ในช่วงเวลานี้ มีเรื่องราวที่น่าเศร้าใจเกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านของเรา ภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ทำลายชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นคนและสร้างความเดือดร้อนให้กับคนหลายแสนคนที่คาดว่ายังลำบากและกำลังรอความช่วยเหลืออยู่
ภัยธรรมชาติที่เราต่างคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว ปัจจุบันนี้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ มีข้อวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าเป็นเพราะเหตุใด ทำไมฤดูกาลถึงเปลี่ยนแปลง บางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็เกิดขึ้นมาได้ในยุคสมัยเรา การเกิดคลื่นยักษ์ซึนามิทางภาคใต้ของเรา และมีคนตายมากมายนั้น ทำให้เราทั้งหลายตระหนักรู้ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในปัจจุบันนี้ และประเด็นที่มีการกล่าวถึงก็คือ มันมาจากภาวะโลกร้อนหรือเปล่า และพวกเรามนุษย์ทั้งหลายเป็นเหตุอันนั้นหรือไม่ แต่บางท่านก็ออกความเห็นว่า จะมาโทษมนุษย์อย่างเดียวได้อย่างไร โลกมันก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ขนาดไดโนเสาร์ยังมีการสูญพันธุ์มาแล้ว ถ้ามนุษย์จะสูญพันธุ์ไปในไม่ช้านี้ก็ไม่เห็นแปลก แต่ข้าพเจ้ากลับคิดเห็นในใจว่า โลกที่เราเห็นสิ่งที่เราเป็นอยู่นั้น มันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาก็จริง แต่ว่ามนุษย์เราเป็นตัวเร่งให้มันเกิดเร็วขึ้นหรือเปล่า? นี่คือข้อสงสัย ก็อย่างที่เรารู้กันว่า สักวันหนึ่งเราต้องตายอย่างแน่ๆ แต่เราไม่ได้รักษาสุขภาพกลับสูบบุหรี่ดื่มเหล้าเป็นประจำทุกค่ำคืน เราก็อาจจะตายไวกว่ากำหนดการที่แท้จริงก็เป็นได้
ดังนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอนว่าสักวันหนึ่งโลกที่เราเห็นสิ่งที่เราเป็นต้องแตกดับไป แต่เราทั้งหลายได้ไปเร่งให้มันเกิดขึ้นเร็วไปหรือไม่?
ข้าพเจ้าไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ภัยพิบัติมาก่อน ที่เจอมาบ้างก็เป็นเรื่องน้ำท่วมที่เชียงใหม่เมื่อหลายปีก่อน เขาว่ากันว่าเป็นน้ำท่วมในรอบ 50 ปี แต่คนเชียงใหม่บางคนบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ วันที่น้ำเริ่มท่วมข้าพเจ้าอยู่ในโรงพยาบาล เวลานั้นประมาณสิบโมงเช้า ทีแรกมีคนบอกว่าน้ำปิงสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วเริ่มเอ่อล้นออกมา แล้วข้าพเจ้าก็เห็นกับตาตอนที่น้ำสีขุ่นคลั่กได้ไหลบ่าข้ามถนนอีกฝั่งเข้ามายังโรงพยาบาลที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ และภายในไม่กี่ชั่วโมง โรงพยาบาลก็กลายสภาพเป็นอาคารกลางน้ำไปอย่างไม่น่าเชื่อ ตึกคนไข้ที่อยู่ชั้นล่างต้องปิด แล้วมีการย้ายคนไข้ขึ้นมาอยู่ชั้นสองแทน เพราะเราไม่อาจแน่ใจได้ว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นถึงขนาดไหนจึงต้องปลอดภัยไว้ก่อน ข้าพเจ้าติดอยู่ในโรงพยาบาลหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน ออกไปไหนก็ไม่ได้เพราะต้องอยู่เวรด้วยในคืนนั้น แถมต้องกินมาม่าไปตั้งสามมื้อ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรมากมายนัก
ความรู้สึกของผู้ประสพภัยพิบัตินั้นมันคงจะเป็นความทุกข์ความเศร้าจนไม่อาจจะบรรยายได้ เพราะแค่การได้อ่านข่าวของผู้บาดเจ็บล้มตายจากคลื่นยักษ์ซึนามิ ก็ทำเอาหลายคนรู้สึกสะเทือนใจมาก หลายคนถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว แต่ความรู้สึกของตัวผู้ประสพภัยโดยตรงนั้นมันคงสาหัสอย่างมาก
ข้าพเจ้าได้สัมผัสถึงความรู้สึกของผู้ประสพภัยท่านหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ คุณป้าจากอุตรดิตถ์มาเฝ้าลูกสาวที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลที่ข้าพเจ้าทำงานอยู่ ตอนที่เจอคุณป้าครั้งแรกนั้นข้าพเจ้าก็พบว่าคุณป้ามีแววตาที่เศร้าหมองกว่าคนทั่วๆไป เป็นความเศร้าที่ไม่อาจอธิบายได้ ในวันหนึ่งคุณป้าก็มาคุยกับข้าพเจ้าและบอกว่าเป็นห่วงลูกสาวมาก ข้าพเจ้าจึงถามว่าเป็นห่วงเรื่องอะไร ลูกสาวคุณป้าก็ไม่ได้เจ็บป่วยมากมายแล้ว คุณป้าบอกว่า ลูกสาวคนนี้เขาคือคนที่แบกแม่ขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้านตอนโคลนถล่ม จากนั้นคุณป้าก็เล่าเรื่องราวให้ฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ภัยพิบัติจากโคลนถล่มเมื่อไม่นานมานี้ที่อุตรดิตถ์ เหตุเกิดตอนกลางดึกและไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ในขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ อยู่ๆทั้งน้ำและท่อนซุงขนาดใหญ่ก็ไหลมากระแทกบ้านอย่างจัง ทุกคนต้องหนีตายขึ้นมาอยู่ชั้นสองของบ้าน ลอยคออยู่กลางน้ำที่มีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดลูกๆ ก็ต้องช่วยให้คุณป้าขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน คุณป้าบอกว่าหลังเหตุการณ์นี้แทบไม่เหลืออะไรเลย แถมลูกสะใภ้ที่กำลังท้องอยู่ก็ต้องแท้งลูกในที่สุด แววตาของคุณป้านั้นยังบอกถึงความหวาดกลัวและความทุกข์อย่างมาก แม้เวลาจะผ่านไปหลายเดือนแล้วก็ตาม ความเศร้าความทุกข์ยังอยู่ในใจของคุณป้าคนนี้ นั่นคือเหตุที่คุณป้ายิ่งรักและห่วงลูกสาวคนนี้มากขึ้นไปอีก เพราะทั้งสองได้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ความลำบากมาด้วยกัน
เมื่อพายุนาร์กีสถล่มพม่า และเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองจีน ภาพข่าวที่ออกมาจึงเป็นความเศร้าของชาวโลกอีกครั้ง การตายของคนนับหมื่น ความเดือดร้อนของคนที่ไร้ที่อยู่อาศัย ความอดยาก อีกหลายแสนคน สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันคงยิ่งกว่าโคลนถล่มที่อุตรดิตถ์ มากมายนัก
แต่ในความหายนะที่เกิดขึ้น ข้าพเจ้าก็มองเห็นสิ่งดีๆที่ยังคงมีอยู่ในหัวใจมนุษย์ หลังเกิดเหตุการณ์นี้ หลายชาติจากทั่วโลกต่างเสนอความช่วยเหลือ แม้แต่ชาติที่เป็นศัตรูกันยังต้องยุติเรื่องราวความขัดแย้งไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเบื้องหลังคืออะไร แต่เจตนาที่จะช่วยเหลือกันนั้นเด่นชัด และเป็นครั้งแรกที่มีเครื่องบินบินตรงจากไต้หวันไปที่เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ ไปพร้อมความช่วยเหลือจากไต้หวัน นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปรกตินัก แต่นี่คือเรื่องที่ดี
ในพม่าเองนานาชาติต่างก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือแม้จะเข้าไปช่วยอย่างยากลำบาก แต่หลายฝ่ายต่างมีเจตจำนงอย่างแรงกล้าที่จะช่วย ความเมตตากรุณาในจิตใจของมนุษย์นั้นยังมีอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่สิ้นหวังแต่อย่างใด
การแบ่งแยกนั้นยังคงมีอยู่ในจิตใจของผู้คนทั่วๆไป แต่ในจิตส่วนลึกแล้วยังคงมีความเมตตาต่อกันอยู่ไม่น้อย การแยกเป็นสองฝั่ง การมองทุกอย่างเป็นสองขั้ว คือเหตุแห่งความแตกแยกในโลกมนุษย์ของเรา เพราะเรามักจะเลือกข้างกันอยู่เสมอ เราจึงไม่สงบสุข ในทางพุทธศาสนาแล้วทุกสิ่งต่างอิงอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่มีอะไรดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งใดได้ ความทุกข์ของผู้คนที่เมืองจีนหรือพม่า จึงไม่ใช่ความทุกข์ของจีนและพม่าเท่านั้น แต่ความทุกข์นั้นมีอยู่ในจิตใจของชาติอื่นๆด้วย แม้จะมีการแบ่งแยกและเลือกข้าง แต่ลึกๆแล้วมนุษย์ไม่ได้แยกขาดจากกันจริงๆ เพราะหนึ่งคือทั้งหมด และทั้งหมดคือหนึ่ง นี่คือความจริงที่พระพุทธองค์ได้พยายามบอกเรามาถึง 2500 ปี
ดูภาพสุดท้ายแล้วต้องกลั้นน้ำตา..
แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นไปแล้ว..เป็นเรื่องของธรรมชาติ กับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น.. สิ่งที่สร้างขึ้นทุกอย่างมีทั้งด้านดีและไม่ดี ...
แต่จริงอย่างที่คุณหมอว่า..น้ำใจของคนที่อยากช่วยยังมีอยู่ และคงยังมีอยู่ต่อไป..
ขอบคุณค่ะ
ดูภาพสุดท้ายแล้วกลั้นน้ำตาไม่ไหวจริงๆๆสะเทือนใจอย่างมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณกมลวัลย์ & กุ้งจัง
ภาพสุดท้ายดูแล้วเศร้าจริงๆค่ะ นี่อาจจะเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติ ที่เราต่างเข้าใจอยู่บ้างแต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดจากสงครามยิ่งหดหู่ใจ เด็กที่ได้รับความเดือดร้อนจากสงครามความขัดแย้งที่ผู้ใหญ่ทำขึ้น ยิ่งน่าสงสารนะค่ะ