“ธรรมวัคซีน"
วัคซีนชีวิต…สอนวิธีคิด...ให้สร้างภูมิคุ้มกันชีวิตด้วยพระธรรม
คุณแอม เสาวลักษณ์ ศิลปินที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ในแบบฉบับของตัวเอง....ได้ให้ทรรศนะกับรายการหนึ่งทางโทรทัศน์ว่า “เราควรใช้ธรรมเป็นวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต ธรรมจึงเป็นเรื่องที่ควรศึกษาตั้งแต่วัยเด็ก”
สมัยที่มีอาชีพเป็นนักศึกษา ตอนนั้นผู้เขียนมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นช่างภาพ....เพราะเคยมีประสบการณ์ในการถ่ายภาพ ล้าง อัดภาพขาว - ดำ มาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม เลยต่อยอดด้วยการไปเป็นสมาชิกชมรมถ่ายภาพของสโมสรนักศึกษา .....ทุ่มเท..ลงทุนด้วยเวลา...ค่ากล้อง...ค่าฟิล์มเยอะมาก....แต่ก็ได้ศิลปะมาจรรโลงใจ และได้ภาพสวยๆของธรรมชาติและเพื่อนๆเก็บสะสมไว้มากมาย...แล้วเวลาก็ผ่านเลยไปจนวันนี้พบว่า......ภาพถ่ายของตัวเองตอนเป็นนักศึกษาแทบไม่มีเลย....เพราะมัวแต่ถ่ายคนอื่น....
ถึงตอนนี้ไม่ว่าจะใช้เงินสักเท่าไหร่....ก็คงไม่อาจหาซื้อภาพในวัยสดใสของตัวเองได้อีกแล้ว....อย่างนี้ถือว่า....ขาดทุน...ขาดทุนยับเยิน..ที่ไม่ได้ลงทุนบันทึกสังขารในกาลเวลาของตนเอง...เสียดาย....แต่ก็มานึกขึ้นได้ว่า ...ในขณะนั้นก็มีผลกำไรมหาศาลทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้ลงทุนมากมายนัก....จากการได้อ่านหนังสือ “ ธรรม จริยา มรรค ” ของชมรมพุทธศิลป์ซึ่งมีกิจกรรมบูรณาการกับสมาชิกชมรมถ่ายภาพบ่อยๆเพราะชมรมตั้งอยู่ใกล้ๆกัน วันไหนที่มีเวลาว่างก็อ่านหนังสือธรรมของชมรมพุทธศิลป์ ได้เรียนรู้ธรรมและมาใช้นำทางชีวิต เช่น ความพยามยาม ความอดทน ความมีสติ และการมองทุกอย่างว่าเป็นอนัตตา ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
การได้ “ธรรมวัคซีน” จึงเป็นภูมิคุ้มกันให้ชีวิตให้อดทน ต่อสู้กับสารพันปัญหาและนานาอุปสรรคในชีวิตประจำวัน และใฝ่หา “ธรรมโอสถ”มาช่วยรักษาเมื่อบาดเจ็บในชีวิตอย่างแสนสาหัสหลายต่อหลายครั้ง จนหลุดพ้นบ่วงกรรมความทุกข์ทรมานต่างๆมาจนถึงปัจจุบันที่มีอายุเกือบกึ่งศตวรรษ นับได้ว่าการได้ “ธรรมวัคซีน” เป็นผลกำไรอย่างมหาศาลที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน และจะเพิ่มพูนกำไรมากขึ้นถ้าได้นำเรื่องราวอันเกิดจากประสบการณ์ตรงนี้ ไปใช้เป็นแนวทางสร้างแนวคิดให้ผู้อื่นได้คิดหาภูมิคุ้มกันชีวิตของตนเองได้
“ธรรมวัคซีน ” จึงเป็นวัคซีนที่ควรให้ตั้งแต่วัยเด็ก และควรให้ทุกระยะ อย่าให้ขาดตอน
“ธรรมวัคซีน ” ไม่มีจำหน่าย แต่หาได้ง่ายจากแหล่งเรียนรู้ที่เรียกว่า “บวร” ( บ้าน วัด โรงเรียน )
ถ้าชีวิตมี “ธรรมวัคซีน “ ดีพอ คงไม่ต้องรอใช้ “ธรรมโอสถ”
แต่ชีวิตสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม “ธรรมวัคซีน ” และ “ธรรมโอสถ” จึงต้องใช้ควบคู่กันไป....เพื่อให้ทุกข์น้อยที่สุด
“หนังสือธรรมะ” เป็นเสมือนวัคซีนและยาสามัญประจำบ้าน การสวดมนต์ก่อนนอน ก็เป็นสิริและมีพลังอันยิ่งใหญ่ การอ่านหนังสือธรรมะก่อนนอน...น่าจะเป็นมนต์วิเศษที่เราเสกได้ด้วยตนเอง เสกให้ชีวิตและครอบครัวตนเองมีความสุข”
เป็นที่น่ายินดี...ที่แผงหนังสือในปัจจุบัน มีหนังสือธรรมะเป็นจำนวนมาก..ที่เลือกสรรเนื้อหาของพระธรรมให้ผู้อ่านนำไปใช้เป็นข้อปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สุขในชีวิตประจำวัน จัดพิมพ์เป็นรูปเล่มหลายขนาด แต่เน้นความกะทัดรัดทั้งรูปเล่มและเนื้อหา.....เขียนด้วยภาษาง่ายๆแต่โน้มน้าวใจ มีภาพประกอบสีสันสวยงาม... มีบางเล่มที่เขียนภาพพระสงฆ์ในแบบการ์ตูนพระ...ก็อาจถูกตำหนิไปบ้างว่าไม่เหมาะสม ...มียอดขายยืนยันได้ว่าหนังสือธรรมะที่มีภาพประกอบสวยๆ เป็นศิลปะร่วมสมัยทำให้ขายดี จริงๆแล้วศิลปะกับธรรมะ เป็นมิตรที่ใกล้ชิดกันมานาน...ขอเพียงปรุงแต่งให้เป็นไปไปตามยุค...ธรรมะ ก็จะอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์ยิ่งขึ้น
คิดเลยไปถึงคนที่เขียนหนังสือธรรมะ ....ผู้ที่ให้ทุนพิมพ์หนังสือธรรมแจกจ่ายเป็นทาน....และคนที่จัดรายการธรรมทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์.....นับได้ว่าพวกเขาเป็นญาติธรรมที่เปี่ยมพลังและทรงคุณค่าของสังคม
....ขอให้รวมพลังสร้างสีสันหนังสือแห่งธรรมะให้น่าอ่านและจัดรายการธรรมให้มีบรรยากาศชวนชม..ชวนฟังต่อไป ...ขอร่วมอนุโมทนาค่ะ
มาเยี่ยม...
เป็นบันทึกที่สะกิดใจให้ทำดีมีธรรมประจำจิตใจตนดีแท้ ๆ นะครับ
***ขอบคุณต่ะอาจารย์
***ติดตาม...และชื่นชมบันทึกของอาจารย์เสมอ
***ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน....รักษาสุขภาพนะคะ
สวัสดีครับอาจารย์ กิติยา เตชะวรรณวุฒิ
สวัสดีค่ะอาจารย์
***ขอขอบคุณอาจารย์แทนคณะครูและนักเรียนโรงเรียนจ่านกร้องด้วยค่ะ
***บันทึกของอาจารย์ทันสมัย...น่าติดตาม...เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเยาวชน...
***หากมีโครงการดีๆ สำหรับเยาวชนอีก...รบกวนส่งข้อมูลให้โรงเรียนจ่านกร้องด้วยนะคะ...ขอบคุณค่ะ