การประชุมเครือข่ายฯสัญจร ครั้งที่ 2/2549 (3.3) ต่อ


     อย่าเพิ่งหงุดหงิดว่าทำไมผู้วิจัยเล่ากะท่อนกะแท่นจัง  ความจริงเมื่อกี้นี้รู้สึกว่าคอมพิวเตอร์จะมีปัญหาก็เลยชิงจัดการให้เรียบร้อยก่อนค่ะ  กลัวที่พิมพ์มาจะหายหมด  ถ้าเป็นอย่างนั้นจะขอไม่เข้ามาเขียนบันทึกเลยสัก 10 วัน  เป็นการแก้แค้นตัวเอง  ถ้าอย่างงั้นมาอ่านกันต่อเลยก็แล้วกันนะคะ

     วาระที่ 3  เรื่องสืบเนื่อง  (ต่อ)      เมื่อผู้วิจัยกล่าวจบ อ.นวภัทร์ ก็ได้ยกมือขออนุญาตที่ประชุม พร้อมกับกล่าวว่า ในการเลือกพื้นที่ (เป้าหมาย) ในแผนงานนั้น เราได้คุยกันแล้ว เราเลือกเฉพาะพื้นที่ที่มีความพร้อม อย่างในกรณีของอำเภอเถิน เราก็เลือกมา 2 ตำบล ซึ่งพื้นที่เหล่านี้มีแนวโน้มว่าเราเข้าไปแล้วจะประสบความสำเร็จ เพราะ ใจเขามาแล้ว เราเพียงแต่ไปเสริมเติมเต็มให้เขานิดหน่อยเขาก็มากันแล้ว

      จากนั้น พี่นก ยุพิน ได้กล่าวว่า ความจริงในเรื่องของการขยายผลนั้นจะคุยให้ฟัง อย่างที่พวกเรา (บ้านดอนไชย) ไปช่วยขยายให้กลุ่มบ้านเหล่า (เถิน) เราแค่ไปคุยให้เขาฟัง ให้เขาเข้าใจ จากนั้นเขาไปดำเนินการตั้งกลุ่มกันเอง ดังนั้น งบประมาณที่เราตั้งมาตรงนี้ความจริงเหมือนตั้งขึ้นมาเป็นตุ๊กตาเฉยๆนะ กลุ่มที่เกิดขึ้นใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินก็ได้ (คุณกู้กิจ ช่วยเสริมว่า ไม่ต้องมีเงิน กลุ่มก็เดินไปได้)

       คุณปิยชัย กล่าวต่อในประเด็นนี้ว่า ผมเห็นด้วยกับที่พูดมานี้ อย่างผมไปลงเองก็ได้ ตำบลที่สนใจจะเปิดก็มี อาจใช้เงินส่วนตัวบ้างก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ประเด็น คือ ประธานต้องลงไปพูดเอง

       เมื่อประธานได้ยินเช่นนี้จึงถามกลับมาว่าถ้าผมไม่อยู่ล่ะจะทำอย่างไร?

       คุณปิยชัยจึงกล่าวตอบไปว่า เมื่อแรกตั้งกลุ่ม มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประธานต้องลงไปพูดเอง เพราะ บางอย่างเราพูดเองก็ไม่ได้

       ประธานก็ถามกลับมาด้วยประโยคเดิมอีกว่าแล้วถ้าผมไม่อยู่ล่ะ?

       คุณปิยชัย ตอบกลับมาว่า ถ้าอย่างนั้นก็คงจะยาก มันไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ มันไม่ต้องใช้เงินมากก็ได้

       หลังจากตอบโต้กันพอหอมปากหอมคอ ประธานจึงพูดต่อว่า นั่นไง นี่แหละที่ผมถึงบอกว่าต้องถ่ายทอด

       ยังไม่จบค่ะ คุณปิยชัยก็พูดกลับมาว่า มันไม่ต้องใช้เงินอะไรมาก เพียงแต่ผมไปลงเบิกทางให้ก่อน หรือทำอย่างที่ผมเคยเสนอก็ได้ คือ ตั้งทีมเฉพาะกิจลงไป

       ประธานจึงพูดกลับมาว่า นี่ผมจะพูดให้ฟัง ผมไม่ได้พูดเรื่องเงินเลยนะ แต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้คณะทำงานหรือคณะกรรมการได้รับการถ่ายทอดและสามารถนำไปถ่ายทอดต่อได้ครับ ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องเงินเลย ผมพูดถึงเรื่องแผนปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุผลตามตัวชี้วัด ผมบอกว่าเงิน 170,000 บาทเนี่ย ถ้าเราทำแผนให้ดี มีกระบวนการให้ชัด มันไม่ใช่แค่ 170,000 บาท มันมีอีกตั้งเยอะแยะ หลายช่องทาง แต่เราอยากเห็นแผนงานและกระบวนการ คือ ที่สุดแล้วมันก็ลงที่ผม ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ เพราะฉะนั้นเราจึงอยากเห็นแผนงานว่าเมื่อเราทำเรื่องนี้แล้วมันเกิดอะไร เช่น เกิดคน คนที่สามารถลงไปสร้างความเข้าใจและสามารถบริหารจัดการได้ ทุกวันนี้ที่เรามานั่งเถียงกัน บางคนยังไม่เข้าใจเลยว่าเราจะเอายังไง เงิน 30% จะเอายังไง 20% จะเอายังไง นี่คือ ความไไม่เข้าใจ ความไม่เป็นเอกภาพ

        ในประเด็นนี้ ประธานยังพูดไม่ทันจบ พี่นก ยุพิน ได้ยกมือขึ้น พร้อมกับกล่าวทันที (แม้ว่าประธานจะทักท้วงว่าเดี๋ยวก่อนแล้วก็ตาม) ว่า นกคิดว่าทุกกลุ่มเข้าใจ แต่ว่าศักยภาพ ความมั่นใจในการบริหารอาจไม่มี ที่เถินอยากจะทำตรงนี้เพราะเรามีต้นแบบ ที่นกมั่นใจว่าลงพื้นที่ได้เพราะ ให้ตัวเองมาศึกษาตรงต้นแบบที่ตัวเองมีอยู่ อันไหนที่ควรปรับปรุงก็กลับไปปรับปรุง อย่างกลุ่มป่าตันของพี่อุทัย เขามาดูที่เถินแล้วก็เอาไปปรับปรุงที่กลุ่มตัวเอง อย่างนกเองเมื่อครั้งที่ไปดูงานที่สมุทรปราการคราวที่แล้ว พอกลับมาเรามาตั้งร้านค้าสวัสดิการชุมชนได้เพราะอะไร ก็เพราะเราไปเห็นของเขามาแล้วเอามาทำ ถ้าเรามีต้นแบบตรงนี้แล้ว ต่อไปถ้าต้องการเติมเต็มก็มาดูงานที่นี่ได้ แล้วค่อยเอาไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง ควรจะสร้างธุรกิจอะไร เราไม่ได้ไปกำหนดให้เขาว่าจะต้องสร้างอย่างนี้ จะต้องทำอย่างนี้อย่างนี้ ชุมชนต้องเป็นผู้กำหนดเอง

        จากนั้น ประธานได้พยายามสรุป โดยกล่าวว่า สรุปแล้วแผนงานที่จะทำต่อไปใน 6 เดือนข้างหน้านี้จะทำกันเมื่อไหร่ ยังไง ระยะเวลาไหน

        ที่ประชุมเงียบไปสักครู่ ประธานจึงกล่าวต่อไปว่า ถ้าจะเอาที่เถิน เถินจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ครับ จะจัดระยะเวลาไหน ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ยังไง ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

        ยังคงเงียบค่ะ (หมายถึงที่ประชุมนะคะ) คุณกู้กิจ ในฐานะประธานองค์กรออมทรัพย์บ้านดอนไชย ตอบกลับไปว่า ภายในเดือนมีนาคมครับ วันที่ 1-31 มีนาคม ขอตั้งกว้างๆไว้ก่อนครับ

        ประธานถามต่อว่า แล้วพื้นที่อื่นๆล่ะครับ เอาเรื่องของการประชาสัมพันธ์ขยายผลในครับ

        อ.ธวัช ในฐานะประธานองค์กรออมทรัพย์ชุมชนบ้านแม่พริก ตอบว่า ภายในเดือนมีนาคมครับ

        จากนั้น ประธานก็ถามต่อไปอีกว่า มีแผนเดียวใช่ไหมครับ แผนที่จะทำใน 6 เดือนนี้มีแผนเดียวไช่ไหมครับ คือ เรื่องของการประชาสัมพันธ์ขยายผล

        ที่ประชุมเงียบอีกค่ะ อาจารย์พิมพ์จึงยกมือขึ้นพร้อมกับกล่าวขึ้นมาท่ามกลางความเงียบว่า ในระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคมนี้ พวกเราจะต้องไปร่วมเรียนรู้ที่จังหวัดตราดนะคะ แล้วก็ยังจะมีการประชุมเครือข่ายฯสัญจรที่เกาะคาด้วยนะคะ ประธานจึงกล่าวเสริมว่าเดือนมีนาคมเราต้องไปศึกษาดูงานด้วยนะครับ จะหมดเดือนแล้วนะครับ

        จากนั้น คุณอุทัย ได้ยกมือขึ้นขอแสดงความคิดเห็นว่า ผมคิดว่าการร่างแผนคงไม่ใช่แค่เรื่องประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียวนะครับ อย่างการเชื่อมประสาน อปท. ที่เรา (กลุ่มป่าตัน) กำลังจะไปหานายกฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ด้วยนะครับ

        ประธาน (ได้ที) เลยกล่าวเสริมขึ้นมาว่า ผมก็บอกแล้วว่าเวลาคิดแผนต้องคิดให้ครอบคลุม

        คุณอุทัยก็กล่าวต่อไปว่า อย่างเรื่องการเชื่อมประสาน แผนเมื่อกี้นี้ผมก็ว่าเป็นการเชื่อมประสานนะครับ เพราะ มีกลุ่มเป้าหมาย คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. อย่างกลุ่มของผม (ป่าตัน) ถ้าจะเชื่อมขอเวลา 2 เดือน คือ เดือนมีนาคม-เมษายน แต่เราจะทำให้หมดเลย ทั้ง การบริหารจัดการ การขยายผล และการเชื่อมประสาน คืออย่างนี้เราอาจจัดเป็นโซนใครโซนมันอย่างที่เสนอขึ้นมาก็ได้ครับ เพราะ เรามีสื่อบุคคลในแต่ละพื้นที่ที่มีคุณภาพอยู่แล้ว

        ขอค้างเอาไว้แค่นี้ก่อนนะคะ คนอ่านจะได้ลุ้นว่าจะคุยอะไรกันต่อไป

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 17801เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2006 21:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท