จำได้สมัยเรียนระดับป.ตรี ที่ ม.อ.ปัตตานี มีอยู่วิชาหนึ่ง ของอาจารย์ ผศ. ดร.เคลื่อม บุษย์แก้ว ครูได้ยกตัวอย่างว่า เราในฐานะที่เรียนด้านการแนะแนว เราต้องพยายามปรับและวางตนให้ดีและเหมาะสม คือทั้งกายและใจ ต้องนิ่ง มีสติ และ แจ่มใสในแนวความคิดที่ถูกต้อง เปรียบเช่นกับเมื่อทะเลที่สงบแล้วฉันใด เรือก็สามารถแล่นไปได้อย่างสะดวกฉันนั้น และเมื่อนั้นเธอจะสามารถทั้งปรับตัวเอง และใช้ความรู้ความสามารถของเธอช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างเต็มศักยภาพและมีความสุข
สวัสดีคะ
ข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ หากมองไกลๆ และตีความดีๆ มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตมากมายเลยนะคะ
ขอบคุณมากๆ คะ ที่ได้นำมาแบ่งปัน ^_^
หวัดดีครับ ดีใจที่มาเยี่ยมกัน และขอขอบคุณน้องที่แนะนำเทคนิคใหม่ ๆ ในการเขียนและตกแต่งบล๊อกเสมอ ๆ
มาเยี่ยม
เรือ คลื่นลม ทะเล สื่ออะไรได้หลายอย่างเลยนะครับผม
อาจารย์ umi เราก็เป็นคนทะเลเหมือนกัน แต่เป็นทะเลสาบ ระโนด กับ เกาะยอ อิอิ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณข้อคิดดีๆ นะคะ
แต่ในชีวิตการทำงาน บางครั้งคลื่นลมก็แรง บางครั้งก็สงบ มาเป็นพักๆ ค่ะ
จิตใจบางทีก็แปรปรวน
อยู่ในสังคมที่มีการสร้างกำแพงกั้น ทำให้เรารู้สึกว่ามีแบ่งพรรค แบ่งพวก
เป็นเป็ดที่ไม่ได้อยู่รวมฝูง
คิดแบบนั้นมาตลอดเลยค่ะ ^^
สวัสดีครับ คุณดาวลูกไก่ ผมเชื่อว่าอย่างสังคมไทย มีลักษณะเป็นสังคมแบบพรรคพวกจริง ๆ เราจึงต้องพยายามปรับตัวครับ แต่ก็ไม่ควรเสียความเป็นตัวเอง ผมมีอาจารย์ที่เคารพอยู่ท่านหนึ่ง ท่านมักพูดเสมอว่า ท่านไม่มีพรรคพวก พวกของท่านมีกันแค่สามคน คือ ลูกสองและเมียหนึ่ง .... ท้ายสุดผมก็สรุปเอาเองว่า เพราะเหตุเราต้องอยู่ในสังคมเดียวกัน ก็ต้องปรับเข้าหากัน แต่ถ้าหากไม่ได้ก็ไม่เป็นไร..
มาเก็บเกี่ยวในรอยประสบการณ์ครับ
ยินดีต้อนรับครับ นั่งลงกินน้ำเย็น ๆ คลายร้อนก่อนไหมครับ..