บันทึกการทำงาน : สุ จิ ปุ แล้วก็ ลิ


สุ (เป็นส่วนใหญ่) จิ(บ้าง) ปุ(น้อยหน่อย) แล้วก็ ลิ (เป็นอันจบบันทึก)

เช้านี้มองไปทางไหนก็เห็นหลาย ๆ คนใส่เสื้อกีฬาสี รวมผู้เขียนด้วย บอกตามตรงว่ายังไม่ได้ซักเลย โชคดีจังที่ไม่ได้ซัก เพราะน้องพิทบอกว่ารีดยากส์ แต่ป้ารูญบอกว่ารีดไม่ถูกวิธี แล้วพี่เขาก็บอกถึงเคล็ดลับการรีดผ้า น๊ะ ใช้น้ำพรมไม่มากไปไม่น้อยไป ฟังดูแล้วก็ดูเหมือนธรรมดาเราก็ใช้วิธีนี้อยู่เหมือนกัน เดี๋ยววันหลังต้องจับพี่รูญมาศึกษา เผลอ  ๆ ก็ไปฝึกงานบ้านพี่เขาน่าจะดี เอ๊ะ!! หรือจะเป็นเตารีดคนละชนิด คนละยี่ห้อ 

ปีนี้คาดว่าคนจะเยอะ แต่ที่แน่ ๆ ของขวัญเยอะมาก พวกเราคุยกันว่าเห็นใจคนที่อยู่บ้านไกล ไม่มีรถกลับบ้าน ก็คงไม่สามารถมาร่วมงานได้ ไม่รู้กลับอย่างไร เพราะงานเริ่มตั้งแต่ 14.00 น. ไปจนถึงค่ำ ๆ แหละ และส่วนใหญ่จับของขวัญก็จะมีรอบค่ำ ใครไม่อยู่ก็อด นอกจากอยู่เวร แต่เราก็มีบุคลากรอีกมากที่ หลายคนเหล่านี้ไม่ได้รับสวัสดิการที่พัก แล้วก็ยังเสียโอกาสอีก...แม้อยากร่วมงานก็ตาม เราก็เลยคิดกันเล่น ๆ ว่าใครที่อยู่ไกลจริง ๆ เกิดจับสลากได้รางวัลก็ถือว่าน่ายกเว้นให้ได้รางวัลน๊ะ ..แต่ก็เป็นมุมมองกันแค่พวกเราไม่กี่คน

นาน ๆ ทีจะอยู่บุญวันอาทิตย์ ร่วมกับพี่โอ๋ รู้สึกว่าฟังพี่เขาแล้ว พี่เขามีเทคนิคและหลักจิตวิทยามากมายเลย นี่ก็เพราะพี่เขาเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ และเราก็โชคดีอยู่ใกล้คนชอบอ่าน ก็ไม่ต้องอ่านเอง เพราะมีคนอ่าน แปล วิเคราะห์ให้เสร็จสรรพ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับการสอน การใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องราวต่าง ๆ เยอะแยะ ยิ่งได้ฟังพี่เขาพูดแล้วทำให้เราจะได้คิดไปด้วย ทำให้ "มองกลับหลัง" หันดูตัวเองบ้าง แต่ก็ยอมรับว่าบางครั้งทฤษฏีและปฏิบัตินี่มันแตกต่างกันขึ้นอยู่กับอารมณ์ และบริบท (หมู่นี้ผู้เขียนมักใช้คำนี้บ่อยจัง) วันนี้ผู้เขียนก็เลยได้ข้อคิดดีทีเดียว พี่โอ๋พูดถึงหนังสือเข็มทิศชีวิต (เพิ่งซื้อยังไม่ได้อ่านเลย) ว่า การสื่อสาร และการแปลความหมายนั้นสำคัญมากเลย บางครั้งเรื่องที่พ่อแม่บ่นจุ้จี้ก็เพราะความเป็นห่วง แต่อาจใช้คำพูดที่ไม่ได้สื่อฟังดูเหมือนบ่น แต่ถ้าแปลความหมายให้ดี ๆ ก็จะรับรู้ถึงความเป็นห่วงเป็นใย เพราะฉะนั้นผู้ฟังนั่นแหละที่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนและแปลความหมายไปในทางที่ดี โชคดีที่นายดำนั่งฟังอยู่ด้วย ผู้เขียนเลยได้โอกาส ให้เขาพยายามแปลความหมายการบ่นของผู้เขียนในทางที่ดีเอาเอง

อีกเรื่องที่ได้ฟังเกี่ยวกับเรื่อง primary care รู้สึกสะกิดใจมาก เพราะในฐานะเราเป็นนักเทคนิคการแพทย์ ผ่านพบผลการตรวจสุขภาพที่มีความผิดปรกติในแต่ละวัน แม้เราไม่ใช่นักสถิติ ไม่ใช่แพทย์ ไม่ใช่เทวดา ซึ่งไม่สามารถบันดล บันดาลอะไรได้ แต่สิ่งที่คิดก็คือ ในเรื่องของสุขภาพ บางอย่างเราสามารถป้องกันได้ มีหลายครั้งแล้วที่ผู้เขียนซื้อขนมหวานมาทิ้ง  ๆ ขว้าง ๆ เหตุก็เพราะมันหวานเกินไป  นี่ถ้าคนเราทานอย่างนี้ทุกวัน ๆ ถึงไม่มีกรรมพันธ์ก็คงไม่แคล้วเบาหวาน ไม่ว่าน้ำผลไม้ อาหารประเภทเปรี้ยวนำ หวานตาม ที่เราทานๆ กัน ยิ่งช่วงนี้น้ำตาลแพง ๆ อยู่น่าจะเพลา ๆ หวานกันบ้าง เรื่องการรับประทาน การออกกำลังกาย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่นเลิกสูบบุหรี่ เลิกทานแอลกอฮอลล์ได้ เราก็เห็นจากโฆษณาสื่อชักชวนกันบ่อย  ๆ น๊ะ แต่มันได้ผลหรือไม่อย่างไรไม่รู้ แต่ที่เห็น ๆ เราก็ยังคนรอบ  ๆ ข้างไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไรเลย คนที่ทานเหล้า สูบบุหรี่ก็ยังเหมือนเดิม สงสัยต้องปลูกและฝังกันตั้งแต่เด็กเล็ก ๆเลยกระมัง แต่จะได้ผลรึเปล่า?? ก็ไม่แน่เหมือนกันถ้าผู้ใหญ่ คนที่เป็นพ่อแม่ประพฤติให้เห็นกันอยู่ อ้อ ! พอเห็นอยู่บ้างเหมือนกันเมื่อได้ทราบว่าตัวเองสุขภาพไม่ดี ความดัน เบาหวานถามหา ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็อาจช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง

วันนี้บันทึกการทำงานสัพเพเหระไปหมด เพราะเป็นเรื่องที่คุย คิด และรับฟัง จากหลากหลายเรื่องราวเหลือเกิน สุ (เป็นส่วนใหญ่)  จิ(บ้าง)  ปุ(น้อยหน่อย)  แล้วก็ ลิ (เป็นอันจบบันทึก)  แต่ยังไม่จบการทำงาน

คำสำคัญ (Tags): #การทำงาน
หมายเลขบันทึก: 180533เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2008 14:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นบันทึกที่ดี  บันทึกตามความรู้สึกนึกคิดเชื่อมโยงไปตรงโน้นเชื่อมโยงไปตรงนี้  แต่ก็นำไปสู่ สุ จิ ปุ ลิ ครอบคุมคุ้มค่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท