AnthroCat-Thailand
นาย ปรัชญาณินทร์ วงศ์อทิติกุล

รถควันดำ กับ ราคาที่ขึ้นเอา ขึ้นเอา


การขอขึ้นราคาในครั้งนี้ ผมว่าเป็นการฉวยโอกาสและอ้างเอาซึ่งสภาวะของราคาน้ำมันของกลุ่มผู้ประกอบการเดินรถเอกชนมากกว่า เพราะที่ผ่าน ๆ มาราคาค่าโดยสารก็แพงกว่าของ ขสมก. อยู่แล้ว น่าจะมีกำไรมากกว่า ที่สำคัญ การประกอบธุรกิจเดินรถของกลุ่มเจ้าของเอกชน ก็ไม่เคยให้ความสนใจต่อการจัดการปัญหาควันดำ บริการที่ย่ำแย่ มาก่อนเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ผมคิดว่าการอนุญาตให้ขึ้นราคาค่าโดยสารในขณะนี้ เป็นการ “ตบหน้า” ประชาชนในกรุงเทพฯอย่างจัง และถือว่าเป็นการร่วมมือกันทั้งสามฝ่าย คือ กระทรวงคมนาคม ตำรวจจราจร และกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเดินรถเอกชน นอกจากไม่คิดจะแก้ไขแล้ว ยังจะหวังเอาแต่ได้

ผมเคยบันทึกความเห็นเกี่ยวกับรถควันดำมาแล้วครั้งหนึ่ง ดังที่อยู่ข้างบนนี้

          มาวันนี้ เรื่องรถควันดำกับราคาค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผมอึดอัดคับแน่นในหัวอกเป็นที่สุด เพราะจากครั้งก่อนผมนำเสนอถึงความไม่ใส่ใจต่อสภาวะแวดล้อมและการเห็นแก่ได้ของกลุ่มผู้ประกอบการเดินรถ ที่ไม่เคยคิดจะปรับปรุงซ่อมแซมเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดี ที่ไม่ปล่อยควันดำให้เกิดมลพิษแก่สภาพอากาศและทำร้ายปอดคนที่อยู่ในเมืองกรุงเทพฯอย่างเช่นทุกวันนี้

            การขอขึ้นราคาในครั้งนี้ ผมว่าเป็นการฉวยโอกาสและอ้างเอาซึ่งสภาวะของราคาน้ำมันของกลุ่มผู้ประกอบการเดินรถเอกชนมากกว่า เพราะที่ผ่าน ๆ มาราคาค่าโดยสารก็แพงกว่าของ ขสมก. อยู่แล้ว น่าจะมีกำไรมากกว่า ที่สำคัญ การประกอบธุรกิจเดินรถของกลุ่มเจ้าของเอกชน ก็ไม่เคยให้ความสนใจต่อการจัดการปัญหาควันดำ บริการที่ย่ำแย่ มาก่อนเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ผมคิดว่าการอนุญาตให้ขึ้นราคาค่าโดยสารในขณะนี้ เป็นการ “ตบหน้า” ประชาชนในกรุงเทพฯอย่างจัง และถือว่าเป็นการร่วมมือกันทั้งสามฝ่าย คือ กระทรวงคมนาคม ตำรวจจราจร และกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเดินรถเอกชน นอกจากไม่คิดจะแก้ไขแล้ว ยังจะหวังเอาแต่ได้ 

            จึงขอเรียกร้องให้มีการพิจารณาเรื่องนี้บ้าง และถ้าหากเป็นไปได้ว่า บริษัทเดินรถเอกชนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ก็ให้ ขสมก. เป็นผู้ให้บริการรายเดียวจะเป็นไรไป อย่างน้อย ขสมก. ก็จะได้ไม่อ้างว่า “ขาดทุน” อยู่ร่ำไป และถ้ามีรายเดียว ยอมเป็น monopoly ไปก่อน เพื่อให้รัฐวิสาหกิจประเภทนี้พ้นจากวังวนของ “การเป็นหนี้” แล้วจึงค่อยปล่อยสัมปทานใหม่ก็ได้ คงไม่แปลกอะไร

หมายเลขบันทึก: 184459เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2008 17:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เมื่อก่อน มียี่สิบบาท ไปไหนมาไหนได้ทั่ว เดี๋ยวนี้มียี่สิบบาท จะกลับไม่ถึงบ้าน จะว่าไป ออกจากปากซอยบ้านก็หมดแล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท