วันนี้ขอเปลี่ยนรูปนะคะ คนเดิม พี่แก้วทักว่ารูปเป็นผู้ใหญ่และดุเคร่งเครียดมากเกินไป ขอเล่าเรื่องใหม่ก่อนนะคะ เรื่อง AEFI ตอนที่ 3 ขอผลัดไว้ก่อน ขอเป็นเชื้อดื้อยาที่ยากจะควบคุม
วันที่ 28 พฤษภาคม 2551 ได้ร่วมกับคณะกรรมการ IC ของแผนกการพยาบาลอายุรกรรม จัดโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วย มีพยาบาลเข้าร่วมประมาณ 51 คน ที่ห้องประชุมหอผู้ป่วย 4 ค โดยมีรศ.ภิรุญ มุสิกพันธ์ เป็นวิทยากร เรื่อง เชื้อดื้อยา การวินิจฉัยเชื้อดื้อยา แนวทางการรักษา การป้องกันและควบคุม ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังบรรยายจากอาจารย์แล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ว่าจะทำอย่างไร จึงจะทำให้การติดเชื้อดื้อยาในหอผู้ปวยแผนกอายุรกรรมลดลง การดูแลผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ข้าพเจ้าทำหน้าที่เป็นคุณอำนวย น้องสุมาลี วิชาผา เป็นคุณลิขิต เป็นครั้งแรกของทีมกรมมการ IC แผนกอายุรกรรมที่จัดKM และเป็นครั้งแรกของข้าเจ้าเช่นกันที่ทำหน้าที่เป็นคุณอำนวยเต็มรูปแบบ บรรยากาสวันนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น เพราะว่าครั้งแรกทีมเราคาดว่าจะมีผู้ร่วมประมาณ 20 เท่านั้น แต่วันนั้นมี 51 คน
ท่านประธานกล่าวเปิดงาน อาจารย์ทองสมัย ยุรชัย กล่าวเปิดงานและฝากความหวังว่า กลุ่ม KM นี้จะดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งโครงการนี้ได้ตั้งวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ได้แนวทางการดูแลผู้ป่วย MRSA , MDR ที่เป็นแนวทางเดียวกันในแผนกอายุรกรรม
2. พยาบาล ICWN สามารถวินิจฉัยการติดเชื้อ MRSA, MDR ได้อย่างถูกต้อง
3. เพื่อลดอุบัติการณ์การติดเชื้อดื้อยาในหอผู้ป่วยอายุรกรรม
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ประสิทธิภาพการเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาของแผนกการพยาบาลอายุรกรรม 100%
2. มีการเฝ้าระวังการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาอย่างมีประสิทธิภาพ
3. หอผู้ป่วยแผนกอายุรกรรมมีแนวทางการดูแลและการป้องกันเชื้อดื้อยาเป็นแนวทางเดียวกัน
ดัชนีชี้วัด
1. อัตราการติดเชื้อดื้อยา ในแต่ละหอผู้ป่วย ลดลงร้อยละ 50%
2. สามารถวินิจฉัยเชื้อดื้อยาได้ถูกต้อง 100
ข้อสรุปที่ได้จากการทำ KM ในวันแรกก็คือ
1. การเกิดดื้อยามาจากบุคลากรเป็นสื่อหรือพาหะ นำจากผู้ป่วยคนที่ 1 ไปให้ผู้ป่วย คนที่ 2 และคนต่อ ๆ ไป ทำอย่างไรจึงจะตัดวงจรได้ ต้องเน้นเรื่องการล้างมือของบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ โดย ระยะเวลาในการล้างมือต้องพอเพียง อย่างน้อย 30 วินาที ล้างอย่างถูกวิธีให้ครบขั้นตอน แต่หอผู้ป่วยมืออ่างล้างมือ น้อย ให้เพิ่มเป็นการล้างมือ โดยไม่ใช้น้ำ (Waterless) และให้มีการส่งเสริมการล้างมือ จัดหาอุปกรณ์ให้มีเพียงพอ ปฐมนิเทศนักศึกษาก่อน การปฏิบัติงานทุกกลุ่ม
2. เชื้อดื้อจะอยู่ในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเตียง ผ้าปูที่นอน พบได้มากร้อยละ 41 รองลงมาเสื้อผ้าร้อยละ 40.5 ไม่ควรนำประวัติมาวางที่เตียง และควรจะมีการทำความสะอาดเตียงให้มีประสิทธิภาพ
3. ควรจะมีการสื่อสารให้ทีมสุขภาพทราบว่าผู้ป่วยเตียงใดติดเชื้อดื้อยา และส่งต่อด้วยเมื่อมีการย้ายหอผู้ป่วย
4. การทำความสะอาด เช็ดตัวผู้ป่วย ควรจะมีการทำความสะอาดรูจมุกผู้ป่วยด้วยทุกครั้ง เพราะแหล่งรังโรคของเชื้อดื้อยา MRSA พบได้ในโพรงจมุก
5. พยาบาลใส่เสื้อคลุม ถุงมือ ให้ใช้เฉพาะรายและควรถอดในห้องผู้ป่วยทันที
นัดประชุมและทำกลุ่ม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และขอให้ช่วยร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน นะคะ CoP การเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาของแผนกMed กำลังรอท่านอยู่นะคะ
น้องไก่
ภาพสวยขึ้นค่ะ ดูผ่อนคลาย การเขียน เราสามารถเข้าไปแก้คำผิดได้
ถ้าจะเขียนให้น่าสนใจมากขึ้น ลองเล่าดูว่า KM แล้ว เราจะนำความรู้ที่ได้มาจัดทำเป็นคลังความรู้ต่ออย่างไร ให้อ่านง่าย น่าสนใจและนำไปใช้ได้จริงค่ะ
พี่แก้ว คะ ขอบคุณมากคะ ที่ให้ลังใจ
กว่าจะหารูปมาลงได้นะคะ ไก่มีแต่รูปหมู่และรูปเป็นวิทยากรส่วนมาก รูปนี้ได้จากการไปสัมมนา ICWN ที่ฟ้าดาวรีสอร์ท จังหวัดเลย วันที่ 1-2 กพ.2551 มีรูปน้อง ICWN แต่ละรูปน่ารักมาก กำลังฝึกการนำภาพลง blog
สวัสดีคคะ คุณประจักษ์ ขอบคุณคะภาพสวย ๆ ช่วยแนะนำวิธีทำด้วยนะคะ จะรอ
อยากทราบข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับเชื้อดื้อยาค่ะ
สวัสดีค่ะ
โอ้โหดีมากๆเลยค่ะ
จะแนะนำให้น้องๆที่ตึกมาอ่าน
เชื่อดื้อยาน่ากลัว...เห็นด้วยค่ะการล้างมือจะลดการติดเชื้อ...
3งมีเด็กที่ low imune ได้ยาเดียวฆ่าเชื้อราขวดละหมื่น...
และมีการใช้ยา vanco tienam...มาก
วันหลังเรียนเชิญมา KM นะคะ การลดการติดเชื้อในเด็ก ที่ได้เคมีบำบัด
น่าจะมีเรื่องปรึกษาเยอะแยะ
การพบเชื้อตามผ้าปู...น่ากลัว
4. poo [IP: 118.173.149.252]
สวัสดีคะคุณปู
ข้อมูลที่ Update เกี่ยวกับเชื้อดื้อยา
5. แดง
สวัสดีคะน้องแดง
ยินดีนะคะ นัดมาได้เลยคะ จะได้ช่วยกันคะ
-อยากทราบว่าจำเป็นต้องทำที่กั้นเพื่อแยกผู้ป่วยดื้อยามั๊ยคะ (หมายถึงทำแผงกั้นน่ะค่ะ)หรือว่าแค่แยกโซนก็พอ แล้วต้องแยกขยะติดเชื้อไว้ที่เตียงผู้ป่วยมั๊ยคะ
-อยากทราบขั้นตอนการดูแลผู้ป่วย MDR ทั้งระบบน่ะค่ะส่วนใหญ่พบเชื้อที่เสมหะและแผลค่ะ
-อยากทราบ Flow chart ด้วยค่ะ
สวัสดีคะคุณใหม่
ไม่จำเป็นต้องทำที่กั้นผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยานะคะ
ถ้ามีห้องแยกอยู่ให้อยู่ห้องแยก ถ้าไม่มีก็ให้อยู่แบบแยกโซนได้คะ
ขยะติดเชื้อไม่ควรอยู่ที่เตียงผู้ป่วย ถ้าจะทำกิจกรรมทำแผลให้ใส่ถุงพลาสติกแล้วค่อยนำไปทิ้งที่ขยะติดเชื้อ หรือนำถีงขยะติดเชื้อมาแล้วเมื่อทิ้งแล้วนำกลับไปไว้ที่ห้องเก็บถังขยะนะคะ
ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยา
จะต้องแจ้งทีมให้การดูแลทราบนะคะ ติดป้ายแจ้งเตือนคะ
ใช้วิธีป้องกันแบบ contact precautions คะ
เน้นใฝนเรื่องการล้างมือ ใส่เสื้อคลุมขณะให้การพยาบาล ที่คาดว่าจะสัมผัสารคัดหลั่งคะ เส้อคลุมใช้เฉพาะราย และไม่นำกลับมาใช้ซ้าอีกคะ
แยกของใช้นะคะ