07. สร้างความเข้มแข็งในจิตใจ...ทำให้ลูกไม่กลัวผี


โกฐสำหรับเก็บกระดูกของญาติในบ้าน มีผลทำให้ลูก ๆ ทุกคน รู้สึกเฉย ๆ กับคำว่า "ผี" ไม่รู้สึกกลัวผี ตลอดชีวิต

          นับตั้งแต่ผมจำความได้ สิ่งหนึ่งที่คุ้นเคยมากในชีวิตก็คือ ชั้นบนของบ้านเรามีหิ้งพระ และข้าง ๆ หิ้งพระก็จะมีโกฐ สำหรับเก็บกระดูกของคุณตา(พ่อเฒ่า) ต่อมาก็เพิ่มกระดูกคุณยาย(แม่เฒ่า) ของน้าชาย และเมื่อผมจบปริญญาตรี ก็ได้เพิ่มกระดูกของคุณปู่ คุณย่า โดยสรุปก็คือ กระดูกของญาติจำนวนมากถูกนำมาเก็บไว้ที่บ้านเรา  ทุกวันปีใหม่ของไทย คือ วันสงกรานต์จะมีการทำความสะอาดหิ้งพระครั้งสำคัญ ต้องเปิดดูในโกฐว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยหรือไม่ อย่างไร พร้อมทั้งนำไปทำพิธีบังสุกุล  

        การที่ทุกคนคุ้นเคยกับกระดูกของคุณตา คุณยาย และญาติ ๆ จึงกลายเป็นเรื่องปกติยิ่งที่ทุกคนในบ้านเรามีความรู้สึกเฉย ๆ กับกระดูกของคนตาย ไม่เคยรู้สึกกลัวผี (อาจเป็นเพราะเราคุ้นเคยมาตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเด็กมาก ๆ)  บ้านของญาติพี่น้อง(คือบ้านของน้า ๆ  ป้า ๆ  อา ๆ ) ทุกบ้านมีความรู้สึก “กลัวผี” ไม่กล้าเก็บกระดูกไว้ ดังนั้น กระดูกของญาติสนิททั้งหมดจึงมาอยู่ที่บ้านเรา รวมอยู่ในโกฐเดียวกัน  ลูกหลานในบ้านเราทุกคนจึงไม่รู้สึกกลัวผี(หมายถึงชั้นลูกของคุณแม่ ทั้ง 7 คนพี่น้อง  จะอย่างไรก็ตาม ในชั้นหลาน เท่าที่พบเห็น หลายคนไม่คุ้นเคย และยังรู้สึกกลัวผี)

        คำพูดที่เราคุ้นเคยมากตั้งแต่เด็ก จากปากของคุณแม่ คือ  “ผีไม่มีหรอกลูก” หรือ “ถ้าผีมีจริง ก็คงจะไม่มาหลอกหลอนคนดี ๆ หรอกลูก”   การพูดย้ำบ่อย ๆ ตั้งแต่วัยเด็ก น่าจะมีผลอย่างยิ่งต่อการปลูกฝังเจตคติในเรื่องนี้....ผมเองรู้สึกเฉย ๆ มากกับคำว่าผี  บ่อยครั้งที่เข้าไปดูหน้าศพของญาติตอนเปิดฝาโลง ก่อนพิธีฌาปนกิจ ก็รู้สึกเฉย ๆ ครับ  ในวันที่คุณพ่อของภรรยาเสียชีวิต(ปี 2541) ผมยังเป็นคนเปิดฝาโลงเพื่อเอาดอกไม้ใส่มือศพ และเป็นคนดูศพ คนสุดท้าย ในขณะที่ภรรยาของผม แม่ยาย และญาติ ไม่กล้าดูครับ

        ในเรื่องของการเก็บโกฐใส่กระดูกไว้ในบ้าน ผมคิดว่า อาจไม่ใช่ความคิดที่มุ่งหวังในการสร้างจิตใจที่เข้มแข็งหรือไม่กลัวผีให้แก่ลูก ๆ หรอกครับ น่าจะเป็นเพราะสถานการณ์บังคับ กล่าวคือ คุณแม่รู้สึกเฉย ๆ เป็นคนไม่กลัวผี(ในขณะที่น้า ๆ ทุกคน กลัวผี) จึงกลายเป็นครอบครัวที่ต้องนำกระดูกมาไว้ในบ้าน(บ้านอื่น ไม่กล้านำไปเก็บ) ส่งผลให้เกิดผลดีต่อจิตใจของลูก สร้างความรู้สึกเฉย ๆ หรือไม่รู้สึกกลัวผีกันทุกคน

        บัดนี้ กระดูกของคุณแม่(คุณแม่เสียชีวิตใน ปี 2544  ทั้งนี้ เรื่องราวที่ผมเขียนถึงคุณแม่ ป.4 ส่วนหนึ่งผมได้เขียนไว้ในหนังสือที่ระลึกในพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณแม่ โดยใช้ชื่อว่า “คุณแม่นักจัดการ...นักสร้างผู้ยิ่งใหญ่” ) ได้ถูกนำไปเก็บรวมกับกระดูกของคุณปู่ ย่า ตา ยาย และล่าสุด คือ พี่ชายคนโตของผม ไว้ในบ้านของเรา (ในจังหวัดนนทบุรี) ทุกวันสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย เราก็ยังนำไปทำพิธีบังสุกุลตามปกติทุกปีครับ

 

หมายเลขบันทึก: 180148เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2008 09:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2012 17:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • ท่านเข้าใจสอนได้อย่างน่าชื่นชม
  • พระท่านว่า คนตายคือคนไม่หายใจ
  • ไมมีอะไรน่ากลัวครับ
  • คนบางคนน่ากลัวกว่าผีครับ
  • หลอกได้ตลอดเวลา...
  • ขอบคุณครับ
  • ดีใจค่ะที่ได้อ่านหลายๆแง่คิดจากบล็อก
  • เรื่องราวยังสนุก...น่าติดตามค่ะ
  • จะไปขยายความให้ลูกศิษย์ฟังคะอาจารย์...ขอบพระคุณค่ะ

เนื้อหาน่าสนสนใจมากเลยค่ะ

ทำให้เราสามารถนำไปสอนลูกๆหรือเยาวชนให้เด็กๆไม่กลัววิญญาณหรือสิ่งเร้นลับ

  • มีวิธีการสร้างความคุ้นเคยทำให้ไม่กลัว ดีนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ
  • คนไหนครับ อ.ขจิต ที่ว่าน่ากลัวกว่าผี ให้ระบุชื่อเลยครับ(พูดแบบในสภาผู้แทนฯ)
  • คุณ noktalay  คุณ Malmeaw  และครูปู  ขอบคุณนะครับที่ติดตามและให้ข้อคิดเพิ่มเติม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท