ไฟไหม้ ....


เช้าวานนี้ เกิดเหตุเพลิงไหม้บนคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา

มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 3 ศพ พ่อโดดหนีไฟ ตกตึกลงมาเสียชีวิตข้างสระว่ายน้ำ

แม่และลูกชายคนเล็ก เสียชีวิตเพราะควันไฟในห้องนอนนั่นเอง

เหลือเพียงลูกชายคนโต ที่ไปอยู่หอพัก เพียงผู้เดียว

นี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่ที่เราสงสัยมากกกกกกกกกกก และไม่มีใครตอบคำถามเราได้ คือ ไฟไหม้ครั้งนี้ เป็นข่าวเพราะอะไร

  • ด้วยความสำคัญของผู้ตาย
  • ด้วยชื่อคอนโดมีเนียม หรือ ความหรูหราของคอนโด
  • ด้วยเป็นเหตุสะเทือนขวัญในสังคมเมืองกรุง

ข่าวนี้น่าสนใจมากซะจนทำให้เช้าวันนี้ เป็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์หัวสีหลายฉบับ เป็นข่าวเล็ก ข่าวย่อย ในหนังสือพิมพ์ "คุณภาพ" ด้วยเช่นกัน ......เชียวหรือ

ที่ทำงานก็วิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องนี้ เนื่องจากตึกนี้ อยู่ไม่ไกลจากตึกที่ทำงานเรา มีผู้เช่าหลายคน พักที่คอนโดแห่งนี้ ก็เลยมีเรื่องเมาท์ เยอะมากกกกกกกกก

แต่ที่เราเอามาเมาท์ตรงนี้ ก็เพราะว่า เคยมีประสบการณ์กับเหตุการณ์ไฟไหม้ด้วยเช่นกัน

รำลึกอดีตหน่อยดีกว่า ....

ตอนเรียนป. 4 คืนนั้นนอนหลับสนิท กำลังฝันว่า วิ่งหนีผู้ร้ายอยู่ในอาคารเรียน วิ่งมาจนสุดระเบียง ไม่มีทางไปต่อ นอกจากกระโดดลงจากชั้น 2 ลงมา กำลังหันรีหันขวาง ไม่รู้จะทำยังไง ก็มองเห็น "เจ้าชายขี่ม้าขาว" มารอรับอยู่ด้านล่าง .....อารมณ์ฝันหวานของสาวน้อยต้องสะดุด เมื่อมีเสียงเคาะ ...อ้อเรียกว่า ตบ ประตูห้องนอน จะเข้าท่ากว่า เสียงดังปัง ปัง ทำเอาสะดุ้งตื่นจากความฝัน ลุกมาเปิดประตู  ...เสียงบอกว่า "เก็บของที่จำเป็น ไฟไหม้ในซอยบ้านเรานี่เอง แล้วลงไปอยู่ข้างล่างกับย่านะ" ....ไม่รู้ว่าใครปลุกเราจำไม่ได้ ...ตกใจเหมือนกัน แต่ก็เก็บของ ....ลงมายืนมองไฟกับย่าอยู่ข้างล่าง  เสียงไซเรนรถดับเพลิงดังแทรกเสียงตะโกนของผู้คนข้างๆ บ้าน หลายหลังคาเรือน ....จุดที่เกิดเหตุ อยู่ลึกเข้าไปอีก ...สมัยนั้นเป็นอาคารเรือนแถวให้เช่า เป็นเรือนไม้อ่ะนะ ....ย่าบอกให้สวดมนต์ ...ช่วยกันภาวนาให้เจ้าหน้าที่ดับไฟได้ทัน ก่อนจะมาถึงบ้านเรา

เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ก็จำไม่ได้ ....ก็ได้ยินเสียงคนบอกต่อๆ กันมาจนถึงบ้านเราว่า ..."ไฟดับแล้ว"  ...เสียงถอนหายใจของคนในบ้านดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน ....สบายใจไปได้ เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟไว้ได้  อีกแค่ 4 หลังจะถึงบ้านเรา .....ทายซิว่า .....ของที่เราหิ้วลงมาจากห้องนอนคืออะไร .....กระเป๋าหนังสือที่จะต้องไปเรียนในวันรุ่งขึ้นนั่นแหละ ...ก็จะมีสอบอ่ะ ...กลัวไม่ได้สอบ กลัวเรียนไม่จบป. 4 นั่นแหละ ...

มาคิดถึงแล้วก็ขำๆ ตัวเองเหมือนกันนะ

จากไฟไหม้ครั้งนั้นต่อมาอีก 2-3 ปีได้ ก็มีเหตุไฟไหม้อีก ...คราวนี้ไกลบ้านไปทางปากซอยหลัก ....เลยไม่เหลือทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งที่ 2 นี้เลย 

ปัจจุบัน จุดที่เคยเกิดเหตุกลายสภาพเป็นตึกแถวให้เช่าไปแล้วล่ะ .....แต่ความรู้สึกหวิวๆ ในใจเวลาได้ยินเสียงไซเรนยังค้างคาอยู่เสมอ  เราไม่ชอบเสียงไซเรนเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากรถพยาบาลรึว่ารถดับเพลิง มันชวนให้คิดว่า ...กำลังจะมีใครจากไปก่อนวัยอันควรรึป่าว กำลังจะมีใครสูญเสียทรัพย์สินรึป่าว

นี่แหละหนา....เค้าว่ากันว่า โจรปล้นเจ็ดครั้ง ยังไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว   เสียของและเสียกำลังใจไปพร้อมๆ กัน

แต่ให้ไฟไหม้ทรัพย์สินจนหมดตัว ก็ยังไม่เท่าไฟทุกข์ที่แผดเผาใจเราเอง ....

 

 

หมายเลขบันทึก: 187563เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2008 22:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2012 09:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

วันนั้นผมก็อยู่ในเหตุการณ์อยู๋เวรมีคนวิ่งมาบอกไฟไหม้ที่อาคารสี่พระยาพอเรามองขึ้นไปก็เห็นว่ามีแสงเพลิงออกมาจำนวนมากแล้วแถมยังมีคนกำลังจะตกจากชั้นที่26พวกเราวิ่งขึ้นไปแต่มันเลวมากตรงที่รปภ.มันไม่ให้เราเข้าไปขนาดเราเราแสดงตัวว่าเราเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมันบอกว่าต้องขออนุญาตผู้จัดการฝ่ายอาคารก่อนแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นก็คือคนที่เป็นพ่อได้ตกลงตรงหน้าเลยมันสยองมากๆ

คุณเอก...เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในวันนั้นเหรอคะ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท