· พักนี้ไม่ว่าจะเปิดข่าวช่องไหน ไทยหรือฝรั่ง ก็จะได้เห็น ได้ยินข่าวพายุไซโคลนนาร์กีสถล่มพม่า อยู่อย่างต่อเนื่อง ในวันที่เกิดพายุนั้น ตอนแรกก็ได้ยินว่าจะพัดเข้ามาที่บังกลาเทศ เพราะข่าวจากบีบีซี ออกมาว่าอย่างนั้น แณณก็ตระเตรียมบ้านเรือน โดยการหาผ้ามาเตรียมซับน้ำที่เวลาฝนตกแรงๆ แล้วมักจะไหลเปียกเข้ามาในบ้านได้ ปิดประตูหน้าต่าง เก็บกระถางต้นไม้เล็ก ๆ ที่ปลูกไว้ตรงระเบียงบ้าน เรียบร้อย
· วันรุ่งขึ้น ข่าวก็ออกว่าพายุไซโคลนลูกนั้นพัดถล่มพม่า เสียหายหนัก แรกๆ ก็ว่ามีคนตายกว่าพันคน ต่อมาก็สองพันคน หมื่นคน ต่อมาจนถึงทุกวันนี้จำนวนที่คาดการณ์กันก็เป็นแสนๆ คนแล้ว เนื่องจากพม่าไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากนานาประเทศที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งจากสหรัฐฯ ยุโรป หรือ ยูเอ็น ข่าวที่ได้ดูก็ออกมาในเชิงตำหนิติเตียนพม่าในการไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ซึ่งจะทำให้สูญเสียชีวิตคนมากขึ้น ทุกวันๆ จนจำนวนอาจจะสูงถึง 1.5 ล้านคนได้
· ไทยในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิด จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าไปมีบทบาทนำในเรื่องดังกล่าว จากการติดตามข่าวนี้มาหลายวัน ก็ไม่ผิดหวัง ท่านผู้ดูแลและหลายๆ ฝ่าย รวมทั้งภาคเอกชนไทยในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกันกับพม่า ก็ได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการเข้าไปช่วยเหลือ
· พอวันนี้ เมื่อช่วงบ่ายๆ ดูช่องไทย ก็รับทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินีฯ ทรงพระราชทานความช่วยเหลือโดยกองทัพอากาศไทยนำถุงพระราชทานไปมอบให้รัฐบาลทหารพม่าโดยตรง ทางรัฐบาลพม่าก็รับมอบของ และจากภาพข่าวยังเห็นว่ามีการหารือกันระหว่างพลเอกชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการกองทัพอากาศไทย และ พลอากาศโทเงียบเฮ็ง ของฝ่ายพม่าอีกด้วย โดยมีล่ามกระซิบ แปลภาษาอยู่ข้างๆ
· สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระญาณสังวรณ์ สมเด็จพระสังฆราช ยังได้ประสานผ่านทางฝ่ายสงฆ์ของพม่า จนสามารถนำความช่วยเหลือเข้าไปในประเทศพม่าได้ ผู้แทนพิเศษ ของนายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินทางไปเข้าพบพลเอกเต็งเส่ง เพื่อประสานเรื่องความช่วยเหลือที่นานาประเทศประสงค์จะให้ไทยเป็นผู้ประสานกับฝ่ายพม่าให้
· การที่พม่า หวาดระแวงและไม่ยอมรับความช่วยเหลือ จากนานาประเทศนั้น หากมองและพิจารณาด้วยความเข้าใจ จะเห็นว่า ประเทศผู้ให้บางประเทศ ก็ได้กำหนดเงื่อนไขในการให้ว่า รัฐบาลพม่าต้องดำเนินการในเรื่องการเมืองภายใน อย่างนั้น อย่างนี้ (กรณีสหรัฐฯ) หรือกรณีของสหประชาชาติ ก็ต้องการส่งบุคลากรเข้าไปให้ความช่วยเหลือในประเทศ
· พม่าซึ่งปกติก็ปิดตัวในเรื่องการเมืองภายในมากอยู่แล้ว คงจะต้องมีความหวาดระแวงเป็นธรรมดา จากข่าวนี้ ทำให้ต้องพิจารณาอีกในแง่หนึ่ง ว่า หากผู้ให้รู้วิธีที่จะให้ อย่างไรเสียผู้รับก็ต้องรับ อย่างเช่น ในกรณีความช่วยเหลือจากไทยสู่พม่า
· ช่วงดึกๆ หลังจากเรียนภาษาฝรั่งเศสเสร็จ ก็ได้ติดตามข่าวนี้อีกครั้ง ข่าวช่องหนึ่งรายงานว่า ทางพม่าได้ติดชื่อตัวโตๆ ของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง บนถุงของบริจาคที่ฝ่ายไทยนำไปให้ความช่วยเหลือ
· ในประเด็นนี้ เห็นว่า เราไม่ควรต้องไปใส่ใจ เพราะการให้ของเราหากไปถึงผู้รับ และช่วยบรรเทาทุกข์ได้ ก็ถือว่าสมดังเจตนาของผู้ให้แล้ว ไม่ควรนำมาเป็นประเด็น
ประณยา จองบุญวัฒนา
12 พฤษภาคม 2551
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เมื่อให้ไปแล้ว เป็นเรื่องภายในประเทศพม่า เอามาคิดมากมาย จะใช่หรือไม่ก็ไม่ทราบ พูดหรือว่ากันไปต่าง ๆ นา ๆ เป็นทุกข์ เพื่อนจะกลายเป็นศัตรู เสียเวลาเปล่า ปัญหาระดับโลกมันมีความสลับซับซ้อน ควรได้ไตร่ตรองและมีความหนักแน่น เข้าใจว่า เป็นปัญหาที่ภายในเขาเชื่อว่า สามารถจัดการกันเองได้
สวัสดีค่ะ คุณสู่อนาคตน่าน
แวะมาทักทายค่ะ... สบายดีนะคะ ดูแลสุขภาพทั้งสองท่านเลยนะคะ
แณณ/บอล
จากพม่า มาถึงจีนและวันก่อนนี้เกิดระเบิดที่เมือง Jaipur
โลกร้อน ใจคนเลยร้อนขึ้นเยอะเลยนะ
ยิ่งทราบว่าแกนโลกเอียงขึ้น ก็น่าห่วงนะ
หวังว่าคงสบายดีนะจ๊ะ
สวัสดีค่ะ คุณ กฤษณา สำเร็จ
สวัสดีค่ะ พี่พลเดช
สวัสดีค่ะ
* การให้ถ้ามีเงือ่นไขมาก...ผู้รับก็ไม่อยากได้...ทุกข็ตัวก็พอแล้วยังจะทุกข์ท่เงื่อนไขอีก
* เห็นด้วยค่ะ....เราไม่ควรต้องไปใส่ใจ เพราะการให้ของเราหากไปถึงผู้รับ และช่วยบรรเทาทุกข์ได้ ก็ถือว่าสมดังเจตนาของผู้ให้แล้ว ไม่ควรนำมาเป็นประเด็น....
* ขอบคุณค่ะที่เล่าให้ฟัง
สวัสดีค่ะคุณ พรรณา ผิวเผือก