วันนี้เหนื่อยมากคะ..มีการอบรมคอมพิวเตอร์ให้กับคุณครูคนเก่งที่มีจิตพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้า ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงปิดภาคเรียน ครูปกติจะได้พัก และอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสูขบ้างเพราะตลอดภาคเรียนทั้งเคี่ยวทั้งลากประดาลูกศิษย์ตั้งแต่ตัวน้อย ๆ ไปจนถึงตัวใหญ่ ๆ อย่างตั้งอกตั้งใจ
ซึ่งครูก็ไม่วายคว้า จับในสิ่งที่เป็นประโยชน์เพื่อจะใช้ในการพัฒนาเจ้าตัวจ้อยให้ไปถึงฝั่งฝันทั้งของพ่อแม่และตัวเด็กเอง แต่เด็ก และผู้ปกครองอย่าลืมนะคะว่า เรือทั้งลำจะให้แต่ครูตัวจ้อยทั้งพายทั้งงัดคนเดียวคงไม่ได้ คงจะต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือโดยถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญ
แต่นี่...วันนี้จะนำเรื่องน้ำมาฝากนี่นา แล้วไหงไปไกลถึงไหน ถึงไหนแล้วล่ะ
กลับเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะเห็นบทความหนึ่งในเว็บไซต์ชื่อน่ารักมาก ๆhttp://www.bloggang.com
ได้พูดถึงการดื่มน้ำ ก็เลยขอCopy มาฝากโดยไม่ต้องไปเปิดเว็บไซต์อื่นให้ยุ่งยากนะคะ
เตือนดื่มน้ำมากและเร็วเกิดภาวะ"น้ำเป็นพิษ"ถึงตายได้
โฆษก สธ.เตือนยึดสายกลาง ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว ไม่มากหรือน้อยเกินไป ด้าน นักโภชนาการ มหิดลเตือนการดื่มน้ำมากและเร็ว ทำให้เกิดภาวะ “น้ำเป็นพิษ” แร่ธาตุโปแตสเซียม เสียสมดุล ส่งผลกล้ามเนื้อหดเกร็งตัว หากเกิดในอวัยวะสำคัญเช่น สมอง หัวใจ ปอด มีอันตรายถึงเสียชีวิตได้ อาการเตือนคือเป็น ตะคริว กล้ามเนื้อเกร็งตัว
นายสง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุข 9 กรมอนามัย ในฐานะ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 2 ถูกรุ่นพี่ทำโทษโดยให้ดื่มน้ำจนจุกแน่นหมดสติ ต่อมาเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ว่า ร่างกายประกอบด้วยน้ำร้อยละ 70 ถือว่าน้ำเป็นสารอาหารจำเป็นสำหรับร่างกายร่วมกับอาหารทั้ง 5 หมู่ ร่างกายควรได้รับน้ำสะอาดวันละ 1,200 ซีซี หรือ 8-10 แก้ว หากดื่มน้ำน้อยกว่านี้ อาจเกิดภาวะสูญเสียน้ำถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น ร่างกายต้องได้รับน้ำอย่างเหมาะสม โดย น้ำต้มสุก มีความสะอาดที่สุด ส่วนน้ำดื่มบรรจุขวดควรเลือกที่มีตรา อย.
ด้าน รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ร่างกายได้รับน้ำปริมาณมากในเวลารวดเร็วทำให้เกิด ภาวะน้ำเกิน หรือ น้ำเป็นพิษ เนื่องจากทำให้น้ำในเซลล์และนอกเซลล์ขาดความสมดุลกัน ส่งผลให้น้ำในเลือดสูง ความเข้มข้นของเลือด ลดลง ทำให้ร่างกายต้องปรับระบบให้สมดุล โดยขับแร่ธาตุโปแตสเซียมออกจากเซลล์เพื่อปรับความสมดุลระหว่างน้ำในเซลล์และนอกเซลล์ อาการเตือนเมื่อเกิดภาวะแร่ธาตุโปแตสเซียมไม่สมดุลคือ เป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็ง อ่อนหมดแรง ถ้าเกิดการเกร็งในสมอง ปอด หัวใจ ทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้
“ปริมาณน้ำมาก ๆ ที่ร่างกายรับเข้าไปจนเกิดภาวะน้ำเป็นพิษ บอกชัดเจนไม่ได้ ถ้าคนดื่มน้ำเองสมองจะบอกว่า อิ่มแล้ว เริ่มจุก แต่การบังคับให้ดื่มน้ำ ถ้าเริ่มอ่อนเพลีย เกร็ง ถ้าหยุดรับน้ำเพิ่ม ร่างกายจะขับน้ำออก การดื่มมาก ๆ แต่ช้า ๆ ไม่เป็นอันตราย ไตขับน้ำออกทางปัสสาวะได้ ถ้าโหมใส่เข้าไปมาก ๆ เกินร้อยละ 10 ของปริมาณที่ร่างกายได้รับปกติมีโอกาสเกิดได้ แต่ว่าพบได้น้อยมากที่ดื่มน้ำมาก ๆ เร็ว ๆ แล้วเกิดภาวะน้ำเป็นพิษ” รศ.ดร.ประไพศรี กล่าวและว่า ภาวะน้ำเป็นพิษ มีอาการเตือนคือ กล้ามเนื้อเกร็ง ตะคริว ส่วน ภาวะแห้งน้ำ หรือ ร่างกายขาดน้ำ นั้น เป็นภาวะที่โปแตสเซี่ยมออกจากเซลล์พบได้บ่อยในผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยดื่มน้ำ
จะกลับไปดื่มน้ำเยอะ ๆ
มาเยี่ยมค่ะ
ขอโทษ...อย่างแรง..คะอาจารย์.ขจิต ฝอยทอง
ช่วงนี้แวะเข้ามาแบบ เว๊บๆ...เพราะงานยุ่งมาก
น้องโอ๊ะ โอ๋ เค้าก็ยุ่งเรื่องกระจายอำนาจ เป็นจุดพัฒนา
p'กา ก็ยุ่งเรื่องการจัดการความรู้ ในฐานะ สพท.แกนนำ
ฉะนั้น....มันก็ต้องมีพลั้ง..มีเผลอบ้างนะ
อย่าโกรธ....เลยคะเดี่ยว..ไม่มีใครเม้นด้วย