ครูบาฯ อจ ขจิต คุณหมอเจ๊ และอีกหลายๆท่านชี้ว่าเรื่องดูแลให้คนทำงานมีกำลังใจเป็นปัจจัยสำคัญให้ จนท ทำงานในชนบทได้นาน
ผมนึกถึงคำพูดตัวเองที่เคยบอกไว้ในหลายโอกาสว่า ประเทศไทยโชคดี เพราะคนทำงานในชนบทของระบบสุขภาพไทย ทำงานด้วยใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่ว่าไม่พอใจก็ไม่ทำงาน แต่กลายเป็นว่า มีอะไรน่าทำก็รี่เข้าหา
ตัวอย่างของการคิดและสร้างนวัตกรรม และไล่ตามกำจัดปัญหาสุขภาพใหม่ๆ อย่างสุขภาพจิต กายภาพบำบัด ที่ผมเล่าไว้เกี่ยวกับ ทีมที่หล่มสัก ทั้ง รพช และ รพต (รพตำบล) เป็นตัวอย่างที่ดี
แต่ยังมีอีกหลายตัวอย่าง ที่ผมนึกได้ อย่างพยาบาลสถานีอนามัยแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้เธอย้ายสังกัดแล้ว แต่ปรากฏว่าที่เทศบาลมีงานน้อย เธอเลยกลับไปชาวยดูคนไข้ที่ที่ีทำงานเก่า เธอยืนยันว่าคนทำงานในชนบทของ สาธารณสุขเราทำงานหนัก อาจรู้สึกว่าไม่ค่อยมีใครเข้าใจ เห็นใจ แต่ก็ไม่เคยหมดกำลังใจง่ายๆ
ผมไปเยี่ยมสถานีอนามัย ที่อำเภอสันทราย พบเจ้าหน้าที่ 2 คน เล่าให้ฟังว่ามีงานมาก คนไข้ก็มากหลังมี 30 บาท พอคุยไป แทนที่เขาจะบ่นให้ฟังว่างานหนัก คนน้อย เงินก็ไม่ได้เพิ่ม เขากลับเล่าแผนงานใหม่ๆที่กำลังจะเริ่มเพื่อดูแลโรคเรื้อรัง โดยร่วมกันทำงานระดับชุมชน แทนที่จะเน้นแค่ตรวจคัดกรองแล้วให้มารับยาไปกินแบบที่เคยทำกันที่อื่นๆ
ใครที่กำลังทำงานเพราะอยากมีรายได้แยะๆ น่าจะหาเวลาไปเยี่ยมพวกเราที่ทำงานในชนบท จะได้กลับมาวิ่งไล่งาน แทนวิ่งไล่เงิน
คุณหมอครับ "เรื่องเล่าเร้าพลัง คนเก่งหัวใจแกร่ง สามจังหวัดชายแดนใต้และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา ฟังแล้วน้ำตาคลอทุกเรื่อง
อนมัยถูกเผา ต้องเอาไม้จิ้มฟันแทนพรูฟ ทำแผลคนไข้ มีมากมายที่ข้อมูลเชิงลึกยังไปไม่ถึงกระทรวงครับท่าน