เป็นคนกรุงเทพฯที่โชคดีมีบ้านอาศัยอยู่ริมคลอง อยู่ชานกรุงที่ยังมีสภาพแวดล้อมเป็นธรรมชาติ อากาศยังบริสุทธ์ และมีบริเวณให้ต้นไม้นานาพรรณได้เป็นแหล่งผลิตออกซิเจน ช่วยลดสภาวะโลกร้อน และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเหล่าสรรพสัตว์น้อยใหญ่ กระรอก นกหลายชนิด (รู้จักชื่อยังไม่ครบ) หนู งูก็เยอะในช่วงหน้าฝน แต่มีหมาเยอะจึงไม่ค่อยกลัวงู(ยังนับได้จำนวนไม่แน่นอน มีมากกว่า 30 ตัวแน่ๆ ขอยืนยัน ) ในคลองข้างบ้านก็มีปลามากพอให้ชาวบ้านได้จับกิน น้ำในคลองสมัยเป็นเด็กนั้นใส สะอาดที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ แต่ในปัจจุบันเมื่อชุมชนขยายตัวมีคนอยู่อาศัยมากขึ้น คุณภาพของน้ำก็ลดลง เช่นเดียวกับคุณภาพชีวิตของคนก็ลดลงด้วย เมื่อ2-3 ปีที่ผ่านมาคณะครู นักเรียนโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญได้ร่วมทำโครงการฟื้นฟูคลองบางชันซึ่งไดรับความร่วมมือจากชุมชนเป็นอย่างดี ทำให้คลองมีสภาพที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง ก็ต้องรณรงค์กันอย่างต่อเนื่องตลอดไป
นอกจากบ้านอยู่ริมคลองแล้ว ยังอยู่ติดกับวัดด้วย จึงเป็นโอกาสดีได้ทำบุญบ่อยๆ และได้ช่วยเหลือครูอาจารย์ท่านอื่นเมื่อมีญาติต้องเข้าวัดฟังพระสวดช่วงค่ำๆ ...นี่แหละบ้านริมคลอง และใกล้วัด
สวัสดีจ้ะ ครูแหม่ม
- ขอเยี่ยมชมบ้านริมคลองด้วยจ้ะ สดชื่นจริงๆ อิ อิ อิ
- ยังไม่ขอใช้บริการที่อยู่ติดวัดแล้วฟังพระสวด ขอบคุณค่ะ
วิถีไทย..เดิม..เรียบ..แม่น้ำ
ทั่วหล้า..ฟ้าคราม..ต่างหน
ต่างถิ่น..ต่างผู้..เผ่าชน
รักษา..ป่าต้น..น้ำ..ลำธาร
แวะมาเยือนครับ
รพี กวีข้างถนน
ขอบคุณ...ท่านจัตุรัส และ กลอนภาษาสวยของ..ระพี..ค่ะ
สวัสดีครับ พี่แหม่ม
สวัสดีค่ะคุณครูแหม่ม
เหมือนกันเลยค่ะ บ้านอยู่ริมคลอง และไม่ไกลจากวัด ^_^
สวัสดีค่ะน้องโย่ง..มีโอกาสจะชวนมาเที่ยวที่บ้านค่ะ.
พี่แหม่มๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาเยี่ยมๆๆๆๆๆๆๆ
คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สวัสดีน้องแหม่ม
คิดถึงจังเลย
สวัสดีครับครูแหม่ม
คงจำเพื่อนคนนี้ที่ชื่อ พลรัฐ บุญกล่ำ
สมัยเรียนประถมด้วยกันได้นะครับ 36 ปี
แล้วสินะ ที่เราไม่ได้เจอกันเลย
แหม่มยังอยู่ในความทรงจำของผม
และยังคิดถึงเสมอนะครับ
อ๊อด เชียงใหม่