ปริญญาชีวิต (๕)


จนแล้วรวย รวยแล้วจน เป็นสัจธรรมที่ไม่สามารถปฏิเสธได้

ปริญญาชีวิต ตอนที่ ๕

"คนจนมีสองประเภท   ประเภทที่หนึ่ง จนเพราะไม่มี    ประเภทที่สอง จนเพราะไม่พอ"

ผู้เขียนมีโอกาสอยู่ในแวดวงค้าขายมานาน    แล้วก็ค่อนข้างจะโชคดีกว่าคนอื่นๆเขาสักหน่อย  ที่มีแต่มิตร  ไม่มีศัตรู  ในแวดวงของผู้ที่มีธุระกิจเดียวกัน   ย่อมมีการแข่งขันกันเป็นธรรมดา    ผู้เขียนมักจะแสดงความยินดีกับเพื่อนพ่อค้าที่เขาประสบความสำเร็จ  ทำการค้าได้กำไรดี  และให้กำลังใจแก่ผู้เพลี่ยงพล้ำทำการค้าขาดทุน   ทำให้ผู้เขียนมีเพื่อนมากในหลายๆวงการ    ได้ทั้งเพื่อนที่ดีๆได้ทั้งใจเขาด้วย   จริงๆแล้วเราไม่ได้แข่งขันกับใครที่ไหนเลย  เราแข่งกับตัวเราเองต่างหาก  ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด  ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเจ้ายุทธจักร์  ค้าขายอย่างสบายๆ   "คนที่เป็นแช้มป์มักอยู่ไม่ได้นาน  คนที่อยู่ได้นานๆมักไม่ใช่แช้มป์"   แช้มป์ต้องถูกท้าชิงอยู่บ่อยๆ  ไม่วันใดก็วันหนึ่งก็พลาดท่าจนได้  ตำแหน่งนี้ไม่ว่าวงการค้า  วงการกีฬา หรือวงการใดๆก็ตาม  มักเปลี่ยนมือบ่อยมาก

ผู้เขียนอยากเห็น คนจนประเภทรากหญ้าลองหันมาค้าขายดู  ถ้าหากไม่อายที่จะทำกินแล้ว  คนจนทุกคนมีโอกาสที่จะรวยได้   คนรวยที่ไม่สามารถรักษาสถานภาพให้มั่นคงได้ก็มีสิทธิที่จะกลับมาจนอีก  มีตัวอย่างให้เราได้เห็นกันบ่อยๆ  นี่เป็นสัจธรรม  "จนเพราะไม่มีนั้นมีโอกาสรวยได้"  แต่ต้องไม่อายทำกิน และอย่าหมิ่นเงินน้อย    ดูตัวอย่างคนไทยเราที่ติดอันดับมหาเศรษฐีโลกอันดับต้นๆ สินค้าของท่านขายเพียงขวดละสิบบาทเท่านั้น   คนจนที่จนเพราะไม่มี  จึงเป็นคนจน "ชั่วคราว" เท่านั้น

ยังมีคนจนอีกประเภทหนึ่งคือ  "จนเพราะไม่พอ"   คนพวกนี้อันที่จริงเป็นเศรษฐีมีทุกสิ่งทุกอย่าง แล้ว  แต่ว่ายังไม่รู้จักพอ  ทุกวันหายใจเข้าออกมีแต่ เงิน เงิน เงิน กับเงินอย่างเดียว  ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น  ยังคิดว่าตัวเองยังจนอยู่   ว่ากันให้ถึงที่สุดแล้ว  เขายังมีโลภะอยู่เต็มหัวใจนั่นเอง  จึงนับว่าเป็น "คนจนถาวร"  หมดโอกาสที่จะร่ำรวยอย่างเขาแน่นอนในชาตินี้   

วันหนึ่งขณะรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนพ่อค้า  พร้อมกับบุตรชายของท่าน   เราได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเกี่ยวกับสภาวะการตลาดต่างประเทศ   และเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง   ท่านวกเข้ามาพูดถึงลูกชายท่านว่าชอบมาทำงานสาย  ไม่ค่อยจะขยันช่วยพ่อหาเงิน  บอกให้ลูกต้องทำงานหาเงินให้มากๆเข้าไว้    ครอบครัวจะได้มีฐานะมั่นคง  เป็นทำนองตำหนิลูกของท่านต่อหน้าผู้เขียน  ทำให้ผู้เขียนทั้งตกใจและแปลกใจมาก    ลูกชายท่านเป็นคนมีการศึกษาดี  และมีความสุขุม  ได้ตอบไปว่า  "ป๊า  ผมมีเพียงหนึ่งปาก  หนึ่งท้อง  กับอีกสองมือเท่านั้น  วันหนึ่งผมจะกินได้สักเท่าไร สองมือจะทำได้มากแค่ไหน"  เมื่อคุณพ่อได้ฟังคุณลูกตอบแบบนี้  ทำเอาอึ้งไปเหมือนกัน  เราลองมาพิจารณาดูกันซิว่า  เพื่อนคนนี้ของผู้เขียนเข้าข่ายคนจนประเภทไหน   เขาจนจริงๆหรือ  ถึงยังต้องทำงานหนักอยู่   ต้องเดินทางไปต่างประเทศขายสินค้าด้วยตัวเอง  ทั้งๆที่น่าจะเกษียนได้ตั้งนานแล้ว เพราะอายุท่านขณะนี้ก็ปาเข้าไปแปดสิบกว่าแล้ว  

ไม่ต้องพูดถึงธุรกิจระหว่างประเทศที่ท่านนี้ทำอยู่ ซึ่งติดอันดับหนึ่งในสิบของประเทศแล้ว  เฉพาะรายได้จากการเก็บค่าเช่าจากอาคารหลายแห่ง   ที่ให้ชาวต่างประเทศเช่าอยู่ในย่านใจกลางสุขุมวิท เดือนหนึ่งก็มากโขอยู่แล้ว   แต่ท่านยังคิดว่าจนอยู่ เพราะว่าพจนานุกรมของท่าน ไม่มีคำว่า  "พอ"  นั่นเอง   "จนเพราะไม่พอ"   น่าเสียดายที่ท่าน   กลายเป็น  "คนจนถาวร"  ไปเสียแล้ว

"จนเพราะไม่มี สามารถจะรวยได้ ถ้าตั้งใจทำงานด้วยความขยัน  และรู้จักประหยัด"    "จนเพราะไม่พอ ถึงแม้จะหาได้มากเท่าไรก็ไม่รู้จักเพียงพอ  คนพวกจึงเป็น คนจนถาวร  และเป็นทุกข์มาก"

 

บันทึกนี้เขียนขึ้นสำหรับทั้งคนจนและคนรวยอ่านโดยเฉพาะ  คนจนอ่านแล้วมีโอกาสรวยได้  คนรวยที่คิดว่าตัวเองยังจนอยู่อ่านแล้ว  จะได้เป็นคนรวยจริงๆกับเขาเสียที

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิดชีวิต
หมายเลขบันทึก: 181493เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2008 22:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีค่ะคุณลุง

เป็นข้อคิดที่ดีจังเลยค่ะ

หนูไม่อยากเป็นคนรวย แต่อยากมีพอที่จะดูแลคนที่หนูรักให้สุขกายสบายใจตามสมควร

ตามหน้าที่ของลูกที่จะพึงทำให้บุพการีน่ะค่ะ

คุณลุงเขียนบันทึกบ่อยๆ นะคะ ประสบการณ์และวิธรคิดของคุณลุงเป็นประโยชน์มากค่ะ

หนูจะติดตามอ่านนะคะ :)

ขอขอบคุณค่ะ

ปล.ฟังเพลงแล้วทำให้นึกถึงช่วงที่เรียน ปวช. เพื่อนๆ ชอบร้องเล่นเพลงเพื่อชีวิตของคาราวานมากค่ะ คุณลุงเก่งจังเลย หนูยังลงเพลงในบล็อคไม่เป็นเลยค่ะ

มาอีกรอบหนึ่งค่ะ หนูลืมบอกไป หนูยังเป็นประเภทจนเพราะไม่มีนะคะ ไม่ใช่จนเพราะไม่พอ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีคะ

...ขอบคุณคะสำหรับข้อคิดดีดี...คะ

  • สวัสดีครับ คุณแจ๋วจริงจริง
  • ตามที่ตั้งใจไว้ลุงจะเขียนบันทึกทุกวันอาทิตย์
  • แต่ต้องเขียนก่อน ๒ วัน เพราะจะเดินทางไปต่างประเทศประมาณ ๑๐ วัน

จะเดินทางไปต่างประเทศหรือคะ

ขอให้คุณลุงมีความสุขกับการเดินทาง และเดินทางด้วยความปลอดภัยนะคะ :)

  • ขอบคุณครับ คุณแจ๋วจริงจริง 
  • จนเพราะไม่มี  งั้นหนูก็มีโอกาสรวยแล้วนะซิครับ  จะรวยแบบพอเพียง  หรือรวยแบบไหน ก็เลือกเอาเองก็แล้วกันนะ  ขอให้จงเป็นคนรวยๆ ในเร็ววัน
  • ขอบคุณ คุณภีรภา สำหรับกำลังใจที่ให้

 

 

มาดูท่านหน่อยครับ............สมัครเป็นสมาชิกได้ไหมครับ

สวัสดีค่ะท่าน riceman

เห็นชื่อบันทึกรีบเข้ามาอ่าน อ่านแล้วก็ประทับใจ ที่ลูกเขาบอกว่า "ผมมี 1ปาก 1 ท้อง กับ 2 มือ กินได้เท่าไร ทำได้แค่ไหน" แสดงว่าเขาเข้าถึงความพอเพียงนะคะ

แต่ที่พ่อเขายังคิดแบบนั้น เพราะเขาต้องต่อสู้ และแข่งขันมาตลอดชีวิต หามาเพื่อชดเชยสิ่งที่ตนเองขาดเมื่อตอนเด็ก ๆ จะว่าเขาจนก็ไม่ได้ แต่ที่เขาจน คือ ความไม่เข้าถึงธรรมะ เขาอาจคิดว่าเงินซื้อทุกอย่างได้ แต่เงินซื้อความสุขไม่ได้ ซื้อชีวิตตัวเขาก็ไม่ได้ เงินก็ซื้อใจคนไม่ได้ ด้วย ราณีว่าน่าสงสารเขานะคะ อายุขนาดนี้แล้ว ยังหยุดไม่ได้ หรือเพราะเขาไม่ไว้ใจใครเลย เขายังยึดติดกับวัตถุต่าง ๆ อยู่ 

คนอื่น ๆ อาจเรียนรู้ถึงความสำเร็จของเขา แต่ตัวเขาต้องเรียนรู้จากลูกแล้วละมั้งค่ะ  ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่นำมาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณลุง rice man

  • คนไม่มีรากชอบบันทึกนี้มากค่ะ  อาจมากว่าบันทึกที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำไปค่ะ
  • คนจนที่ไม่มีนั้น... อาจมีโอกาสเลิกจนได้ ถ้าเขาขวนขวายอยากมีให้พอ
  • ส่วนคนจนที่มีไม่พอนั้น...คงเลิกจนได้ยาก เพราะเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ คงต้องพอก่อนจึงจะเลิกจนได้
  • คนไม่มีรากมีโอกาสไปดูงานและเยี่ยมคฤหาสน์ของเศรษฐีแถวชลบุรี รวยติดอันดับประเทศค่ะ
  • ท่านมาต้อนรับ และกล่าวว่า ท่านเลี้ยงลูกแบบเศรษฐีเพื่อให้ลูกเคยชินกับการมีรสนิยมและการใช้ชีวิตที่ดีมีระดับ เขาจะได้ขวนขวาย ขยันขันแข็งที่จะต้องหากินให้ร่ำรวย...
  • คุณลุงคิดว่า..ท่านนี้เป็นคนประเภทไหนคะ...
  • เป็นคนรวย หรือ เป็นคนจน ...
  • หลังดูงาน..พวกเราออกจากคฤหาสน์นั้นและคุยกันว่า...
  • Too much is useless ค่ะ...^_^

ได้ข้อคิดมากจากบันทึกนี้

ต่อไปนี้จะไม่คิดว่าเราจนอีกแล้ว

เพราะเราน่าจะ"พอ"แล้ว

รวยหรือจน .. วัดกันที่ไหน

.. หนูเจอชาวบ้าน ตาสี ตาสา ในชนบท ..

... ร่ำรวยมากค่ะ  รวยน้ำใจ และความดี ..

... ยิ่งหนูเดินทางมาก ยิ่งได้พบคนดีๆ ..

... โลกนี้จึงรุ่มรวยและรื่นรมย์ด้วยมิตรภาพ

รวยหรือจน ขึ้นอยู่กับใจ และความพอเพียง

... มีความสุขนะคะ คุณลุงriceman ขอบพระคุณค่ะ  

มาเก็บเกี่ยวในรอยประสบการณ์ครับ

สวัสดีคะ คุณลุงriceman

อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดดีๆ กับการใช้ชีวิตอีกเยอะเลยคะ

หนูลองอ่านแล้ว ก็ลองมองอีก 1 มุม ว่า อาจจะมีปัจจัยที่ทำให้ เพื่อนของคุณลุงไม่ยอมหยุดทำงาน เช่น

  • ธุรกิจที่สร้างมากับมือก็ไม่อยากให้ล้มไป
  • อยากให้ทำให้ธุรกิจเติบโตสูงสุด
  • อยากจะสร้างความมั่นคงให้กับลูกๆ หลานๆ
  • ไม่อยากอยู่กับบ้านเฉยๆ ทำงานดีกว่า

หนูก็ลองคิดดู จากเหตุผลข้างต้น จึงทำให้ท่านยังไม่หยุด ยังไม่พอ เพราะยังปล่อยวางไม่ได้คะ

ขอบคุณ คุณลุงมากนะคะ ^_^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท