เห็นด้วยนะกับการแก้ปัญหาโดยแบ่งกลุมออกเป็น 2 โดยที่กลุ่มแรกมีองค๋กรสนับสนุน กับอีกกลุ่มหนึ่งใช้ KM เป็นหลักในการดำเนินงาน
อาจเป็นไปได้ที่กลุ่มแรกจะปรสบความสำเร็จน้อยกว่าเพราะแรงขับเคลื่อนของการควบคุม หรือ ลดพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไม่ได้มาจากความต้องการที่แท้จริงของผู้ร่วมโครงการ เป็นเพียงแค่โครงการหนึ่งที่มีเงินทุน มีคนที่เป็นแกนนำอยู่เพียงจำนวนหนึ่งที่พยายามพลักดันให้เกิดโครงการขึ้น เพราะฉนั้นโดยส่วนมากงานทุกอย่างจะทำไปตามคำสั่ง และแผนการที่กำหนดไว้แล้ว
กับอีกลุ่มหนึ่งที่ใช้ KM เป็นกลยุทธ์ในการกระตุ้นกลุ่มคนที่มีความคิดเดียวกันเช่นการเห็นว่าควรเลิกสูบบุหรี่ได้ทำงาน โดยการทำงานนี้มีอิสระทางความคิด ซึ่งก็จะก่อให้เกิดความสร้างสรรค์และความร่วมมือร่วมใจอย่างแท้จริง
เพราะฉนั้นแล้วการกระจายอำนาจในองค์กร การเปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นของบุคคลากรในระดับบริหาร หรือการใช้หลัก KM จะช่วยให้ผู้ร่วมงานมีพลังขับเคลื่อนที่เกิดจากตัวเอง ในรูปแบบของความร่วมมือ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น