น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ (โยโย่จากการกินหนักสลับอด) อาจเสี่ยงอายุสั้น

...

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้โรคอ้วนและโรคอ้วนลงพุงระบาดไปทั่วโลก วัยรุ่นฝรั่งส่วนหนึ่งอยากผอมมากๆ ทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่ธรรมดา

วัยรุ่นฝรั่งบางคนใช้วิธีกินมากๆ (binge) แล้วไปล้วงคอให้อาเจียน เพื่อเสพรสชาดอาหาร (ให้อร่อย) ด้วยและไม่ให้อ้วนด้วย วัยรุ่นฝรั่งหลายคนอดอาหารนานๆ จนหุ่นผอมแบบสุดๆ และหลายคนก็ตายไปพร้อมกับซากสังขารที่ผอมแบบหนังนาบกระดูก (anorexia nervosa) ฯลฯ

...

วัยรุ่นฝรั่งอีกส่วนหนึ่งชอบกินหนัก (binge) ด้วย ชอบหุ่นผอมๆ ด้วย จึงใช้วิธีกินหนัก (binge) เป็นพักๆ สลับกับการอดอาหารเป็นพักๆ ทำให้น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ แบบโยโย่รุนแรง (yoyo = ลูกดิ่งที่เด้งขึ้นๆ ลงๆ)

ท่านศาสตราจารย์นีล เมทคาลฟ์ (Professor Neil Metcalfe) และคณะ แห่งมาหวิทยาลัยกลาสโกว สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักรจึงทำการทดลองในน้องปลา (stickleback fish)

...

ท่านทดลองเลียนแบบวัยรุ่นกลุ่มที่ชอบกินหนักๆ สลับกับอดคราวละหลายๆ สัปดาห์ หรือหลายเดือน โดยให้น้องปลากลุ่มหนึ่งกินอาหารแบบสม่ำเสมอทุกวัน อีกกลุ่มหนึ่งให้กินหนักพักหนึ่ง สลับกับอดอาหารพักหนึ่ง

ผลการศึกษาพบว่า น้องปลาที่ "กินๆ อดๆ" มีสมรรถภาพในการสืบพันธุ์คงเดิม ปลาตัวผู้ก็มีสีสันสวยงาม ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์ส่วนใหญ่ที่ไม่เหมือนคนคือ ตัวผู้จะสวย และมีสีสันกว่าตัวเมีย

...

ส่วนน้องปลาตัวเมียที่ "กินๆ อดๆ" ก็มีจำนวนไข่สำหรับการสืบทอดเผ่าพันธุ์เท่าเดิม

ทว่า... เมื่อเปรียบเทียบอายุขัย (lifespan) กันแล้ว น้องปลาที่ "กินๆ อดๆ" กลับมีอายุสั้นกว่าถึงประมาณ 25%

...

สาเหตุการตายของน้องปลาที่ "กินๆ อดๆ" นั้น ส่วนใหญ่เป็นการตายแบบเฉียบพลัน ซึ่งแหล่งข่าวไม่ได้บอกว่า เป็นอะไรตาย มีการชันสูตรศพแบบคนเราหรือไม่

ปรากฏการณ์ "ตายเฉียบพลัน" พบบ่อยในคนที่ขาดอาหารนานๆ แล้วกินอาหารจำนวนมากทันที ตัวอย่างเช่น ชาวยิวในค่ายกักกันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อได้รับอิสรภาพ และได้อาหารมากๆ ทันที จะมีปรากฏการณ์ "ตายเฉียบพลัน" ในช่วงนั้นสูง ฯลฯ

...

การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วนให้ปลอดภัยกับชีวิตนั้น ถ้าเป็นไปได้... ควรทำแบบค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ประเภท "ช้าๆ ทว่ายั่งยืน" นั้นดีกว่าการใช้ความรุนแรง พรวดพราด

ชีวิตเป็นเรื่องที่พวกเราควรปฏิบัติอย่างทะนุถนอม เพราะการได้อัตภาพมนุษย์ หรือการเกิดเป็นคนนั้นแสนยาก

...

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

...

ที่มา                                                  

• Thank BBC > Crush diets 'may reduce lifespan' > [ Click ] > April 30, 2008. // source > J Proceedings of the Royal Society B.
• ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
• ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
• ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี + อาจารย์เบนซ์ iT ศูนย์มะเร็งลำปาง > สนับสนุนเทคนิค iT.
• นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 2 พฤษภาคม 2551.