สาปแช่งคนชั่ว
|
สาปแช่งคนชั่ว
อ้างอิง - ภาพ http://smcharity.multiply.com/
เห็นความพยายาม และการร่วมมือของชาวบ้าน ต่อกรณีการทุบวัตถุโบราณปราสาทพนมรุ้ง ทำให้ต้องคิดต่อคิดยาว ในแต่ละพิธีกรรมสาปแช่งคนชั่ว และการทำพิธีเพื่อแช่งชักหักกระดูก ให้คนที่ทำลายสมบัติชาติสมบัติแผ่นดิน ต้องประสบบาปเคราะห์ในผลของการกระทำ ที่สร้างความเสียหาย และเศร้าเสียใจให้กับคนไทยมากมาย ไม่นับรวมความเป็นสมบัติบนแผ่นดินบุรีรัมย์
แต่สิ่งที่เสียหายคือสมบัติชาติ สมบัติของคนไทยทุกคน ที่ต่างภาคภูมิใจ ในสิ่งที่ตกทอดสืบเนื่องกันมา จนถึงรุ่นลูกหลานได้ร่วมภาคภูมิใจในคุณค่าแห่งความงดงาม และภูมิปัญญาของผู้คนบนแผ่นดินสุวรรณภูมินี้ ยิ่งได้เห็นพิธีกรรม และปฏิบัติการแบบชาวบ้าน ยิ่งทำให้ผมต้องตระหนัก และตั้งคำถามกับตัวเอง ถึงความไร้ประสิทธิภาพของภาครัฐ
ที่ไม่สามารถ จะเยียวยาความสูญเสีย หรือขจัดปัดเป่าความเจ็บช้ำน้ำใจ จนกระทั่งถึงการสร้างปฏิบัติการ เพื่อให้ประชาชนคนไทยทั่วไปได้สบายอกสบายใจ จนกระทั่งต้องออกมาสร้างปฏิบัติทางจิตวิญญาณ ว่ากันด้วยกฎหมายไม่ได้ ว่าด้วยการลงโทษทางสังคมไม่เห็นผล ก็ต้องลงด้วยการแช่งชัก และปฏิบัติการว่าด้วยมนต์คาถา และพิธีกรรมมนต์ดำทั้งหลาย
สะท้อนภาพด้วยใจบริสุทธิ์ของผู้คน ที่รู้สึกรู้สากับความสูญเสีย และพร้อมจะต่อสู้ ไม่ว่าโดยหนทางใด เพื่อบำบัดเยียวยาและปลอบปลุกขวัญของประชาชนกันเอง มากกว่าจะมารอหน่วยงานสันติราษฎร์ พิทักษ์รักษาความสงบสุข และสร้างความเรียบร้อยให้กับชาวบ้าน ไม่ใช่เพราะสิ่งเหล่านี้หรือ สำหรับตราครุฑของข้าราชการหน่วยงานต่างต่าง ที่ต่างไม่สามารถปกป้องทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่นับรวมที่จะสร้างเครือข่ายกับพี่น้องประชาชน
ไม่มีหนทาง ที่จะสร้างกลไกระหว่าง รัฐกับประชาชนเพื่อร่วมพิทักษ์รักษา สำหรับสายตาของผมแล้ว พิธีกรรมที่เกิดขึ้นของชาวบ้านบุรีรัมย์ น่าจะเป็นคำตอบสำคัญ สำหรับข้าราชการทั้งหลายในจังหวัด ได้ตระหนักต่อความจริงของการต่อสู้ทางวัฒนธรรม และสร้างพื้นที่อันสงบสุขภายในจิตใจประชาชน ไม่นับรวมกับมนต์ดำมายาต่างต่างที่มีประสิทธิภาพ
ในการบำบัดเยียวยาใจของผู้คนได้มากกว่า การปฏิบัติตามหน้าที่ของข้าราชการ หรือกระทั่งการทำตามกฎหมาย ในท่ามกลางความศักดิ์สิทธิ์ และเข้มงวดที่หน่วยงานรัฐไทย พยายามจะสร้างภาพฝันให้ประชาชนคนไทยเชื่อว่าทำได้ แต่สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ เช่นที่เราได้มีโอกาสแลเห็นสมบัติของชาติมากมาย ถูกโจรกรรมลักขโมย ทำร้ายทำลายและสร้างความเสียวิบัติจนต้องมาเจ็บปวดใจ
วันนี้ภาครัฐไทย ควรถึงคราต้องมาตระหนัก และใคร่ครวญกับความจริงในการทำงาน ต่อประสิทธิภาพที่ลดต่ำลง และไร้ซึ่งความคาดหวังในการปกป้องความภาคภูมิใจของชาติ ภาครัฐไทยคงต้องหันกลับมามองสายตา ความรักท้องถิ่น และความเป็นคนไทยของชาวบ้านร้านตลาด ที่พร้อมจะเป็นส่วนสำคัญในการพิทักษ์รักษาท้องถิ่นของพวกเขาเอง มากกว่าจะแจกเงิน
อ้างว่าอนุมัติงบประมาณเพื่อแก้ไข โดยไม่สนใจกระบวนการ เพื่อการมีส่วนร่วม และเพื่อสร้างความร่วมมือร่วมใจของประชาชน ในแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศไทย ไม่ใช่การเพียงอธิบายถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของข้าราชการ ที่นั่งทำงานอยู่แต่ศาลากลางจังหวัดอันใหญ่โต แต่หมายถึงกระบวนการ เพื่อสร้างกลไกและการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้น
ไม่มีแม้แต่น้อย สำหรับการรับฟังความคิดเห็น และกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และกลไกแห่งความรักความห่วงแหน ที่พร้อมเป็นหนึ่งในผู้ปกป้องสมบัติของชาติ มากกว่ายืนมองยามเย็นที่ยามของโบราณสถานต่างต่าง ปิดประตูลงกลอนล้อมรั้ว กระทั่งเก็บความภาคภูมิใจเหล่านั้น ด้วยบทบาทภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของภาครัฐไทย
วันนี้ผมขอชื่นชมนวตกรรมแบบชาวบ้าน เมื่อนวตกรรมของรัฐไร้ความหมาย ชาวบ้านจึงต้องสร้างขึ้นมาเอง สำหรับพิธีกรรมชาวบ้าน สำหรับกระบวนการทวงคืนความภาคภูมิใจ การประดิษฐ์คิดค้นนวตกรรม เพื่อแช่งชังหักกระดูกคนโกงบ้านกินเมือง และคนที่เที่ยวหลอกลวงคนไทย ผมให้คะแนนความตั้งใจ คะแนนความพยายามที่ถึงพร้อมด้วยความรักความผูกพัน ด้วยจิตวิญญาณรักแผ่นดิน
วันนี้ผมไม่คิดอะไรมาก เมื่อเห็นพิธีกรรมความเชื่อแบบชาวบ้าน ว่ากอปรด้วยเหตุด้วยผลอย่างยิ่ง ในยามที่เจ็บแค้น วิธีการนี้ น่าจะเตือนจิตใจนักการเมืองไทยได้ดี นะครับ ยามท่านจะโกงจะกินบ้านเมือง
หมายเหตุ : ภาพถ่ายนี้เป็นผลงานสร้างสรรค์ และร่วมกันสร้างสรรค์ เพื่อสร้างชุมชนแห่งไมตรีจิต รวบรวมความช่วยเหลือ และน้ำใจไมตรี ในการสนับสนุนการทำงานของวัดพระบาทน้ำพุ หากสนใจ ภาพถ่าย ภาพโปสการ์ต สามารถติดต่อ ได้ที่ http://smcharity.multiply.com/ |
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น