คิดถึง?.....๑


ท่านลองปล่อยวางทุกอย่างลง แล้วพิจารณาดูภาพเหล่านี้ ทีละภาพ ตามลำดับ

 

ภาพ A1

 

 

 

ภาพ A2

 

 

 

ภาพ A3

 

 

 

ภาพ A4

 

 

  

ภาพ A5

 

 

 

ภาพ A6

 

 

 

เมื่อท่านพิจารณาภาพตามลำดับ A1 ถึง A6 ด้วยความปล่อยวางแล้ว นั้น ท่าน คิดถึง อะไรบ้าง

หมายเลขบันทึก: 186231เขียนเมื่อ 4 มิถุนายน 2008 22:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

สวัสดีครับลุงบางทราย

ผมคิดถึง 2 เรื่อง ครับ

  1. แว๊บแรก มองเห็นเป็นเรื่อง ความละเอียด ความหยาบ ของจิตใจครับ
  2. แขวนไว้สักพัก กลับมองเห็นเป็นว่า ต้องมองแบบ "องค์รวม" หรือ ภาพรวม จึงจะเห็นความจริง ประมาณนั้นก่อนครับ อิ อิ

เข้ามาดูสองรอบแล้ว..ยังนึกอะไรไม่ค่อยออกเลยค่ะ ^ ^

คิดว่าความแตกต่าง พอขมวดกันเข้า ก็แยกแยะไม่ออกครับ

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

เบิร์ดคิดถึงการเมืองค่ะ ทั้ง 2 ขั้ว และสิ่งที่เราเห็นนั้นยังมีสิ่งที่นอกเหนือออกไปอีกมากมายที่เราไม่เห็นและไม่ทราบและควรค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงประกอบด้วยน่ะค่ะ

นอกจากนี้การหมุนวนของเกลียวสี 2 สี ที่ค่อยๆเชื่อมเข้าหากันในรูปสุดท้ายจนกลายเป็นสีออกน้ำตาลทำให้คิดว่ากว่าจะมองที่เป้าหมายเดียวกันและเดินไปด้วยกันได้จะต้องอาศัยแรงเหวี่ยงที่รุนแรงขนาดไหน และจะเหลือคนอยู่เท่าไหร่น่ะค่ะพี่บางทราย

และท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นสีใด ในภาพสุดท้ายบางส่วนก็ไม่ได้เป็นสีเดิมของตนเองเลยแม้แต่น้อยค่ะท่านพี่ ^ ^

นี่มองแบบปล่อยวางแล้วนะเนี่ย อิ อิ อิ

คิดถึงสิ่งที่แตกต่างกัน  มาบรรจบกันด้วยจังหวะ เวลาที่เหมาะสม จนกลมกลืน หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียว 

อยากเห็นคนไทยเป็นแบบนี้จริงๆ เฮ้อ

เห็นการเปลี่ยนแปลง คิดถึงคนอ้วนแล้วจะผอม อิอิๆๆ

สวัสดีครัีบพี่บางทราย....

    โอ... นี่เอาพระธรรมมาฝากกันเลยนะครัีบ แบบนี้ขอเอาวิญญาณปรัชญาเข้าสิงหน่อยนะครับ

เรื่องนี้ในความเห็นผม ผมคิดว่าอธิบายคำว่า คน ได้ดีมากๆ เลยครับ

  • คน... มีสองธาตุในจิต  ธาตุจิตเย็น(เขียว) และธาตุจิตร้อน(เหลือง)
  • เกลียววนเวียน คดเคี้้ยวผสมผสานทั้งเย็นทั้งร้อนอยู่ในอ่างความคิด อ่างสำนึก อ่างปัญญา
  • คนในความหมาย ของการคนให้เข้ากัน วันหนึ่งหวังว่าจะนิ่ง หากจุดที่อุ่นพอดีหลังจากธาุตุเย็นและร้อนรวมกันจนสภาวะหนึ่ง การแพร่ถึงกันของธาตุเหล่านั้น คงเจอจุดสมดุล
  • คนตัวเองกันตั้งแต่วันนี้...อาจจะไม่สายหากจะไปให้ถึงฝัน
  • จะเจอหรือไม่ อยู่ที่เรา.... จะคนตัวเอง หรือให้คนอื่นมาคนเรา หรือจะอะไรอื่นๆ
  • วน วก เวียน วัง คน

ขอบคุณพี่มากครัีบ คิดไปเพ้อไปนะครัีบ

 

ถึงเพื่อนๆทุกท่านครับ

ขอเวลานิดหนึ่งนะครับจะเข้ามาแลกเปลี่ยน พอดีตอนนี้มีงานด่วนเข้ามาครับ

ขออนุญาตไปทำงานด่วนก่อนนะครับ

ขอบคุณมากที่เข้ามาดูสีที่แตกต่างและ ขดของสี อิอิ

ขอบคุณครับ เดี๋ยวมาครับ

  • หมอเจ๊ว่า  6 รูปนี้คือรูปเดียวกัน แต่ถ่ายด้วยมุมใกล้ไกลต่างกัน มันเลยมีความต่างอยู่ที่มุมมอง 
  • มุมมองที่แตกต่าง มันเกิดจากยืนมองคนละจุด ใกล้ไกลเป็นตัวบอกรายละเอียดต่างไป
  • ถ่ายไกล เห็นภาพรวมที่สัมพันธ์กัน แต่ไม่เห็นรายละเอียด  ถ่ายใกล้เข้าไปอีกเห็นรายละเอียดชัดขึ้น แต่เริ่มไม่เห็นภาพรวมที่สัมพันธ์กัน  ความสัมพันธ์กันบางส่วนเท่านั้นที่เห็น   ถ่ายใกล้มากๆไม่เห็นควมสัมพันธ์รอบตัวที่อยูห่างออกไป
  • ........
  • ความสัมพันธ์เป็นเกลียวพลวัตร
  • ต้องการให้ได้องค์รวม ครบถ้วนทุกมุม การรู้จักมองความต่าง ความเหมือนให้เห็นทุกๆมุม ทั้งใกล้ทั้งไกลช่วยได้มากเลย  ถ้าทำได้อย่างนี้จะวิเศษมากๆเลย
  • ........
  • ในแง่ความต่าง ต่างมากน้อยแค่ไหนระยะใกล้ไกลคือตัวขมวด ยิ่งห่างยิ่งดูไม่ออก ปมขมวดอยู่ที่ตรงไหน  คนอยู่ห่างมาแก้ คนอยูใกล้อยู่เฉย ปมเลยยิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น

อีกมุมมองหนึ่งเพิ่มเิติมครัีบ

    ดอกทานตะวันดอกนี้ ก็รวมกันเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะธาตุร้อน(ดอก) และธาุตุเย็น(ใบ) ก็ต้องทำงานร่วมกันประสานกันเป็นหนึ่ง ร้อนกับเย็นมีเป็นธรรมดา ทำให้เกิดพลังในการขับสู่ความเป็นจริง ขั้วบวกและลบ สังคมนิยมและสังคมทุน  เหยื่อและผู้ล่า จะต้องขับกันต่อไปในวังวน เพราะนี่คือโลกแห่งความจริงของคนที่คนเข้าหากัน แบบหนีไ่ม่พ้น... แตกต่างได้และก็ร่วมกันอยู่ได้ไม่ว่าจะอยู่ในจิตเดียวกัน องค์กรเดียวกัน สังคมเดียวกัน อ่างเดียวกัน...

    ความสมดุลอยู่ที่ใด....ใครจะตอบได้เล่า....หากไ่ม่ใช่ใจเรา

พุทธะ...นะปลงฯ

เพื่อนๆทุกท่านครับ  นี่คือภาพต้นฉบับครับ

เป็นใบกล้วยที่มีขอบออกสีเหลือง ถ่ายมา ไม่ชัดด้วยครับ
ผมเอาไปเข้าโปรแกรมหนึ่งแล้วสร้างภาพอีกเป็นสิบๆภาพออกมาดังที่คัดเลือกมาลงใน คิดถึง...๑ นี่แหละครับ
มันน่าสนใจและให้มุมมองมากมายจึงลองเอามาฝากเพื่อนๆลองจินตนาการดูครับ

สวัสดีครับ  P  1. เด็กข้างบ้าน

ผมคิดถึง 2 เรื่อง ครับ

  1. แว๊บแรก มองเห็นเป็นเรื่อง ความละเอียด ความหยาบ ของจิตใจครับ
  2. แขวนไว้สักพัก กลับมองเห็นเป็นว่า ต้องมองแบบ "องค์รวม" หรือ ภาพรวม จึงจะเห็นความจริง ประมาณนั้นก่อนครับ อิ อิ

ขออภัยที่มาแลกเปลี่ยนช้าไปหน่อยนะครับ

  • จริงๆแล้วไม่มีผิดไม่มีถูกหรอกครับเรื่องการมอง แล้วแต่เราจะจินตนาการ หรืออ่านสื่อออกมาอย่างไรก็ถูกทั้งนั้นแหละครับ
  • เพราะเรามีเบ้าหลอมที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องของจินตนาการ
  • สำหรับมุมมองของน้อง น่าสนใจครับที่คิดถึง ความหยาบ ละเอียดของจิต จริงๆก็เป็นเช่นนั้น จิตหยาบมันก็มีที่มาที่ไป จิตละเอียดก็เพราะการพัฒนา ฝึกฝน จิตก็สามารถละเอียด และหากถึงที่สุดก็หาขอบเขตมิได้เช่นกัน

ขอบคุณครับ

ครูบาครับ

ใจอยากมาช่วยงานช่วงที่น้องหมอเจ๊ขึ้นมา แต่ติดภาระต้องไปหาคุณหมอ และไปงานศพที่จังหวัดเลย และต้องเตรียมการประชุมอีกครับ...

สวัสดีครับอาจารย์น้อง P 3. กมลวัลย์

เข้ามาดูสองรอบแล้ว..ยังนึกอะไรไม่ค่อยออกเลยค่ะ ^ ^

 

อิอิ...มันก็น่าจะงงๆหรอกครับ ไม่มีเค้าบ่งบอกอะไรเลยนะครับ อิอิ.. อย่าไป serious แต่แหย่เล่นๆน่ะครับ

สวัสดีครับคนเก่งของผม  P  4. Conductor

คิดว่าความแตกต่าง พอขมวดกันเข้า ก็แยกแยะไม่ออกครับ

 

จริงๆเป็นอย่างนั้น หากผมจะลองอธิบายว่า สีที่แตกต่างกันนั้นคือ ความต่างทางความคิดเห็นทางการเมือง

เมื่อเอาความเป็นมนุษย์ที่บริสุทธ์ผุดผ่องมาเป็นฐานแห่งการอยู่ร่วมกัน การที่จะอยู่ร่วมกันได้ก็คือการพยายามลดความต่างออกไป เดินเข้าหากัน และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ สังคมมนุษย์เคยทำ และทำมาแล้ว

ร่างกายมนุษย์ก็เท่านั้นแหละ  แต่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือใจข้างใน  หากใจคิดจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่  ใจนั้นก็จะบังคับให้กายทำในสิ่งที่ใจอยากให้ทำซึ่งสิ่งนั้นๆอาจจะถูกต้องแล้ว  หรือไม่ถูกต้องก็ได้

การรวมเป็นหนึ่งคือการแบ่งสิ่งที่มีให้เพื่อน และเพื่อนก็แบ่งสิ่งที่เขามี มันก็จะไม่เขียว ไม่เหลือง มันจะเขียวปนเหลือง หากทำโปรแกรมนี้ถึงที่สุด มันก็เป็นสีเดียวเท่านั้น

หากเราหาจุดร่วมได้ สังคมก็เป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น
ที่มันขัดแย้งกันมาเป็นพันๆปีเพราะใจข้างในต่างหากที่ไม่รวม และเป็นใหญ่เสมอ

วุ้ย...ประทานโทษไม่ได้เทศน์นา....

สวัสดรครับน้องสาว P  5. เบิร์ด

เบิร์ดคิดถึงการเมืองค่ะ ทั้ง 2 ขั้ว และสิ่งที่เราเห็นนั้นยังมีสิ่งที่นอกเหนือออกไปอีกมากมายที่เราไม่เห็นและไม่ทราบและควรค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงประกอบด้วยน่ะค่ะ

ใช่เลย น้องเบิร์ด

พี่อธิบายไว้ในบันทึกเรื่อง "มิติที่ต่างเป็นสิ่งปกติ" เพราะมีพื้นที่ U ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการเมืองของประเทศนี้ที่เราๆท่านๆไม่รู้ไม่ทราบข้อมูลจำนวนหนึ่ง แต่มีผลกระทบมากเพราะมีผลประโยชน์อยู่ด้วย

 

นอกจากนี้การหมุนวนของเกลียวสี 2 สี ที่ค่อยๆเชื่อมเข้าหากันในรูปสุดท้ายจนกลายเป็นสีออกน้ำตาลทำให้คิดว่ากว่าจะมองที่เป้าหมายเดียวกันและเดินไปด้วยกันได้จะต้องอาศัยแรงเหวี่ยงที่รุนแรงขนาดไหน และจะเหลือคนอยู่เท่าไหร่น่ะค่ะพี่บางทราย

เข้าใจจินตนาการนะครับ พี่เองศึกษาประวัติศาสตร์บ้าง ก็เรียนรู้ความจริงข้อนี้ ข้อที่น้องเบิร์ดแสดงอยู่นี่แหละ  ดูซิ  ออกป่ามาด้วยกัน สู้รบกันมา กอดคอกันร้องให้ และบางคนถึงกับสาบานต่อน้ำดินไฟ แต่แล้ววันนี้ก็อยู่กันคนละขั้วการเมือง แรงเหวี่ยงนี้มีความแรงมากครับ มันเหวี่ยงใจให้กระเด็นกระดอนออกจากฐานเดิมได้.. 

และท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นสีใด ในภาพสุดท้ายบางส่วนก็ไม่ได้เป็นสีเดิมของตนเองเลยแม้แต่น้อยค่ะท่านพี่ ^ ^

ใช่แล้ว  ใครจะเรียก win-win ใครอาจจะเรียกผสมผสาน ใครอาจจะเรียกอลุ่มอล่วยกัน โดยเอาทุกอย่างมาจัดใหม่ให้อยู่ด้วยกันได้

 

นี่มองแบบปล่อยวางแล้วนะเนี่ย อิ อิ อิ

 

วางเสียนิ่งสนิทเลยน้องเบิร์ด

สวัสดีครับ P  6. ครูเอ

คิดถึงสิ่งที่แตกต่างกัน  มาบรรจบกันด้วยจังหวะ เวลาที่เหมาะสม จนกลมกลืน หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียว 

อยากเห็นคนไทยเป็นแบบนี้จริงๆ เฮ้อ

 

ถูกใจหลายเด้อครับครูเอครับ

หากใจไม่มาหลอมเข้าด้วยกัน ปัญหามันก็เกิดขึ้นไม่มีที่สิ้นสุดน่ะครับ เราทุกคนอยากเห็นการหลอมเข้าหากันไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม

ป๊าดดดดดด น้องขจิต ถูกใจ พี่...เพราะพี่อ้วน อิอิอิอิ

สวัสดีครับน้องเม้ง P  8. เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

    โอ... นี่เอาพระธรรมมาฝากกันเลยนะครัีบ แบบนี้ขอเอาวิญญาณปรัชญาเข้าสิงหน่อยนะครับ

เรื่องนี้ในความเห็นผม ผมคิดว่าอธิบายคำว่า คน ได้ดีมากๆ เลยครับ

  • คน... มีสองธาตุในจิต  ธาตุจิตเย็น(เขียว) และธาตุจิตร้อน(เหลือง)
  • เกลียววนเวียน คดเคี้้ยวผสมผสานทั้งเย็นทั้งร้อนอยู่ในอ่างความคิด อ่างสำนึก อ่างปัญญา

ถูกใจโก๋ (แก่) จิตเราวิ่งไปมาระหว่างจิตร้อนและเย็นจริงๆ พี่เองสังเกตตัวเองก็มีลักษณะเช่นนั้นอยู่บ้าง บางวันขึ้นสูง บางวันต่ำ เพราะเรายังเป็นปุถุชน

สังคมอุดมคติทางธรรมจึงเน้นเรื่องการฝึกจิต  ซึ้งเป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับคนที่ไม่ตกผลึกทางจิต

ขอบคุณครับน้องเม้ง

 

สวัสดีครับ P  10. หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ

  • หมอเจ๊ว่า  6 รูปนี้คือรูปเดียวกัน แต่ถ่ายด้วยมุมใกล้ไกลต่างกัน มันเลยมีความต่างอยู่ที่มุมมอง 
  • มุมมองที่แตกต่าง มันเกิดจากยืนมองคนละจุด ใกล้ไกลเป็นตัวบอกรายละเอียดต่างไป
  • ถ่ายไกล เห็นภาพรวมที่สัมพันธ์กัน แต่ไม่เห็นรายละเอียด  ถ่ายใกล้เข้าไปอีกเห็นรายละเอียดชัดขึ้น แต่เริ่มไม่เห็นภาพรวมที่สัมพันธ์กัน  ความสัมพันธ์กันบางส่วนเท่านั้นที่เห็น   ถ่ายใกล้มากๆไม่เห็นควมสัมพันธ์รอบตัวที่อยูห่างออกไป

เป็นรูปเดียวกันครับ อย่างที่พี่เอารูปต้นฉบับมาให้ดูนั่นแหละครับ  พอเอาเข้าโปรแกรมและสั่งให้ทำงาน มันก็ออกมาหลายรูปแบบที่สามารถให้ทำต่อเนื่องกันได้  เลยนึกถึงอะไรหลายๆอย่างน่ะครับ เอามาให้ดูกันครับ

 

  • ........
  • ความสัมพันธ์เป็นเกลียวพลวัตร
  • ต้องการให้ได้องค์รวม ครบถ้วนทุกมุม การรู้จักมองความต่าง ความเหมือนให้เห็นทุกๆมุม ทั้งใกล้ทั้งไกลช่วยได้มากเลย  ถ้าทำได้อย่างนี้จะวิเศษมากๆเลย

จริงครับหากรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ ความต่างก็จะกลายเป็นเสริมกันไปได้หากจิตมารวมศูนยในเรื่องเดียวกัน เช่นเราเห็นพลังเสื้อเหลืองมาแล้ว ....

  • ........
  • ในแง่ความต่าง ต่างมากน้อยแค่ไหนระยะใกล้ไกลคือตัวขมวด ยิ่งห่างยิ่งดูไม่ออก ปมขมวดอยู่ที่ตรงไหน  คนอยู่ห่างมาแก้ คนอยูใกล้อยู่เฉย ปมเลยยิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น

นี่ก็เป็นความจริง ระยะห่างมีความสำคัญทั้งบวกและลบ คนอยู่ใกล้มองไม่เห็นก็มีครับ ยกตัวอย่าง พี่ทำงานเรื่องงานสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ดงหลวง คิดแทบหัวจะแตกว่าจะทำอย่างไรจึงจะส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์สมกับการลงทุน ลองนั่นก็แล้ว ลองนี่ก็แล้ว   เพียงเชิญผู้เชี่ยวชาญมาดูแค่วันหนึ่งก็บอกทางออกที่เราไม่คาดคิดมาก่อน ก็เกิดขึ้นแล้วครับ  เราติดกับปัญหามากไปก็มองไม่เห็นประเด็นเหมือนกัน สมองเราจึงต้องฝึกการ ซูมอิน ซูมเอ้าท์ เหมือนกล้องถ่ายรูปน่ะครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท