สวาทพร
สวาทพร เลขที่ 100 สวาทพร ศักดิ์ธนานุรักษ์

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-จีน


ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย-จีน

ความสัมพันธ์ไทย - จีน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์มีเชื้อจีนจริงหรือ?

                                               

kukrit-Deng

         ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย - จีน บุคคลแรกๆที่ทุกคนจะต้องนึกถึงย่อมมี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช รวมอยู่ด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันดีกว่า คุณชายคึกฤทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีไทย เป็นผู้ดำริ ริเริ่ม และเดินทางไปลงนามสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 1 ก . ค . 2518 หรือ 30 ปีที่แล้ว

         การเดินทางไปจีนของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ในคราวนั้น ถือว่าเป็นการยุติความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติ และเป็นการเขียนประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ ไทย - จีน หน้าใหม่ขึ้นอย่างเป็นทางการอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องราวต่างๆมีการกล่าวถึงกันทั่วไปอยู่แล้ว ผู้เขียนจึงไม่ขอเล่าถึงประเด็นเหล่านั้นอีก แต่อยากชี้ให้เห็นถึง ” รากที่มาของความเป็นจีน ” ในตัว
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์

         ในหนังสือหลายเล่ม รวมทั้งรายการโทรทัศน์บางรายการที่นำเสนอเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย - จีน 30 ปี ซึ่งเพิ่งออกอากาศไปเมื่อไม่นานมานี้ ให้ข้อมูลว่า ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ เป็นคนแซ่ “ หลิน ” ( ฮกเกี้ยนออกเสียงว่า “ หลิม ” แต้จิ๋ว ออกเสียงว่า “ ลิ้ม ” ซึ่งเราคุ้นเคยกันดี )

        จนเมื่อเร็วๆนี้ ผมไปอ่านในเว็บไซต์ Pantip จึงพบว่า หลายคนไม่เข้าใจว่า ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ มีแซ่ได้อย่างไร เพราะท่านเป็นเชื้อพระวงศ์ จึงน่าจะเป็นคนไทยแท้ๆ และดูเหมือนจะไม่มีใครตอบข้อสงสัยนี้ได้ถูกต้องชัดเจนนัก ผมจึงขอถือโอกาสเฉลยไว้ ณ ที่นี้ ว่า

       ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ นั้น มีเชื้อสายจีนอยู่จริงครับ และไม่ใช่มีแต่เพียงผิวเผิน แต่เป็นเลือดจีนแบบเข้มข้นลึกซึ้ง และยาวนานเลยทีเดียว !!

         หากไปอ่านหนังสือ “ สายหยุดพุดจีบจีน ” เขียนโดย ตะเกียงคู่ พิมพ์ออกมาเมื่อ พ.ศ. 2534 โดยสำนักพิมพ์ยินหยาง จะเข้าใจข้อมูลตรงนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง กล่าวคือ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ นั้น มีศักดิ์เป็น “ หลานปู่ทวด ” ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ซึ่งกษัตริย์พระองค์นี้เอง ทรงเป็นผู้สร้างตำนานรัก ไทย - จีน ขึ้นเมื่อเกือบ 200 ปีที่แล้ว ด้วยหนึ่งในพระชายาของพระองค์คือ “ เจ้าจอมมารดาอำภา ” บุตรีของพระอินทรอากร หรือ นายอิน เศรษฐีจีนฮกเกี้ยนแซ่หลิม ( ออกเสียงว่า “ หลิม ” ตามสำเนียงฮกเกี้ยน ) ที่ทำมาค้าขายอยู่ในเมืองไทย โดยตระกูลของท่านล่องเรือสำเภามายังสยามตั้งแต่สมัยอยุธยา

         เถ้าแก่อิน เป็นพ่อค้าที่ถวายการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 2 อย่างใกล้ชิด และเป็นที่โปรดปรานของพระองค์เป็นอันมาก จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เฉกเช่นเจ้านายคนไทยทั่วไป และต่อมาก็ได้ถวายบุตรีเป็นบาทบริจาริกาในพระองค์ ซึ่งได้แก่ เจ้าจอมมารดาอำภา นั่นเอง ว่ากันว่า รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดพระชายาองค์นี้มาก จนมีบุตร - ธิดาด้วยกันถึง 6 พระองค์ และพระโอรสองค์ที่ 2 ก็คือ พระองค์เจ้าชายปราโมช ต้นตระกูลปราโมช

ซึ่งเป็นปู่แท้ๆของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ !!

        จะเห็นได้ว่า ความเป็นจีนอยู่คู่กับต้นตระกูลปราโมชมานานแล้ว โดยชื่อสกุล “ ปราโมช ” ก็มาจากพระนามของ พระองค์เจ้าชายปราโมช ซึ่งเป็นพระโอรสในรัชกาลที่ 2 ก่อนที่จะสืบเชื้อสายมาอีก 2 เจเนอเรชั่น กลายเป็นยุคของ ม.ร.ว. เสนีย์ และ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช 2 อดีตนายกรัฐมนตรีเลือดจีน

        อย่างไรก็ตาม หากนับการสืบเชื้อสายทางฝ่ายชายแล้ว ต้องถือว่า ม . ร . ว . คึกฤทธิ์ นั้น ไม่มีแซ่ เพราะตามหลักการสืบตระกูล ต้องใช้เฉพาะแซ่ของฝ่ายชายเท่านั้น กล่าวคือ ลูกคนจีนจะใช้แซ่ของ “ พ่อ ” ซึ่งสืบทอดมาจาก ” ปู่ ” และ “ ปู่ทวด ” ดังนั้นในกรณีนี้ แซ่ “ หลิน ” หรือ “ หลิม ” ซึ่งเป็นแซ่ของเจ้าจอมมารดาอำภา ผู้เป็น “ ย่าทวด ” ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ จึงไม่ควรนับว่าเป็นแซ่ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ แต่อย่างใด

      แต่เหตุที่เรามักถือกันว่า แซ่หลิน คือแซ่ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ นั้น คงมิใช่เพราะความเข้าใจผิดแต่เพียงอย่างเดียว หากเป็นเพราะคุณชายคึกฤทธิ์มีคุณูปการต่อความสัมพันธ์ไทย - จีนอย่างใหญ่หลวง เราจึงอยากให้ท่านมีแซ่ เพื่อที่จะได้เป็นเครื่องยืนยันว่าท่านเป็นลูกหลานจีน โดยไม่ต้องอธิบายความให้ยืดยาวเช่นนี้นั่นเอง

หมายเลขบันทึก: 181781เขียนเมื่อ 11 พฤษภาคม 2008 18:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 16:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เอาดอกไม้มาฝากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท