ที่เฮฮาศาสตร์ 4
ภูเก็ตผมนั่งฟังเด็กนักเรียนสตรีภูเก็ตบรรยายเรื่องราวที่เธอทำการศึกษาวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับต้นไม้
ผมประทับใจ ผมเองก็สนใจเรื่อง ต้นไม้ การเกษตร และ
สิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย
อยากจะแนะนำเรื่องความชื้นสัมพัทธ์ให้เป็นองค์ประกอบในการศึกษาครั้งต่อไปด้วย
ช่วงที่นักเรียนบรรยายจบก็ไปคุยกับอาจารย์ผู้ดูแลเด็กว่า
แนะนำเรื่องความชื้นสัมพัทธ์ และสัญญาว่าจะจัดส่งโปรแกรมมาให้
เพื่อพิจารณานำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
โปรแกรมที่กล่าวถึงคือการคำนวณหาความชื้นสัมพัทธ์ของบรรยากาศ
แต่ต่อมาพบว่าโปรแกรมที่ผมมีเสียหายใช้ไม่ได้
จึงไปขอท่านอุตุนิยมวิทยาเมืองมุกดาหารใหม่ ท่านก็บอกว่า
เข้าไปใน Web
ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ชื่อ www.tmd.go.th
เลยในนั้นมีรายละเอียดอื่นๆด้วย
ความชื้นสัมพัทธ์คืออะไร?
ขอสรุปสั้นๆว่า คือ อัตราส่วน (เป็นร้อยละ)
ของจำนวนไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศในขณะนั้น
ต่อจำนวนไอน้ำที่อาจจะมีอยู่ได้
เมื่ออากาศนั้นอิ่มตัวด้วยไอน้ำที่อุณหภูมิเดียวกัน หรือ คำอธิบายยาวๆ
คือ อัตราส่วนโดยมวลของไอน้ำในอากาศในขณะหนึ่ง(ที่อุณหภูมิหนึ่ง) ต่อ
ไอน้ำสูงสุดที่อากาศ (ที่อุณหภูมินั้น) สามารถแบกรับไว้ได้
การที่เรามีอากาศหนึ่งที่มีความชื้นสัมบูรณ์เป็น 100%
จะหมายความว่าอากาศนั้นได้ "อิ่มตัว"
(Saturated) และไม่สามารถรับไอน้ำไว้ได้อีกต่อไป
ถ้าเราพยายามใส่ไอน้ำเป็นปริมาณเกินกว่าที่อากาศสามารถแบกรับไว้ได้แล้ว
ไอน้ำส่วนที่เกินนั้นจะ "กลั่นตัว" (Condense)
ออกมาเป็นหยดน้ำเหลือไว้แต่เพียงปริมาณไอน้ำที่ยังคงอิ่มตัวและมีความชื้นสัมพัทธ์เป็น
100% อยู่
เราคุ้นเคยกับปรากฏการณ์นี้ว่าการเกิดฝนนั้นเอง
ความชื้นสัมพัทธ์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
: ในกระบวนการทาง ไบโอเทคโนโลยี
(Biotechnology)
ความชื้นสัมพัทธ์มักเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ เช่น
เทคโนโลยีการหมัก (Fermentation Technology)
เป็นกระบวนการหมักในระบบอุตสาหกรรมที่จะต้องควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ให้คงที่
เป็นต้น
นักป่าไม้กล่าวว่า
ความชื้นสัมพัทธ์ในบริเวณป่าต่างๆเป็นตัวบ่งชี้หนึ่งของชนิดป่านั้นๆด้วย
ในอุตสาหกรรมเส้นใย
ยิ่งมีความสำคัญยิ่งในการควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ในการผลิตเส้นใยและการถักทอเส้นใยต่างๆ
และอื่นๆอีกมากมาย
ในเรื่องนี้
ชาวบ้านที่อำเภอคำชะอีสรุปให้ฟังว่า
การทำนาในหุบเขาหนึ่งของอำเภอนี้พบว่าข้าวพันธุ์เดียวกันซึ่งนักส่งเสริมการเกษตรแนะนำ
ปลูกในช่วงเวลาเดียวกันที่ตำบลหนึ่งซึ่งอยู่ในหุบเขามักเกิดโรครา
และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผลผลิต
ในขณะที่ตำบลอื่นๆที่อยู่นอกหุบเขาไม่เกิดโรครา
และไม่กระทบต่อผลผลิตข้าวแต่อย่างใด ชาวบ้านท่านนั้นยังกล่าวต่อไปว่า
ผมลองเปลี่ยนพันธุ์ข้าวเป็นเบามากขึ้น(ข้าวอายุสั้น)
พบว่าไม่เป็นโรคราแต่อย่างใด
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆที่ชาวบ้านผู้ช่างสังเกตต่อปรากฏการณ์ธรรมชาตินั้นเล่าให้นักเกษตรฟัง
เมื่อนักเกษตรเฝ้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวในฤดูกาลผลิตต่อมาพบว่า
ในหุบเขานั้นมีความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่าพื้นที่อื่นๆ
เขาจึงเฉลียวใจขึ้นมาว่า
บรรพบุรุษใช้พันธุ์ข้าวพื้นบ้านเดิมพันธุ์อะไร
แล้วแนะนำให้เกษตรกรนำพันธุ์ข้าวดั้งเดิมมาใช้ทำการผลิตแทนพันธุ์ข้าวที่ทางราชการส่งเสริม..?
ซึ่งพบว่าไม่พบเชื้อราแต่อย่างใดอีกเลย
“นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พิสูจน์ภูมิปัญญาชาวบ้านดั้งเดิมนั้นสอดคล้องกับวิถีชีวิตและที่ตั้งชุมชนนั้นๆมากกว่าวิชาการสมัยใหม่”
ดังนั้น
“นักวิชาการเกษตรและอื่นๆ
พึงระมัดระวังการนำความรู้สมัยใหม่เข้าไปสู่ชุมชน
โดยไม่เข้าใจสภาพเฉพาะของท้องถิ่น” !!!
การศึกษาความชื้นสัมพัทธ์นี้
เราสามารถทำเป็นกิจกรรมร่วมระหว่างเกษตรกรและองค์การบริหารส่วนตำบลที่มีระบบคอมพิวเตอร์หมดแล้ว
โดยให้เกษตรกรผู้สนใจทำการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
เมื่อครบระยะเวลาหนึ่งเช่น 1 สัปดาห์ 1
เดือน ก็เอาบันทึกนั้นไปให้
อบต.ช่วยเข้าระบบเครื่องคำนวณความชื้นสัมพัทธ์ให้ได้
ขออธิบายเป็นขั้นตอนต่อไปนี้
จัดหาเทอร์โมมิเตอร์ที่มีสองตุ้ม
ฟังดูแปลกๆนะครับศัพท์ทางอุตุนิยมวิทยาเขาเรียกตุ้มแห้งตุ้มเปียกครับ
มีขายที่ร้านขายเครื่องเขียนขนาดใหญ่ ผลิตในไต้หวันราคาประมาณ
260
บาท(ที่มุกดาหาร)
วิธีใช้
เอาน้ำใส่ในกระเปาะตุ้มเปียก แล้วแขวนไว้ในที่ร่ม
แล้วอ่านค่าปรอทของตุ้มแห้งและตุ้มเปียก บันทึกไว้ในสมุดบันทึก
ที่อาจทำมาในแบบที่เหมาะสมกับผู้ใช้
การจดค่าปรอททั้งตุ้มแห้งและเปียกนี้จดในเวลาไหน นักอุตุฯ อธิบายว่า
ทุกวันควรจดสามครั้งคือเวลา 7.00 น. เวลา 13.00
น. และ 18.00 น.
หรืออาจคลาดเคลื่อนเวลาจากดังกล่าวไปบ้างก็ไม่เป็นไร
เมื่อบันทึกค่าปรอทของตุ้มแห้งและเปียกแล้ว
ก็เอาค่านั้นไปคำนวณในระบบคอมพิวเตอร์ โดยเปิดไปที่
web www.tmd.go.th
หน้าตาจะเป็นอย่างนี้ครับ
หน้าตานี้ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุตุนิยมวิทยาของเมืองไทยมากมายครับ
เช่น พยากรณ์อากาศประจำวัน พยากรณ์อากาศ 7 วัน รายงานอากาศต่างประเทศ
อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร พยากรณ์คลื่นทะเล เรดาร์ตรวจอากาศ
ภาพถ่ายดาวเทียม แผนที่อากาศ ข้อมูลลุ่มน้ำ NWP Model,
จนกระทั่ง เตือนภัย เส้นทางเดินพายุ รายงานแผ่นดินไหว ข้อมูล
GIS การเฝ้าระวังปรากฏการณ์เอลนีโญ-ลานีญา
พยากรณ์อากาศ 3 เดือน คาดหมายอากาศฤดูฝน
พายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ฯลฯ
ข้อมูลเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์แก่เกษตรกร พ่อค้า นักศึกษา นักวิชาการ
และผู้สนใจทั่วไป
เมื่อเราต้องการคำนวณเราก็ไปที่เครื่องคำนวณ
ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ (ตรงลูกศรสีแดงชี้)
เมื่อเราคลิกที่เครื่องคำนวณจะพบหน้าต่างเป็นอย่างนี้
เราก็ไปคลิกที่ หัวข้อความชื้น
หัวข้อย่อย Dewpoint และ Relative
Humidity
จะได้หน้าต่างดังต่อไปนี้
จากนั้นเราเลือกที่หัวข้อใหญ่ชื่อ
Dewpoint & RH.
เราจะพบแถวบรรทัดที่เรียกว่าตุ้มแห้ง
และตุ้มเปียก
จากนั้นเราก็เอาค่าปรอทที่บันทึกได้ของตุ้มแห้งและตุ้มเปียกมีหน่วยเป็นเซลเซียส
ใส่ลงไปในช่อง แล้วกดคำนวณ
เราก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังภาพ
ตัวเลขที่ปรากฏนั้นเป็นค่าจริงที่ผู้บันทึกลองบันทึกเมื่อเวลา
17.00 น.
วันที่ 24 พ.ค. 2551 ที่ขอนแก่น
ค่าที่ได้คือ ค่าความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 92
---------------------------------------
ที่ดงหลวงเราร่วมกับผู้นำชาวบ้านเริ่มทำการบันทึกความชื้นสัมพัทธ์
โดยสรุปดังนี้
1:
โครงการซื้อเทอร์โมมิเตอร์ชนิดที่มีสองตุ้มให้ผู้นำเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้
2: ให้ผู้นำเกษตรกรนั้นๆ
ทำการบันทึกอุณหภูมิลงในตารางที่เราจัดทำขึ้นแบบง่ายๆ
พร้อมกับบันทึกข้อสังเกตต่างๆตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
เช่น มีฝนตก มาก น้อย
มีหมอกลง
มีแมลงบางชนิดปรากฏ พบเห็ดชนิดนี้เกิดขึ้น ฯลฯ
3:
เจ้าหน้าที่นำบันทึกอุณหภูมิที่เกษตรกรทำไว้มาคำนวณความชื้นสัมพัทธ์
ทุกสัปดาห์
แล้วนำข้อมูลนี้กลับคืนส่งเกษตรกรทั้งหมดเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกันต่อไป
แหล่งข้อมูล:
ความชื้นสัมพัทธ์ - วิกิพีเดีย -
http://www.tanapolvanich.com/html/Relative_Humidity_th.htm
ความชื้นสัมบูรณ์และความชื้นสัมพัทธ์