ดอก.........สเลเต
สวัสดีครับ วันนี้ไปติดตามงานโครงการที่หมู่บ้านเพื่อชุมชนเข้มแข็งและเป็นสุข ที่บ้านเยาะตำบล แม่หวาด อำเภอธารโต ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มาอาศัยอยู่ที่วัดหัวควน(นิโรธสังฆาราม ยะลา) ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมาร มีพระราชดำรัสให้จัดตั้งหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งขึ้น ที่นี้ โครงการแรก 15 ครอบครัว ได้เข้ามาอาศัยในที่ที่จัดให้แล้ว และวันนี้คณะทำงานโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและนายทหาร ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มาติดตามความก้าวหน้าโครงการ 2 จะก่อสร้าง อีก 25 หลัง ทีตั้งโครงการห่างจากยะลา 70 กม.ผ่านเขื่อนบางลางเป็นที่ภูเขาสูงชัน มีภาพสวยๆ และรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการมาฝากแต่ขอเก็บไว้ก่อน
สำหรับวันนี้มาว่ากันด้วย ดอกที่เห็นตามรูปก่อน ครับ... ขณะที่เดินตรวจเยี่ยมบ้านโครงการฯ เก่าบ้าน 15 หลังที่จัดสรรให้ราษฎรเข้าพักอาศัยแล้วนั้น มีการปลูกผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ มีการเลี้ยงไก่พื้นเมือง ทุกบ้านมีรั้วรอบขอบชิด สวยงาม แต่ที่จะนำมาเป็นประเด็นคือที่บ้านหลังสุดท้ายครับ ไปเจอพืชชนิดหนึ่ง คล้ายว่านทั่วไป ถามว่าต้นอะไร ญาติเจ้าของบ้านเข้าใจว่าเป็นคนทางเหนือ ตอบว่า"สเลเต"แล้วผมไม่ได้ถามต่อ เพราะมีคนอื่นชวนคุยเรื่องอื่น ผมติดใจ เลยนำมาถามท่านทั้งหลายทางบันทึกนี้ กรุณาช่วยให้ความกระจ่างด้วย ครับ..มีประโยชน์ สรรพคุณอย่างไร ชื่อแปล หรือมีความหมาย หมายถึงอะไร ..... ชื่อนี้ไม่น่าจะใช่ ภาษาทางภาคใต้ และคำนี้เคยได้ยินคุ้นหู.........."สเลเต"ครับ
ความเห็น (18)
สวัสดีค่ะพี่เกษตรยะลา
- ชอบมากค่ะ ดอกสเลเต
- มีกลิ่นหอม คุณยายชอบเก็บมาเหน็บหู
- เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็น
- ลองไปดูที่ บันทึกน้องออต ตรงนี้นะคะ
- ขอบคุณค่ะ
ความสวยงามของธรรมชาติ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนมีมากมาย แต่จิตใจพวกเขา (ผู้ก่อการร้าย) คงมืดบอดมองไม่เห็น มุ่งแต่จะทำลายล้างผู้อื่น เขาไม่น่าจะเกิดบนผืนแผ่นดินไทย นะครับ
- หมอเจ๊ว่ามันคือ มหาหงส์นะค่ะ
สวัสดีครับ
ดอกสเลเต เป็นชื่อเรียกของทางอีสานครับ
ทางภาคเหนือ น่าจะเรียกดอก ต๋าเหิน
ส่วนชื่อเรียกทางภาคกลาง จำได้ลางๆว่า ???? แฮะๆจำไม่ได้แล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็น พวกนกพวกหงส์เหริ(ประมาณนี้) ต้องไปค้นบันทึกเก่าๆของ พี่นุช(คุณนายดอกเตอร์)ดูครับ เคยอ่าน
สรรพคุณ ดร.อุษา มมส. เลยเล่าว่า ดอกมีกลิ่นหอมช่วยเจริญอาหารครับ
บ้านผมที่ ปาย ได้ยินแม่ผมเรียก
หากเป็นดอกออกสีเหลืองๆ เรียก "ดอกเฮวคำ" ส่วนดอกสีขาวตามบันทึก เรียก "ดอกเฮวเงิน" ครับ
หรือต๋าเหินคำ - ต๋าเหินเงิน ก็ได้ครับ
สวัสดีครับพี่ไมตรี
ขอบคุณมากครับ สบายดีนะครับ เข้ามายิ้มๆ แทนต้นไม้ต้นนี้จังครับ
เธอคงพูดว่า...เธอจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ถิ่นของเธอเถอะจ๊ะ แต่ฉันก็เป็นตัวฉันอย่างนี้และคงสรรพคุณดั่งที่พระธรรมชาติสร้างและให้โอกาสฉันเติบโตมานี่ล่ะจ้า
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ
- เห็นเป็นครั้งแรก รูปทรงแบบนี้ทางใต้มีมากครับ เช่น ทือ กระวาน ขมิ้นชัน พุทธสิงห์ ดาหลา ปุด พอถามเพราะเห็นดอกแปลก..พอได้ยินชื่อ....เอ คุ้นๆ เลยเอามาถามทุกท่าน
- ขอบคุณมากที่อุตส่าห์ เอาบันทึก อ.ออด มาให้อ่าน ได้ข้อมูลอีกเพียบ..
สวัสดีครับ อ.ประจักร
- ดอกสะเลเต ทางใต้หายากมากครับ
- มีโอกาสเข้าไปอีกจะขอแบ่ง สักหน่อ
- ขอบคุณมากครับ
- สวัสดีครับ yong
- เหมือนคุณว่า จะแยกเอาไปไหนก็ไม่รู้ ตั้งหน้าทำมาหน้ากินดีกว่า
- ทรัพย์ยากรมากมาย ที่จะเอื้ออำนวยในการประกอยอาชีพ
- ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ หมอเจ๊
- ใช่แล้วครับ.......ถูกต้องครับ
- แต่ผมเพิ่งเคยเห็นวันนี้และเพิ่รู้เดี๋ยวนี้เอง
- ว่านมหาหงศ์
- ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ น้องเปลี่ยน
- ผมเพิ่งเคยเห็น..และงงกับชื่อเพราะคุ้นๆแต่ไม่เคยเห็นครับ
- เข้าไปอ่านในบันทึก อ.ออดแล้วครับ เดี๋ยวจะไปค้นในบันทึกพี่นุชอีกที
- ขอบคุณมากครับ
น้องเอก
- เฮวคำออกเหลือง เฮวเงินออกขาว
- สะเลเต หรือมหาหงส์ คืออย่างเดียวกัน
- เป็นประเภท ไม้กลิ่นหอม....เขาว่า
- ขอบคุณมากครับ
หวัดดี..อ.เม้ง
- ตอนนี้ก๊โมงแล้ว
- เข้าตำราชื่อนั้นสำคัญไฉน
- กลิ่นยังหอม สรรพคุณคงเดิม
- แต่ต้องเรียกชื่อถูกด้วยจึงจะดี...ฮิๆๆ
- ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะ น้องไม เกษตรยะลา
- ครูอ้อย ชอบมาก ดอกไม้นี้ รู้จักครั้งแรกที่ ดงหลวง เฮฮาศาสตร์ 3
- คงปลูกง่าย ตายยาก สีขาวสะอาดตา หอมไหมคะ วันนั้นที่เห็น ไม่กล้าดม กลัวเจอเจ้า สี่ขา มันจองไว้ค่ะ
คิดถึงค่ะ
สวัสดีครับครูอ้อย
- ผมไม่ไดไปเยี่ยมพี่นานแล้วเหมือนกัน
- ดอกสเลเต มีกลิ่นหอม แก้อึดอัด คลายเครียด
- รับประทานอาหารได้...มาก
- ไม้หัวปลูกง่าย..ตายยากครับ
- เขาว่ามา...ผมว่าไป
- ขอบคุณมากครับ
นับเป็นโอกาสอันดีครับสำหรับการตั้งรกรากของชุมชนเล็ก ๆ ที่เราสามารถปรับแต่งบางอย่างได้ โดยเฉพาะการวางรากฐานการดำเนินชีวิตในวิถีความพอเพียง, พอมีพอกิน ....
ผมเองก็เพิ่งแวะไปบ้านกิ่วเคียน จ.อครดิตถ์มา ซึ่งสองปีที่แล้วเคยร่วมกับนิสิตนำข้าวเปลือกไปช่วยในภาวะน้ำท่วมโคลนถล่ม ซึ่งหลวงเข้าไปช่วยเหลือ ปลูกบ้านให้อยู่อย่างพอเหมาะ และยื่นความช่วยเหลืออื่น ๆ ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงให้กับชาวบ้าน
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าชาวบ้านจะปรับตัว, และเห็นคุณค่าในวิถีนั้นแค่ไหน ....
สวัสดีครับ อาจารย์
- นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง..ความรักความห่วงใย พสกนิกร
- หมู่บ้านเพื่อชุมชนเข้มแข็งและร่มเย็น
- ความช่วยเหลือจากภาครัฐ
- พวกเขาเอง...ต้องช่วยตัวเองเป็นร้อยเท่า
- ขอบคุณมากครับ