เรื่องที่จะเล่าให้ฟังในเรื่องนี้ เป็นเนื้อหาที่มาจากประสบการณ์ของดิฉันที่ได้ทำหน้าที่ของการทำหน้าที่เป็นผู้แทนเพื่อเล่าเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ "ระบบส่งเสริมการเกษตร กรณี : การปฏิบัติงานในพื้นที่"
ที่สืบเนื่องมาจากกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีแนวคิดและนโยบายให้คณะทำงานปรับปรุงระบบส่งเสริมการเกษตร ทำหน้าที่ปรับปรุงระบบการทำงานเพื่อใช้ปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
ภารกิจหน้าที่ให้สอดคล้องกับการทำงานในปัจจุบัน และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการได้อย่างพึงพอใจ ดังนั้นการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจึงมีกระบวนการปฏิบัติ คือ
1. ค้นหา Best Practice ที่ทำงานส่งเสริมการเกษตรแล้วได้ผล มีผลงานเป็นรูปธรรม
2. รวบรวมตัวแทน Best Practice เข้าสู่เวทีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ
3. ถอดบทเรียน Best Practice โดยการจัดเก็บข้อมูลเป็นรายคน/กลุ่มย่อย/ภาพรวม
4. ประมวล/วิเคราะห์/สังเคราะห์ เนื้อหาสาระและข้อมูลที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์และการปฏิบัติจริงของ Best Practice
5. สรุปและจัดเป็นองค์ประกอบในการทำงานส่งเสริมการเกษตร
6. จัดเวทีนำเสนอเพื่อรับฟังความคิดเห็นและปรับแก้
7. นำสู่กระบวนการปฏิบัติงาน
ก่อนจะมีการจัดเวทีเพื่อนำเสนอระบบการทำงานที่ผ่านการปรับปรุงและแก้ไขในชั้นเรียนเสร็จแล้วนั้น การปฏิบัติงานในขั้นตอนต่อไปก็คือ นำแนวคิดและเนื้อหาที่เกิดขึ้นเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติ
ฉะนั้น จึงได้มีการรวมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน บทบาทที่ดิฉันได้รับในเวทีการนำเสนอก็คือ เป็นผู้แทนในเล่ารายละเอียดของเนื้อหา จำนวน 2 เรื่อง คือ เรื่องการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับตำบล และ เรื่องการจัดการเรียนรู้/การถ่ายทอดเทคโนโลยี
ดังนั้น เมื่อได้รับมอบหมายงานมา ดิฉันจึงเริ่มต้นจาก
1. การศึกษารายละเอียด ทำความเข้าใจข้อมูล แยกแยะกรอบของเนื้อหาสาระ และสรุปเป็นหลักการที่จะนำเสนอ
2. ย้อนข้อมูลสู่เนื้อหาสาระที่ทีมงานกลางได้จัดเตรียมสำหรับการนำเสนอในเวทีจริง
3. นำเนื้อหาสาระทั้ง 2 ส่วนมาสรุปเป็นแนวคิดของตนเองที่จะถ่ายทอดความรู้ หรือ เล่าให้คนอื่นฟัง
4. นำหลักการของ KM มาใช้ในการนำเสนอ/ถ่ายทอดเนื้อหาสาระ พร้อมทั้งใส่ "เทคนิคการนำเสนอ" ของตนเอง
5. จัดทำ/แปลงข้อมูลและเนื้อหาเป็นสื่อเพื่อใช้นำเสนอ
6. ทดลองนำเสนอ/เล่าให้ฟัง และปรับแก้
ดังนั้น เมื่อถึงเวทีของการนำเสนอเนื้อหาสาระเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับตำบล และ เรื่องการจัดการเรียนรู้/การถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่ให้เวลาเรื่องละ 10 นาที ที่เกิดขึ้นนั้นสำหรับดิฉันถือว่า "เป็นประสบการณ์ใหม่" กับเวทีในลักษณะเช่นนี้กับกลุ่มบุคคลเป้าหมาย ประมาณ 500- 600 คน และเป็นความใหม่กับเนื้อหาสาระที่เป็นความรู้ทางด้านระบบส่งเสริมการเกษตร ฉะนั้น จึงเป็นประสบการณ์ที่ตัวเราเองสามารถค้นพบความรู้และการประเมินจุดดี/จุดอ่อน ด้วยตนเองได้เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ได้ เช่น เทคนิคการนำเสนอ การใช้สื่อประกอบการเล่าเนื้อหา และอื่น ๆ โดยสิ่งเหล่านี้ถ้าตัวเราเองมีโอกาสในการฝึกฝนก็จงรับและเรียนรู้ให้สนุกกับการทำงาน
ถ้าไม่กล้าทำ ก็จะไม่กล้ารู้
ถ้าไม่กล้ารู้ ก็จะไม่กล้าเป็น
ถ้าไม่กล้าเป็น ก็จะไม่กล้าพูด
ถ้าไม่กล้าพูด ก็จะไม่รู้จริง
ถ้าไม่รู้จริง ก็ไม่เป็นมืออาชีพ...สักที.
สรุปว่าถ้าไม่ลงมือทำ ก็ไม่มีวันจะเป็นมืออาชีพ ใช่ไหมครับ