผลตอบแทนที่ดีพอๆกัน

วัยทำงาน

เป็นวัยที่ทำงานเป็นหลักเป็นแหล่งแล้วแต่อาจต้องการที่จะหารายได้เสริมจากเงินที่เหลือเก็บเพื่อนำมาหมุนเวียนสภาพคล่องภายในครอบครัว ซึ่งคนในวัยนี้จะยอมรับความเสี่ยงได้พอสมควร แต่ก็ต้องการให้มีเงินเหลือบ้างแม้จะขาดทุนในการลงทุน จึงควรที่จะจัดพอร์ตการลุงทุนของวัยทำงานให้ผสมกัน ระหว่าง ตราสารหนี้ และ ตราสารทุน เพื่อที่จะได้กระจายความเสี่ยงในการลงุทนกันออกไป

วัยเกษียณ

เป็นวัยที่ไม่ได้ทำงานแล้วแต่ใช้เงินที่เกิดจากการเก็บออมในช่วงที่ทำงานมาลงทุนในตลาดหุ้น อาจจะแสวงหาผลกำไรไม่มากแค่พอให้มีกินมีใช้ไม่ต้องเดือดร้อนลูกหลานมากมายนัก นักลงทุนในกลุ่มนี้ส่วนมากจะไม่ชอบที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากจนเกินไป จึงควรจะเน้นหนักให้ไปลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและมีความเสี่ยงน้อยมาก

นางสาวธุมวดี พันธา รหัส 51127312021 การเงินการธนาคารปี 4

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

 

วัยจ๊าบ

         เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

 

วัยทำงาน

     เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

 

วัยเกษียณ

     เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เกษียณอายุแล้ว ในขณะที่บุตรหลานของท่านก็เริ่มมีงานทำ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของท่านจะลดน้อยลงมาก ในขณะเดียวกันท่านก็ไม่มีรายได้จากงานประจำ ดังนั้น พอร์ตการลงทุนของท่านจึงควรมีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่น้อยลง และเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยพอร์ตการลงทุนของคนในวัยนี้ที่เหมาะสมก็คือ ตราสารหนี้ 90 % และตราสารทุน 10 %

 

นางสาวธุมวดี  พันธา รหัส 51127312021 การเงินการธนาคาร

ทัตติยา จารีต รหัส 51127312016 การเงินการธนาคาร

การสร้างพอร์ตที่เหมาะสมกับวัย

แต่ละวัยก็จะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน จึงต้องสร้างพอร์ตให้เหมาะสมกับวัย ดังนี้

วัยจ๊าบบบบบ ***อายุระหว่าง 20-30 ปี*** ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนาน ในวัยนี้เป็นวัยที่มุ่งหวังหาผลกำไรในจำนวนมาก จึงเป็นวัยที่ต้องจัดการลงทุนประเภท high risk high return จึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าลงทุนผิดพลาด ก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

วัยทำงานนนนน***อายุระหว่าง31-40 ปี*** เป็นช่วงที่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เริ่มมีบุตรหลาน ในขณะที่ฐานะทางการเงินก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่เริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

วัยเกษียณอายุ ***อายุระหว่างมีอายุตั้งแต่ 61 ปีขึ้นไป*** เป็นช่วงที่ส่วนใหญ่เกษียณอายุแล้ว ลูกหลานส่วนใหญ่ก็น่าจะมีการมีงานทำกันแล้ว ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของท่านจะลดน้อยลงมาก ในขณะเดียวกันก็ไม่มีรายได้จากงานประจำ ดังนั้น พอร์ตการลงทุนของท่านจึงควรมีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่น้อยลง และเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยพอร์ตการลงทุนของคนในวัยนี้ที่เหมาะสมก็คือ ตราสารหนี้ 90 % และตราสารทุน 10 %

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

วัยจ๊าบ ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงานในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนักและสามรถรับความเสี่ยงได้มากว่าวัยเกษียน จึงความลงทุนในหุ้นที่เสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนก้อสูงตามไปด้วย แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง

วัยทำงาน ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น และอาจมีบุตรแล้ว ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น ในการที่จะลงทุนอะไรก็จะคิดมากขั้นคือจะมรภาระหลายอย่างและการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร ประกอบกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้รับความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

วัยเกษียณ ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่องและยาวนาน น่าจะลงทุนเป็นการฝากธนาร หรือซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพราะไม่เสี่ยงเกินไป จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้มักจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย 

นางสาวกุสุมา คำคล้ายรหัส 51127312035 เอก การเงินการธนาคาร ปีที่4

นางสาวเปนิมา พระสุรัตน์

การสร้างพอร์ตที่เหมาะสมกับวัย

วัยจ๊าบ

    อายุระหว่าง 20-30 ปี ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง

วัยทำงาน

 อายุระหว่าง 31-40 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้รับความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

วัยเกษียณ

อายุระหว่าง 51-60 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่องและยาวนานก็จะเกษียณตั้งแต่ช่วงอายุ 50 ต้นๆ หรือเกษียณอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางท่านอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเกษียณอายุ จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้มักจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย

นางสาวเปนิมา พระสุรัตน์ รหัส 51127312029 เอกการเงินการธนาคาร ปี 4

นางสาวอ้อยใจ ใหม่เต็ม

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

วัยจ๊าบ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

วัยทำงาน เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

วัยเกษียณ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เกษียณอายุแล้ว ในขณะที่บุตรหลานของท่านก็เริ่มมีงานทำ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของท่านจะลดน้อยลงมาก ในขณะเดียวกันท่านก็ไม่มีรายได้จากงานประจำ ดังนั้น พอร์ตการลงทุนของท่านจึงควรมีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่น้อยลง และเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยพอร์ตการลงทุนของคนในวัยนี้ที่เหมาะสมก็คือ ตราสารหนี้ 90 % และตราสารทุน 10 % นางสาวอ้อยใจ ใหม่เต็ม รหัส 51127312025 การเงินการธนาคารปี 4

นางสาวอภิรนันท์ สุขนา

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

วัยจ๊าบ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

 วัยทำงาน เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

วัยเกษียณ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เกษียณอายุแล้ว ในขณะที่บุตรหลานของท่านก็เริ่มมีงานทำ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของท่านจะลดน้อยลงมาก ในขณะเดียวกันท่านก็ไม่มีรายได้จากงานประจำ ดังนั้น พอร์ตการลงทุนของท่านจึงควรมีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่น้อยลง และเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยพอร์ตการลงทุนของคนในวัยนี้ที่เหมาะสมก็คือ ตราสารหนี้ 90 % และตราสารทุน 10 %

นางสาวอภิรนันท์ สุขนา รหัส 51127312033 เอกการเงินการธนาคารปี4

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

        วัยจ๊าบ เป็นช่วงวัยหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ (20-35ปี) และอาจจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงของวัยกลางคนที่พยายามจะสะสมทรัพย์สินเพื่อตอบสนองความต้องการระยะเวลาอันสั้น กล่าวคือช่วงวัยนี้มักจะเริ่มจากการซื้อรถยนต์มาตอบสนองความสะดวกในการดำเนินชีวิต และการงาน และเริ่มกู้เงินเพื่อมาซื้อบ้าน คอนโดมิเนียม ของตัวเอง และอาจจะยอมอดทนเก็บเงินสะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของอนาคต เช่น จัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญฯ และอาจจะจัดสรรรายได้เพื่อสะสมสำหรับการศึกษาของบุตร ฉะนั้นจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนวัยนี้ภาระส่วนใหญ่จะเป็นภาระเฉพาะหน้า และยังเป็นวัยที่สามารถทำงานหาเงินได้ คนกลุ่มนี้จึงกล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงในระดับที่สูงเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินสูงกว่าปกติ กลยุทธ์การลงทุนอาจจะเน้นหนักไปในรูปแบบของการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยมุ่งเน้นที่ส่วนต่างราคามากกว่าการถือยาวเพื่อการปันผล สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

         วัยทำงาน เป็นบุคคลในช่วงวัยกลางคน (35-50 ปี) ซึ่งจะเริ่มหมดภาระจากการเป็นหนี้ที่มีอยู่ เช่น ผ่อนรถยนต์หมดแล้ว จะเหลือก็ผ่อนชำระค่าบ้านอีกไม่เท่าไหร่ คนกลุ่มนี้จะมีรายได้ส่วนเกินจากความจำเป็นพื้นฐานที่สามารถนำมาลงทุนได้ตลอดจนความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นตามการเก็บออมที่ผ่านมานานขึ้น การยอมรับความเสี่ยงจึงอยู่ในระดับปานกลาง มุ่งเน้นการลงทุนที่เน้นไม่ให้เงินต้นสูญหาย กลยุทธ์การลงทุนจึงเหมาะแก่การลงทุนระยะยาว 10-20 ปี เช่นลงทุนพันธบัตรรัฐบาล และลงทุนในหุ้นสามัญที่มองถึงผลตอบแทนจากเงินปันผลมากกว่าการเก็งกำไรในราคาหุ้นเพียงอย่างเดียว สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

         วัยเกษียณ เป็นช่วงของบุคคลที่ใกล้จะเกษียณอายุจากการทำงาน หรือเกษียณอายุแล้ว (50-60ปี) รายได้ลดลง หมดภาระการทำงาน แต่ก็จะมีเงินเหลือเก็บ ทั้งจากส่วนของเงินออม เงินจากกองทุนประกันสังคม เงินสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินบำเหน็จบำนาญฯ กลุ่มนี้จะยอมรับความเสี่ยงได้ลดลง และตระหนักถึงความมั่นคงของการลงทุนควบคู่ไปกับความป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เพราะมันจะทำให้มูลค่าเงินที่ออมสะสมที่มีอยู่นั้นเสื่อมค่าลง ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจึงมุ่งเน้นไปที่พันธบัตรรัฐบาล ฝากเงินกับธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ยเป็นหลัก สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 90 % และตราสารทุน 10 %

นางสาววราลักษณ์   พาดี   รหัส 51127312012  การเงินการธนาคาร

นางสาววิไล ชลเขตต์ รหัส 51127312001

การสร้างพอร์ตที่เหมาะสมกับวัย

วัยจ๊าบ

อายุระหว่าง 20-30 ปี ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาว นานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง

วัยทำงาน

อายุระหว่าง 31-40 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้รับความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

วัยเกษียณ

อายุระหว่าง 51-60 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่องและยาวนานก็จะเกษียณตั้งแต่ช่วงอายุ 50 ต้นๆ หรือเกษียณอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางท่านอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเกษียณอายุ จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้มักจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย

น.ส.อรวลี พิพัฒนภิญโญยศ

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

         วัยจ๊าบ  เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

       วัยทำงาน เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

       วัยเกษียณ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เกษียณอายุแล้ว ในขณะที่บุตรหลานของท่านก็เริ่มมีงานทำ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของท่านจะลดน้อยลงมาก ในขณะเดียวกันท่านก็ไม่มีรายได้จากงานประจำ ดังนั้น พอร์ตการลงทุนของท่านจึงควรมีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่น้อยลง และเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยพอร์ตการลงทุนของคนในวัยนี้ที่เหมาะสมก็คือ ตราสารหนี้ 90 % และตราสารทุน 10 %

นางสาวอรวลี     พิพัฒนภิญโญยศ  51127312020  การเงินการธนาคาร

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

วัยจ๊าบ เป็นช่วงวัยหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ (20-35ปี) และอาจจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงของวัยกลางคนที่พยายามจะสะสมทรัพย์สินเพื่อตอบสนองความต้องการระยะเวลาอันสั้น กล่าวคือช่วงวัยนี้มักจะเริ่มจากการซื้อรถยนต์มาตอบสนองความสะดวกในการดำเนินชีวิต และการงาน และเริ่มกู้เงินเพื่อมาซื้อบ้าน คอนโดมิเนียม ของตัวเอง และอาจจะยอมอดทนเก็บเงินสะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของอนาคต เช่น จัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญฯ และอาจจะจัดสรรรายได้เพื่อสะสมสำหรับการศึกษาของบุตร ฉะนั้นจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนวัยนี้ภาระส่วนใหญ่จะเป็นภาระเฉพาะหน้า และยังเป็นวัยที่สามารถทำงานหาเงินได้ คนกลุ่มนี้จึงกล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงในระดับที่สูงเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินสูงกว่าปกติ กลยุทธ์การลงทุนอาจจะเน้นหนักไปในรูปแบบของการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยมุ่งเน้นที่ส่วนต่างราคามากกว่าการถือยาวเพื่อการปันผล สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

วัยทำงาน เป็นบุคคลในช่วงวัยกลางคน (35-50 ปี) ซึ่งจะเริ่มหมดภาระจากการเป็นหนี้ที่มีอยู่ เช่น ผ่อนรถยนต์หมดแล้ว จะเหลือก็ผ่อนชำระค่าบ้านอีกไม่เท่าไหร่ คนกลุ่มนี้จะมีรายได้ส่วนเกินจากความจำเป็นพื้นฐานที่สามารถนำมาลงทุนได้ตลอดจนความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นตามการเก็บออมที่ผ่านมานานขึ้น การยอมรับความเสี่ยงจึงอยู่ในระดับปานกลาง มุ่งเน้นการลงทุนที่เน้นไม่ให้เงินต้นสูญหาย กลยุทธ์การลงทุนจึงเหมาะแก่การลงทุนระยะยาว 10-20 ปี เช่นลงทุนพันธบัตรรัฐบาล และลงทุนในหุ้นสามัญที่มองถึงผลตอบแทนจากเงินปันผลมากกว่าการเก็งกำไรในราคาหุ้นเพียงอย่างเดียว สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

วัยเกษียณ เป็นช่วงของบุคคลที่ใกล้จะเกษียณอายุจากการทำงาน หรือเกษียณอายุแล้ว (50-60ปี) รายได้ลดลง หมดภาระการทำงาน แต่ก็จะมีเงินเหลือเก็บ ทั้งจากส่วนของเงินออม เงินจากกองทุนประกันสังคม เงินสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินบำเหน็จบำนาญฯ กลุ่มนี้จะยอมรับความเสี่ยงได้ลดลง และตระหนักถึงความมั่นคงของการลงทุนควบคู่ไปกับความป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เพราะมันจะทำให้มูลค่าเงินที่ออมสะสมที่มีอยู่นั้นเสื่อมค่าลง ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจึงมุ่งเน้นไปที่พันธบัตรรัฐบาล ฝากเงินกับธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ยเป็นหลัก สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 90 % และตราสารทุน 10 %

นาย รัฐภูมิ แพงคูณ รหัส 51127312011 การเงินการธนาคาร

สุพรรณิการ์ กันภัย

การสร้างพอร์ตตามความเหมาะสมของวัย

วัยจ๊าบ อายุระหว่าง 20-30 ปี*** ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

วัยทำงาน อายุระหว่าง31-40 ปี*** ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

วัยเกษียณ ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่องและยาวนานก็จะเกษียณตั้งแต่ช่วงอายุ 50 ต้นๆ หรือเกษียณอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางท่านอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเกษียณอายุ จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 %

นางสาว สุพรรณิการ์ กันภัย

51127312031

การเงินการธนาคาร

นางสาวเพียงฤดี นงรัตน์

การสร้างพอร์ตที่เหมาะสมกับวัย

วัยจ๊าบ

อายุระหว่าง 20-30 ปี ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง

วัยทำงาน

อายุระหว่าง 31-40 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้รับความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

วัยเกษียณ

อายุระหว่าง 51-60 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่องและยาวนานก็จะเกษียณตั้งแต่ช่วงอายุ 50 ต้นๆ หรือเกษียณอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางท่านอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเกษียณอายุ จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้มักจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย

นางสาวเพียงฤดี นงรัตน์ รหัส 51127312036 เอกการเงินการธนาคาร ปี 4

ศิริวรรณ ยอดธรรม 51127312008

การสร้างพอร์ตที่เหมาะสมกับวัย

วัยจ๊าบ

อายุระหว่าง 20-30 ปี ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาวนานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้สามารถรับความเสี่ยงได้สูง

วัยทำงาน

อายุระหว่าง 31-40 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัวจะทำให้ท่านต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้รับความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

วัยเกษียณ

อายุระหว่าง 51-60 ปี ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่องและยาวนานก็จะเกษียณตั้งแต่ช่วงอายุ 50 ต้นๆ หรือเกษียณอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางท่านอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเกษียณอายุ จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 % เพราะนักลงทุนในวัยนี้มักจะรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย

จามจุรี ศรีสวัสดิ์

ในช่วงวัยจ๊าบ อายุระหว่าง 20-30 ปี ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงาน ในขณะที่นักลงทุนบางคนอาจจะเพิ่งแต่งงาน แต่ยังไม่มีบุตร ในช่วงนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่มีภาระการเงินมากนัก ในขณะที่ช่วงเวลาที่ท่านสามารถลงทุุนได้ก่อนจะถึงวัยเกษียณยังมีระยะเวลายาว นานถึงกว่า 30 ปี ดังนั้น ท่านจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูง เพื่อที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดี แต่ถ้าท่านลงทุนผิดพลาด ท่านก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้อีกหลายปี สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 20 % และตราสารทุน 80 %

วัยทำงาน อายุระหว่าง31-40 ปี*** ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น กล่าวคือเริ่มมีบุตรหลานมาอยู่เป็นเพื่อน ในขณะที่ฐานะทางการเงินของท่านก็เริ่มจะมีความมั่นคงมากขึ้น การที่ท่านเริ่มจะมีครอบครัว จะทำให้ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายทั่วๆไปในครัวเรือน ค่าเล่าเรียนบุตร และการออมเงินเพื่ออนาคตของบุตร กอปรกับฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคงมากขึ้น ทำให้ท่านไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ 30 % และตราสารทุน 70 %

วัยเกษียณ ในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ท่านนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ บางท่านที่มีการออมอย่างต่อเนื่อง และยาวนานก็จะเกษียณตั้งแต่ช่วงอายุุ 50 ต้นๆ หรือเกษียณอายุไปก่อนหน้านี้แล้ว ในขณะที่บางท่านอาจจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีเงินเพียงพอที่จะเกษียณอายุุ จึงมีสัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูงมากเกินไป เพื่อหวังผลตอบแทนในระดับสูง ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังกล่าว หากการลงทุนเกิดการผิดพลาด อาจทำให้เงินที่ท่านคาดหวังว่าจะมีใช้หลังเกษียณอายุลดน้อยลงจากเดิม สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีอายุในช่วงนี้ก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ระหว่าง 60 %-80 % และตราสารทุนระหว่าง 20 %- 40 %เพราะนักลงทุนจะยอมรับความเสี่ยงได้น้อย

นางสาว จามจุรี ศรีสวัสดิ์

51127312019

การเงินการธนาคาร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท