ระยะนี้ ข่าวภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับประเทศพม่าและจีนเป็นข่าวใหญ่และก็ซาลงกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
คนหรือประเทศที่มีน้ำใจก็วิตกห่วงใยและส่งความช่วยเหลือ ส่งใจไปให้
ในขณะที่บางคนหรือบางประเทศอาจจะคิดว่าเราโชคดีที่ไม่เกิดสิ่งเหล่านี้
แต่ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ สิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้
การที่นานาประเทศให้ความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมาก
แต่สิ่งที่เราควรคิดก็คือ
ถ้าเกิดสิ่งนี้ในที่อื่นๆ อีก จะเตรียมพร้อมอย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้น่าจะเป็นสัญญาเตือนภัยได้หรือไม่ว่า หากมีเหตุ มนุษย์ไหนก็หยุดยั้งไม่ได้
แต่มนุษย์รับมือได้หากมีการเตรียมตัวที่ดี ลดหรือบรรเทาความเสียหายได้
ผมจึงเห็นว่า ในขณะที่เราอยุ่กันทุกวันนี้ ยังปรกติดี แต่ก็ควรเตรียมพร้อมด้วยความไม่ประมาท
ในสถานการณ์เช่นนั้น เราจะเป็นอย่างไร
ในที่สุดวันหนึ่งเราอาจต้องบอกว่า ในโลกนี้ ไม่มีใครโชคดีกว่าใคร
และในที่สุดเราก็อาจจะบอกด้วยว่า
ในโลกนี้ไม่มีใครโชคร้ายกว่าใคร
เตรียมตัวเตรียมใจไว้เถิดครับ เพื่อความไม่ประมาท
ได้แต่หวังว่าบุญกุศลที่ประเทศและคนไทยได้ทำกันมาช้านานจะส่งผลให้ไม่เกิดภัยที่พิบัติถึงขนาดนั้น
ด้วยความปรารถนาดี
ขอบคุณมากๆ คะ ที่ได้เขียนบันทึกนี้เพื่อเตือนสติ
^_^
คุณมะปรางเปรี้ยวครับ
ผมคิดว่าทุกคนควรเริ่มคำนึงถึงภัย
มิได้มีแต่ภัยธรรมชาติ ไม่ได้มีเฉพาะแผ่นดินไหวหรือพายุไซโคลน แต่อาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้
ทั้งจากคนด้วย เช่นที่เกิดที่อินเดีย
การเตรียมพร้อมหมายถึงการระวัง ฝึกสร้างสถานการณ์และซ้อมดู่ว่าหากเกิด จะทำอย่างไร ต้องเตรียมอะไรไว้บ้าง
ในเรื่องปัจเจกอาจจะหมายถึงการชะลอเรื่องใช้จ่ายต่างๆ ที่จะทำ หากไม่จำเป็นอาจจะชะลอไว้ก่อน
มาสำรวจตัวเองและอยู่อย่างมีความพร้อมรับ
น่าจะดีกว่าครับ
สิ่งที่มนุษย์สร้างล้วนพึ่งพลังงานไฟฟ้าเป้นส่วนใหญ่ แค่ไฟฟ้าดับวันเดียวก็แย่แล้วครับ
อินเดียตั้งใจไฟดับทุกวัน กลับมีส่วนดีทำให้คนตระหนักถึงสถานการณ์คับขันได้ครับ