คนไข้และการ empowerment


สิ่งที่เห็น กับความจริงที่เป็น

               สวัสดีค่ะหลังจากห่างหายการเขียน บล็อกมานาน ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะทำงานอยู่ ทำไมยุ่งได้ทุกวัน(ข้อแก้ตัวน้ำขุ่นๆค่ะ) พอได้อ่าน comment แล้วมีกำลังใจอยากเขียนอีกครั้ง  ช่วงที่หายไป ไปทำ case report ส่ง อย.ด้วย ทำกับคุณหมอที่รพ. เป็น case  ADR ที่รุนแรงเอาไว้ก่อน นะคะ    อยากเล่าเรื่องนี้ก่อนน่ะค่ะ           ตอนช่วงต้นปี    ได้มีโอกาสดูโทรทัศน์  ละครแม่นางเอกป่วยเป็นเบาหวานต้องพาไปฉีดยาอินซูลินที่โรงพยาบาลทุกวัน ค่ารักษาแพงมาก(ทั้งที่เดี๋ยวนี้รัฐก็สวัสดิการ)  ในเรื่องดูเหมือนว่าการฉีดอินซูลินนี่คงเป็นระยะร้ายแรงมาก          ในความเป็นจริงแล้วมีคนที่ต้องใช้ยาฉีดนี้มากมาย  สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข     ทีวีก็คล้ายกับชีวิตจริงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ได้แอนตี้หรือโจมตีอะไร      แค่อยากบอกว่าลองลุกจากหน้าจอมาดูแลคนที่คุณรักบ้างนะคะ คิดถึงที่นางเอกต้องพาไปฉีดยาที่โรงพยาบาลนึกถึงการ empower คนไข้ ให้  ปฏิบัติด้วยตนเอง

               มีคนไข้คนนึงที่รพ.คล้ายกับในเรื่องทุกเช้าต้องมาฉีดยาที่รพ.ก่อนไปทำงาน  ใช้เวลาหลายเดือนทีเดียวกว่าจะยอมฉีดเอง แล้วก็บอกว่ารู้อย่างนี้ทำเองตั้งนานแล้วมันยากตอนเริ่ม  การก้าวผ่านกำแพงที่เราสร้างขึ้นนั่นเอง  มาลองนั่งนึกตอนปีใหม่ว่าประทับใจ case ไหนในการสอนฉีดอินซูลินมากที่สุด(แต่ไม่ได้มาเล่าซักที) มีอยู่คนค่ะเป็น uncontrol DM คือเป็นเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้  แพทย์ให้ใช้ยาฉีดอินซูลิน  ลูกสาวจะเป็นคนฉีดให้ก่อนไปโรงเรียน แล้วช่วงสอบลูกไม่มีเวลาฉีดยาเลยมา Admit คือมานอนโรงพยาบาลด้วยอาการน้ำตาลสูง  ดังนั้นเรา(ทีมผู้ดูแลรวมทั้งเจ้าหน้าที่ใน ward)คิดกันว่าน่าจะต้อง empower คนไข้ ให้  ฉีดยาเอง   วันแรกที่เราไปสอนเค้าไม่ยอมรับเราเลย  เค้าคิดว่าชีวิตเค้าโชคร้ายกว่าคนอื่นๆมากนอนซึม   วันต่อมาเราเข้าไปคุยว่ามีคนอีกมากมาย  อายุมากตามองไม่ค่อยเห็น ยังต้องพยามฉีดเอง

ก็ยังไม่ยอมแต่ขอคิดดูก่อน(ตอนนั้นเกือบร้องไห้แน่ะ  sensitive ไปหน่อย)   เช้าวันต่อมาลุงไปโกนหนวดให้เตียงข้างๆซึ่งเป็นคนไข้ CVA ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองแต่มีความพยามที่จะหัดเดิน พี่เราถ่ายรูปตอนช่วยโกนหนวดให้ เราว่าดูน่ารักดี แสดงให้เห็นสัญญาณดีๆบางอย่าง  เค้าเริ่มตอบรับเรามากขึ้น กล้ามองหน้าเรา แววตาเค้าดูเปลี่ยน  จากนั้นอีกวันเราเข้าไปสอนใหม่เมื่อเค้าพร้อมมากขึ้น   มีป้าที่มาดูแลคนไข้เตียงข้างๆมาขอเรียนด้วยเพราะป้าก็ฉีดอินซูลินแต่ให้ญาติฉีดให้พอมาเฝ้าไข้เลยไม่ได้ฉีดยา  คุณลุงก็เลยคุยกับคุณป้า แล้วเราก็สอนอีกที คุณลุงฉีดให้คุณป้าดูเป็นตัวอย่างเลย      วันนั้นเรามีความสุขมากมันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆแต่ทำให้หัวใจฟูขึ้น  คุณป้าเลยบอกว่าง่ายนิดเดียวเองต่อไปจะฉีดเอง จะ ได้ใช้ชีวิตสะดวกขึ้น  

                    เรื่องนี้ทำให้เราได้รู้ว่าการที่คนไข้สามารถดูแลตัวเองได้ สามารถทำให้ชีวิตเค้าง่ายขึ้น มีความสุขมากขึ้น   มาช่วยกันสร้างความสุขง่ายๆด้วยกันนะคะ

หมายเลขบันทึก: 178903เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2008 20:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 20:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

คุณอุมาพร

  • ผมขอชื่นชมในความมุ่งมั่นและความจริงใจของคุณนะครับ การช่วยเพื่อให้คนช่วยเหลือตนเอง น่าจะเป็นหลักการที่ดีมาก
  • ผมเคยเจอบางโรงพยาบาล ในการรักษาผู้ป่วยเบาหวาน ได้แจ้งให้ผู้ป่วยนำญาติในวัยเรียน(ลูก-หลาน) มาด้วย 1 คน แล้วมอบหมายให้เป็น "ผู้ช่วยแพทย์" ที่ต้องคอยดูแลผู้ป่วยขณะอยู่ที่บ้าน เป็นตัวแทนของหมอ(อันนี้ เป็นการ Empowerment ให้กับครอบครัวและเยาวชนในอนาคต)
  • เคยเจอบางโรงพยาบาล ในการสอนผู้ป่วย ให้ดูแลตนเอง เขาใช้วิธี ให้ผู้ป่วยดู VCD ที่เกียวข้องกับการปฏิบัติตนหรือเทคนิควิธีในการดูแลตนเอง หลังจากด^ VCD แล้ว ผู้ป่วยจะปฏิบัติตนหรือกล้าปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆมากขึ้น ตามแบบพรีเซ็นเตอร์ที่ปรากฏใน VCD

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ จะนำไปปรับใช้ดู ดีใจจังเลยค่ะ

เหมียวมีความพยายามมากเลยนะ พี่เป็นกำลังใจให้จ้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท