ครอบครัวเล็กๆ ที่กำลังเผชิญกับพายุร้าย
“เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณตีหนึ่ง พี่บุญชัย สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของ “ป้าสันที” ได้ถูกตำรวจจับในข้อหาค้าของเก่าที่สนามหลวง ฉันจึงถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ตีห้าด้วยความร้อนรนใจของทุกคนในครอบครัวนี้ว่าเรื่องราวเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับพี่บุญชัย”
พี่บุญชัยเป็นหนึ่งใน 8 สมาชิกของครอบครัวป้าสันทีที่เป็นคนไร้เอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลในรัฐไทย ครอบครัวนี้ตกเป็นคนไร้เอกสารฯ ได้อย่างไร เราคงจะต้องมาทำความรู้จักที่มาของป้าสันทีกัน
ป้าสันที คนมอญจากรัฐทวาย ในประเทศพม่า
ป้าสันที เป็นคนมอญ เกิดเมื่อประมาณปี 2489 ที่หมู่บ้านตำมุม เมืองหม่องเย รัฐทวาย ในประเทศพม่า
พอโตเป็นสาวอายุได้ 16 ปี ป้าสันที เดินทางด้วยเท้ามาเป็นเวลา 5 วันกับแม่เลี้ยง เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยไปอาศัยอยู่ที่ หมู่บ้านบ้านไร่ ตำบลปิเลาะ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในปี 2505
และก็ได้แต่งงานกับนายสอน คนมอญด้วยกัน ซึ่งเกิดและเคยเติบโตอยู่ที่บ้านตำมุม เมืองหม่องเย รัฐทวายเช่นเดียวกัน
ป้าสันทีและสามี ย้ายไปมาเพื่อรับจ้างทำไร่ อยู่ในแถบชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี
เช่น หมู่บ้านบ้านไร่ และ หมู่บ้านวังปะทุ ในตำบลปิเลาะ , ตำบลหินดาด ในอำเภอทองผาภูมิ และสุดท้ายได้มาปักหลักที่หมู่บ้านทุ่งก้างย่าง ตำบลบ้านไร่ อำเภอทองผาภูมิ โดยได้คลอดบุตร 5 แรกที่หมู่บ้านนั้น
“บุญชัย” ลูกชายคนสุดท้องเพียงคนเดียวที่เกิดในโรงพยาบาล
บุญชัยเป็นลูกคนที่ 6 และเป็นคนสุดท้องของป้าสันที แต่เนื่องจากเป็นการคลอดเกินกำหนด มดลูกป้าสันทีเกิดการอักเสบ ป้าสันทีจึงต้องไปทำคลอดที่โรงพยาบาล
บุญชัยจึงกลายเป็นลูกเพียงคนเดียวของบ้านที่เกิดในโรงพยาบาล[1] แต่ลูกทุกคนก้ได้เรียนหนังสือในโรงเรียน พี่บุญชัยเองก็ได้เรียนหนังสือถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3[2]
แต่พอบุญชัยเกิดมาได้ไม่นาน ทั้งครอบครัวของป้าสันที และคนมอญอื่นๆ อีกจำนวนมากก็ถูกทางการขับไล่ออกจากพื้นที่ของบ้านทุ่งก้างย่าง ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค
ความโชคร้ายที่มาเยือน...แค่เพียงเริ่มต้น
เมื่อถูกรื้อเผาหมู่บ้านทิ้ง ป้าสันทีและครอบครัวจึงอพยพกันไปอยู่ที่หมู่บ้านหม่องสะเทอ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี แต่ที่นั่น ป้าสันทีบอกว่าอาศัยอยู่กันอย่างลำบากมาก เพราะคนอยู่กันเยอะ ไม่มีที่ทำกิน ไม่มีงานให้รับจ้าง และพื้นที่ยังทุรกันดารมาก
พออยู่กันได้ไม่นาน ทางการก็มาสำรวจและจัดทำทะเบียนของชนกลุ่มน้อยให้ โดยได้ถ่ายรูปสมาชิกทุกคนในครอบครัวรวมกัน แต่ละคนมีหลายเลขประจำตัว และได้หลักฐานเป็นทะเบียนบ้าน ทร.13[3]
หลังจากทุกคนในครอบครัวได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียน พ่อสอนกับลูกสาวคนหนึ่งของป้าสันทีก็ต้องเสียชีวิตด้วยโรคมาลาเรีย เพราะความทุรกันดารมากของป่าในพื้นที่รอบที่อยู่อาศัย(รุ่นถูกปล่อยเข้าป่า ให้บุกเบิกที่อยู่กันเอง)
เมื่อสามีและลูกคนหนึ่งตาย ป้าสันทีก็ต้องเลี้ยงดูสมาชิกทุกคนเพียงคนเดียวทั้งๆ ที่เจ็บป่วยจากมดลูกอักเสบ จึงทำงานในไร่หนักๆ ไม่ได้ ป้าสันทีกลัวว่าลูกๆ อีก 5 คนจะตายเพราะไข้ป่าหรือไม่ก็ "อดตาย" อีก จึงเริ่มขยับขยายครอบครัวเข้ามาทำงานรับจ้างในเมือง โดยไม่ได้รอการถ่ายบัตรประจำตัวจากทางราชการ
ความโชคร้ายตลอดชีวิต...ที่ผ่านมา
จากเริ่มแรกที่ย้ายมาที่ด่านเจดีย์สามองค์ และตอนหลังก็ถูกชักชวนเข้ามาทำงานที่โรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ ป้าสันทีก็แทบไม่เคยกลับไปที่หมู่บ้านอีกเลย
ดังนั้นป้าสันทีและลูกๆ อีก 5 คนจึงไม่เคยมีเอกสารรับรองใดๆ จากทางราชการที่จะใช้แสดงตนว่าตนเคยได้รับการสำรวจจากทางราชการ
ช่วงแรกป้าสันทีก็ทำงานในโรงงานปุ๋ยเคมี และรับจ้างทั่วไป
ลูกๆ ก็ต่างช่วยกันทำงานกันเท่าที่จะทำได้ และต่างก็เริ่มมีครอบครัวเป็นของตนเอง
สมาชิกในครอบครัวไร้เอกสารพิสูจน์ตนของ “ป้าสันที”
1. พี่บุญมี ลูกสาวคนโต แต่งงานกับคนมอญไร้เอกสารประจำตัวด้วยกัน
มีบุตรแล้ว 1 คน ชื่อเด็กชายวิษณุ
2. พี่อำพล ลูกชายคนโต แต่งงานแล้วกับภรรยาคนไทย มีลูกด้วยกัน 1 คน
3. พี่อดุลย์ แต่งงานแล้วกับภรรยาคนไทย มีลูกด้วยกัน 1 คน
4. พี่สัญชัย ยังไม่มีครอบครัว
5. บุญชัย ยังไม่มีครอบครัว
[1] บุญชัย เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน ปี 2524 ที่โรงพยาบาลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ยังคงปรากฏ สมุดบันทึกสุขภาพแม่เด็ก ของเด็กชายบุญชัย บุญชา ซึ่งออกโดยโรงพยาบาลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี แต่เนื่องจากเวลานั้นป้าสันทีไม่รู้จักหนังสือรับรองการเกิด จึงไม่รู้เหมือนกันว่าได้รับเอกสารรับรองการเกิดใด ๆจากโรงพยาบาลท่าเรือหรือไม่
[2]เรียนชั้นประถมปีที่ 1-2 ที่โรงเรียนบ้านแก่งจอ ตำบลไทรโยค และชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดใหม่ดงสัก ตำบลไทรโยค
[3]เป็นทะเบียนบ้านของคนอาศัยอยู่ชั่วคราวในประเทศไทย ซึ่งพี่บุญชัย ได้รับเลขประจำตัว 13 หลัก : 67108 000 39893 ในทะเบียนบ้านเลขที่ 783 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี รหัสประจำบ้านเลขที่ 7108 0024077
ไม่มีความเห็น