นารั้งมีค่าเมื่อข้าวสารแพง


นารั้งยังมีค่ามีความหมายตอนข้าวแพง แต่นายางนี่ซิ

     สวัสดีทุกท่านนะครับ หวังว่าคงสบายดีนะครับ ก็ห่างหายกันไปนานผมยังสบายดีครับ เพียงแต่ที่บ้านขาดน้ำไม่ค่อยได้ปลูกผักอะไรเพิ่ม จึงไม่มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง แต่วันนี้มีเรื่องเล่าแต่ไม่ใช่เรื่องปลูกผักนะครับ

     สามสี่ปีก่อนที่ยางพาราราคาดี ชาวบ้านส่วนใหญ่เอาพื้นที่นามาปลูกยาง จนกระทั่งพื้นที่นาลดน้อยลงไปมาก รวมถึงที่บ้านผมด้วยที่ปัจจุบันนาข้าวกลายเป็นนายาง จนไม่มีนาให้ปลูกข้าวอีกแล้ว ตอนนี้ข้าวแพงนารั้งที่ไม่มีคนปลูกข้าวมาหลายปี เจ้าของก็จ้างรถไถมาไถเพื่อรอน้ำฝน ซึ่งเห็นได้เยอะแล้วแถวที่บ้านผม นารั้งยังมีค่ามีความหมายตอนข้าวแพง สามารถนำมาปลูกข้าวได้อีก แต่นายางของผมนี่ซิเอามาปลูกข้าวไม่ได้แล้ว

     วันนี้ข้างบ้านผมมีรถไถมาไถนารั้ง ซึ่งสอบถามเจ้าของได้ความว่าไม่ทำนามา 4 ปีแล้ว ปีนี้ข้าวสารแพง เลยต้องมาทำนาอีก ไถรอน้ำฝนเพราะไม่ใช่พื้นที่ที่มีชลประทาน

 

ของบางอย่างมีค่าขึ้นมาเมื่อเราเดือดร้อน ก็ยังโชคดีที่นาแปลงนี้ยังไม่เป็นนายาง

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 182990เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2008 19:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 10:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีครับโส

    ขอบคุณมากครับโส ที่มาช่วยกระตุกเรื่องนี้ครับ ผมอยากให้เป็นประสบการณ์กับเกษตรกรไทยครับ ว่าเราจะอยู่บนพื้นฐานของเราเถิดอย่าไปอยู่บนพื้นฐานแบบฝรั่งแบบที่เรารับมาจนลืมรากลืมโจทย์เลยครัีบ

เอาข้อความเก่ามาเขย่าเสริมครับ ปลูกพืชหมุน(หัว)เวียน(หัว) ของ เกษตรกรรมกรไทย

เป็นกำลังใจให้ทำในสิ่งที่คิดว่าดีและเกิดประโยชน์กับเราในชุมชนเรากันดีกว่านะครับ

    เรื่องน้ำ อาจจะต้องขุดสระครับ ขุดไ้ว้นานๆ ไปน้ำจะขังและสะสมเองครับ เพราะรากฐานคือดินเหนียวกักเก็บน้ำก็น่าจะอยู่ครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีคะ พี่โส

ดีใจคะ ที่เห็นพี่โส กลับมาเขียนบันทึกอีกครั้ง

แวะเข้ามาเขียนบ่อยๆ นะคะ

รออ่านมานานแล้วคะ

สวัสดีครับโสทร

นาร้างแถวบ้านผม เขาไถยกร่องปลูกยางครับ ยังไม่เห็นใครหันไปทำนาต่อ มีแต่นาของคุณแอน ที่กลับมาทำนาอีก

ช่วงนี้ปุ๋ยแพงขึ้น แม้กระทั่งปุ๋ยชีวภาพ วัตถุดิบที่จะเอามาทำเองก็ต้องจองล่วงหน้า ไม่ว่าขี้หมู ขี้ไก่ และแกลบ

ตอนนี้กระแส เกษตรกรรมธรรมชาติมาแรง คงจะต้องศึกษาว่า จะมีวัตถุดิบอะไรบ้างที่นำมาทำปุ๋ยชีวภาพแทนวัตถุดิบเดิมๆ

ในสวนยางผมมีกล้วยเถื่อนขึ้นแซมยางอยู่มาก ตอนที่มาอบรมกับหมอจาค๊อบ ที่ จ.ตรัง เขาแนะนำให้เอาหยวกไปปั่นกิน กินยังไงก็ไม่หมด เลยทดลองเอามาหมักเป็นปุ๋ยน้ำชีวภาพ จะลองใช้น้ำหมักหน่อกล้วยฉีดในสวนยาง แทนปุ๋ยชีวภาพดู

การผลิตแบบเกษตรรมธรรมชาติ จำเป็นที่จะต้องมีองค์ความรู้ทางด้านนี้สนับสนุนพอสมควร โครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนมัธยม หรือปัญหาพิเศษของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา น่าจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาความรู้ทางด้านนี้

สวัสดีครัีบลุงพูน

    สบายดีนะครับ เห็นกับอาจารย์นะครับผม ต้นกล้วยเห็นได้ข่าวว่าเค้าเอาไปผลิตไฟฟ้าได้ด้วยครับ ที่บ้านผมต้นกล้วยราวๆ ร้อยกอเหมือนกันครับ เพราะอยู่ในสวนยางครับ ว่างๆ ไปเยี่ยมที่บ้านผมบ้างได้ครบ หากผ่านไปแถวๆ ทุ่งโพธิ์ เลยสามแยกสวนผักนะครัีบ เผื่อจะได้แนะนำไรบ้างครับ  ผมก็ำกำลังแนะนำให้จัดการเรื่องนาข้างบ้านอยู่ครับ จะยกคันนาใหม่ให้สูงและกว้างกว่าเดิมเป็นแนวกันลมครับ และปลูกพืชครับ

ขอบคุณมากครัีบ

สวัสดีครับคุณเม้ง

     เข้าไปอ่านในบันทึกของคุณเม้งอยู่ประจำ แต่ไม่ค่อยได้ทักทาย เลยต้องมาทักทายกันในบันทึกของโสทร แทน เจ้าของบันทึกคงไม่ว่ากะไร

     ที่จริงเรื่อง กล้วยๆ มีนักเรียนเอาไปทำโครงงานวิทยาศาสตร์กันหลายเรื่อง เช่น

     เอาไปตรวจสอบดูว่ามีกระแสไฟฟ้าไหม (แบบที่คุณเม้งว่า)

     เอาไปทำกระดาษ

     เอายางกล้วยไปเขียนลายผ้า ฯลฯ

     สำหรับการจัดการนาข้าวข้างบ้านคุณเม้งนั้น ผมว่า ผู้เชียวชาญที่เก่งที่สุดในตอนนี้คือ หลวงน้า แห่งวัดป่ายางนะครับ

     คันนา ถ้าทำให้สูงกว่าเดิม น้ำในนาจะสูงขึ้นด้วยนะครับ หากพันธุ์ข้าวที่ปลูก ไม่ใช่พันธุ์ขึ้นน้ำ น้ำก็คงท่วมรวงข้าว นะครับ

     ผมไม่เคยทำนา ไม่เคยเรียนเรื่องนามาด้วย ไม่ค่อยมีความรู้ครับ แต่ทราบว่า เราสามารถนำข้าวเปลือกมาทำน้ำหมักชีวภาพ ได้ด้วยครับ ส่วนคุณสมบัติของน้ำหมักจากข้าวเปลือกจะมีคุณสมบัติอย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลครับ

     แต่ที่เคยเห็น(จาก ทีวี) เมื่อสองสามปีก่อน น้ำท่วมนา ตอนข้าวสุก ชาวนาอุตส่าห์ลุยน้ำไปเกี่ยวข้าว มัดเป็นเลียง วางอยู่ข้างถนน ขายก็ไม่ได้เพราะชื้นมาก โรงสีไม่รับซื้อ ตากก็ไม่ได้เพราะไม่มีแดด แต่ชาวนาก็ยังไปเกี่ยวข้าวขึ้นมา ทั้งๆที่รู้ว่า ข้าวเปียกๆแบบนี้ โรงสีเขาไม่รับซื้อ

     ตอนนั้น ผมอยากจะไปบอกชาวนาคนนั้นว่า ให้เอาข้าวเปลือกเปียกน้ำนั้นมาทำ น้ำหมักชีวภาพ เถิดครับ เอาไปใช้ในนา ในฤดูกาลหน้า

สวัสดีครับลุงพูน

    ขอบคุณมากครับผม ไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกับหลวงน้าเลยครับ รับรู้ผ่านแม่นะครับ พอดีคันนาที่บ้านอยู่ติดกับถนนเข้าหมู่บ้านด้วยครับ จากที่เคยมีคันนากลายเป็นว่าเค้าทำถนนใหม่ คันนาเลยเสมอกันกับถนนครับ คือก่อนหน้านี้ได้ทำเป็นนาผักบุ้งครับ แต่เนื่องจากน้ำและปุ๋ยจากธรรมชาติค่อนข้างพร้อมครับ ในตัวพื้นที่เอง และนาเดิมมีปลายบิ้ง มีคันนาคั่นไว้ เลยไถให้เข้าถึงกันและเกลี่ยให้เรียบเสมอกันครัีบ เป็นเหลือบิ้งเดียวรวมกันครับ

    จริงๆ ก็ใช่อย่างที่ อาจารย์ว่านะครัีบ หากยกคันนาสูงมากน้ำจะท่วมได้ง่าย อีกอย่างข้าวที่บ้านจะใช้ข้าวหอมมะลิพันธุ์เตี้ยนะครับ ไม่รู้ว่าชื่อพันธุ์อะไรครับ ต้นไม่สูงมากครัีบ แต่ที่วางแผนไว้จะทำช่องเปิดระบายน้ำลงท่อน้ำที่ิติดกับถนนครับ คิดว่าอาจจะเอาไหวครับ โดยมีการกักน้ำไว้ที่สระด้านบนอีกสองสระในยามฝนตกและเราควบคุมน้ำให้ลงในที่นาได้ตลอดทั้งปีครับ

    ตอนนี้ปัญหาอีกเรื่องคือ การบริหารจัดการกับนกครับ เช่นช่วงที่หว่าน กับช่วงที่ก่อนเก็บเกี่ยว หากปลูกปีละสองครั้งหรือปลูก คงมีพี่น้องนกมาช่วยกันกินครับ กรณีนอกฤดูกาลที่ชาวบ้านคนอื่นไม่ทำนากันนะครัีบ อาจจะ้ต้องแบ่งให้นกกินบ้าง และต้องมีอุปกรณ์ไล่นกที่พัฒนาไปไกลกว่าหุ่นไล่กาผสมกับหุ่นไล่กาด้วยครัีบ อาจารย์มีแนวคิดอะไรนำเสนอไหมครับ แบบว่าระบบเสียงเคาะไม้ไผ่โดยใช้แรงจากกังหันลมหรือน้ำ อะไรสักอย่างครับ อิๆๆๆ แกล้งนกครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับคุณเม้ง

สมัยที่ยายผมปลูกข้าวไร่ในสวนยาง ตอนนั้นผมยังเด็กๆ ยายสร้างหนำขึ้นหลังนึง แล้วไปคอยเฝ้าไล่นก โดยเคาะถัง (แขวนถังไว้ แล้วโยงด้วยเชือกมาที่หนำ) ต่อมาก็ใช้วิธีการเคาะไม้ไผ่ แต่ทั้งสองวิธีนี้ ก็เหนื่อยทั้งคนและนกครับ หลังจากนั้นก็จำไม่ได้ว่า ยายจะได้ข้าวไร่สักเท่าไหร่ แต่ที่จำได้คือ ข้าวไร่ ใหม่ๆ หุงแล้วหอมน่ากินมากครับ และอาจจะเรียกได้ว่า เป็น ข้าวอินทรีย์ ครับ

การไล่นกสมัยนี้ ผมคิดว่าอาจจะต้องใช้วิทยาการ สมัยใหม่มาใช้ เช่น ใช้เสียงของสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งที่นกกลัว มาเปิดให้นกฟัง

เมื่อวานตอนเย็น ดูทีวีรายการ บ้านฉัน บ้านเธอ เขาสร้างคอนโดให้นกนางแอ่นมาอยู่อาศัย ในคอนโดนั้น จะต้องไปกวาดขี้นกนางแอ่น มาใส่ไว้ แล้วเปิดเสียงนกร้องในตอนเย็นๆ เพื่อหลอกนกว่า ในคอนโดที่สร้างขึ้นนี้ มีนกอาศัยอยู่เยอะๆ

พวกปลูกปาล์มน้ำมัน จะมีหนูมารบกวน ก็มีคนคิดเอางูสิง และนกเค้าแมว มาเลี้ยงในสวนปาล์ม เพื่อคอยกำจัดศัตรูของมนุษย์

คิดๆไปแล้วก็รู้สึกว่า มนุษย์เรามีสิทธิ์อะไร ที่จะไปกำหนดชะตาชีวิตของสัตว์โลกอื่นๆ ใครเป็นผู้ให้สิทธิ์อันนี้แก่มนุษย์

เวรกรรมแต่ปางใดหน๋อชาวนา

ครั้งวหนึ่งเราคุ้นเคยกัยคำว่า "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว"

ครั้งนี้ต้องเปลี่ยนใหม่เป็น "ในน้ำมีหมาเน่า ในนามีหนี้"

หวัดดีค่ะ โส  ....

·        พื้นที่แถวบ้านโส นะวิวสวยมากๆ เลยนะ จะบอกให้

·        ถ้าทำโฮมสเตย์ ก็เยี่ยมยอด มีทั้งสวนสมรม และป่าใหญ่

·        ... ข้าวราคาดี นาก็กลับมาอยู่ในสายตา ได้ข่าวสาวโรงงาน

·        กลับมาทำงานที่บ้านก็เยอะ ... ยินดีที่ได้อ่านบันทึกโสอีก

·        เป็นกำลังใจในการอยู่กับธรรมชาตินะคะ  ... ขอบคุณ

ขออนุญาติโส ใช้พื้นที่ทักทายอาจารย์นะคะ

การไล่นกสมัยนี้ ผมคิดว่าอาจจะต้องใช้วิทยาการ สมัยใหม่มาใช้ เช่น ใช้เสียงของสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งที่นกกลัว มาเปิดให้นกฟัง

กราบสวัสดีวันวิสาขบูชาค่ะ อาจารย์ลุงพูน

* ได้ความรู้เรื่องไล่นกเลย เพราะเมื่อก่อนตอนสอนหนังสือที่โรงแรม

* ทางฝ่ายบริหารเค้าก็กังวล เป็นปัญหามากค่ะ เรื่องนกมาขี้ใส่ส่วนแผนกต้อนรับแขก ฝ่ายช่าง ก็ต้องใช้สารพัดกลยุทธ

* แต่พอวันรุ่งขึ้นเอาแล้วหล่าว ใช้ลูกเหม็นก็แล้ว ไม่ได้ผล ..

* เป็นไงค่ะ บ้านเราฝนตกไหม อาจารย์ได้ไปเวียนเทียนไหมคะ วันนี้ ..

* นอนหลับฝันดี มีความสุข ขอบคุณค่ะ

 

 

ทักทายพี่และเพื่อนคอเกษตรกรรมทุกท่านครับ เพื่อบอกให้รู้ว่าได้อ่านเรื่องของทุกท่านด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท