ครั้งที่แล้ว ป๊าคุยกันถึงเรื่อง คู่สัมพันธ์ รถยนต์
"ฉะนั้น"รถยนต์"จึงต้องคู่กับ"ถนน" สิ่งสองสิ่งมีความสัมพันธ์ที่แยกจากกันไม่ได้ในสถานะการณ์นำพา ในสถานะการณ์ใช้สอย "รถยนต์"ก็มีคู่ความสัมพันธ์กับผู้โดยสารคือผู้คนที่ใช้สอย ในสถานะการณ์จอดนิ่งในที่จอดรถคู่สัมพันธ์ก็เปลี่ยนไป"
ลูกๆ ป๊าได้เขียนไว้ตอนนี้คงเป็นแง่คิดพอหลวมๆให้ลูกๆได้ประดับไว้เพื่อตอบปัญหาหลายๆเรื่องที่เราไม่เข้าใจมัน
ป๊าคงได้บันทึกกันต่อไป........................................................................................รัก ป๊า
สวัสดีค่ะ เพราะเขาคู่กัน
เจ๊งมาก ค่ะ ป๊า
หนูจาเก็บ เอาไว้เปนหนึ้งในปรัชญา
ของคู่กันถึงต้องสัมพันธ์กัน ในเมื่อสัมพันธ์กันก็ต้องขัดแย้งกัน
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ James
การเรียนดีนะ ท่องเที่ยวหนะไม่เลวทีเดียวเมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว จบมาคงหางานได้ไม่ยาก
โชคดีนะจ๊ะ
ถนน กับ รถ
มีอะไรที่สัมพันธ์กัน
เหมือนความสัมพันธ์อะไรหลายๆ อย่างบนโลกนี้
อันนี้ลูกเข้าใจสิ่งที่ป๊าสื่อค่ะ
แต่ขอลองเสนออะไรบางอย่างในความสัมพันธ์ น่ะค่ะ
คนเรามีความสัมพันธ์กันในด้านต่าง ๆ มากมาย
ในความสัมพันธ์ที่บลูเห็นบ่อย ๆ มองเห็นว่ามันมีความราบรื่น
อย่างเช่นถ้าคนอื่นเห็นความสัมพันธ์ของ บลู กับ ป๊า
ก็จะมีคนบอกว่า พ่อ ลูก เข้าใจกัน สนิทกัน เป็นพ่อลูกที่น่าอิจฉา
ซึ่ง เรา ก็เข้าใจว่าเป็นแบบนั้น
แต่พอมองเข้าไปข้างใน
มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เรายังไม่เคยคุยกัน มีหลายอย่างที่ลูกพูดกับป๊าไม่ได้
มีหลายเรื่องที่เราปิดบังกัน
มีอะไรหลายอย่างที่อยู่ในใจของเรา แต่ไม่เคยพูดออกมาซักที
เพราะถ้าพูดออกมา อาจทำให้อีกฝ่ายผิดใจ ไม่สบายใจ เครียด หรือ อื่นๆ อีกมากมาย
มันก็เรียกความสัมพันธ์ที่เรามีได้ง่าย ๆ ว่า มันคือ "ความสัมพันธ์ของการสร้างภาพ"
อันนี้เป็นคำที่บลูใช้เรียกความสัมพันธ์นี้ ความหมายของมันคือ
ไม่ใช่ว่าเราไม่รัก และ ห่วงใย ฝ่ายตรงข้าม
แต่ทุกสิ่งที่เรากระทำต้องฝ่ายตรงข้าม เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง
เราไม่สามารถมีชีวิตที่เต็มที่กับอีกฝ่าย มันกลับกลายเป็นการที่เราต้องสร้างให้ความสัมพันธ์ยังคงอยู่และราบเรียบ
เราเคยคุยกันเรื่องนี้บ่อยมาก บลูยอมรับเลยว่า บลูจะจบลงด้วยการทำให้ป๊าสบายใจกับคำถามที่บลูถาม
สรุปว่า ที่บลูพูดมายาว ๆ ทั้งหมดนี้ ความหมายก็คือ
ลูก อยากพูดในสิ่งที่ลูกคิด และลูกก็พยายามทำมาเสมอ ทั้งทางตรงและอ้อม
หลายครั้งที่ป๊าโกรธ หงุดหงิด อารมณ์เสีย เครียด อื่น ๆ อีกมากมาย
หลายครั้งป๊าบอกว่าลูกไม่มีเหตุผล และไม่เข้าใจป๊า
แต่สิ่งที่ลูกคิดคือ เหตุผล คือสิ่งที่จำกัดให้เราอยู่ในโลกแคบ เหตุผลที่ให้เรามี"ความสัมพันธ์ของการสร้างภาพ"
บลูคิดว่า ป๊ามีเหตุผลเยอะมาก มากจนตัวเองไม่สามารถที่จะให้อะไรกับตัวเองได้
บลูเคยให้เหตุผลกับตัวเองครั้งนึง ให้กับตัวเองมาประมาณ สิบห้าปี ได้
เหตุผลที่บลูให้กับตัวเองคือ ฉันเป็นคนธรรมดา ไม่สวย หุ่นไม่ดี หน้าตาธรรมดา
ไม่จำเป็นต้องแต่งตัว แต่งไปก็ไม่สวย
สรุปคือ บลูไม่เคยแต่งตัวให้สวย และบลูก็เลยไม่เคยเลยที่จะเป็นคนสวย เพราะอะไร
ก็เพราะบลูให้เหตุผลที่ตัวเองจะไม่สวยได้ ที่นี้ก็เลยไม่เคยสวยสักที (ตอนนี้สวยแล้วน่ะค่ะ ^^)
บลูสังเกตุว่าคนเราพอหาเหตุผลอะไรที่มาตอบคำถามของตัวเองได้ว่าทำไมตัวเองที่ไม่ทำอย่างโน้น อย่างนี้
เวลาที่เหตุผลมา เวลานั้น คือเวลาที่เราหยุดตัวเองไว้กับที่
แล้วคุณป๊าละค่ะ หยุดตัวเองไว้กับที่กี่อย่างแล้ว
หยุดความสัมพันธ์ของป๊ากับ ลูก ๆ ไว้เยอะแค่ไหนแล้ว
ไม่อยากให้มันพัฒนาขึ้นหรือค่ะ แบบว่า Level Up อะไรประมาณนั้น
ไม่อยาก แต่ลูก ๆ อยากน่ะ
วันนี้มีแค่นี้ ตอนนี้ที่นี้ฝนตก อากาศเรื่มร้อนแล้ว
ไว้อีก ๕ เดือนเจอกันน่ะค่ะ
บะบาย
.
สวัสดีคะ
อ่านบันทึกนี้ของคุณสิทธิรักษ์แล้ว ต้องบอกเลยว่าทำให้ได้มองทั้งมุมมองของคุณพ่อ และมุมมองของคุณลูก ... เป็นมุมมองที่แตกต่าง ที่ทำให้ได้เข้าใจและมองทั้ง 2 ฝ่าย
ขอบคุณคะ
สวัสดีค่ะ
บันทึกนี้เป็นมากกว่าบันทึกนะคะ
พ่อลูกได้แลกเปลี่ยนกัน ชอบค่ะ
ขอบใจมากจ๊ะลูกบลู
มองอะไรเป็นสองด้าน ทำให้เรามีสติ บางครั้งภาพที่มองเห็นอาจไม่เป็นดั่งที่เราคิด
ความสัมพันธ์ พ่อ ลูก เป็นคู่สัมพันธ์ต่างจากคู่สัมพันธ์อื่นๆ มันไม่เพียงแต่ว่าเราจำเป็นต้องรักกันเป็นห่วงกัน ยังต้องหลีกเลี่ยงความไม่เข้าใจกัน ภาพลบอีกด้านต้องประคองกันไป เพื่อจุดประสงค์ที่ดีกว่า
เงื่อนไขที่เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แต่การสื่อสารที่สามารถเข้าถึงกัน ปรึกษาหารือกันสร้างความอบอุ่นกันก็ยังมีเครื่องไม้เครื่องมือมาทดแทนกัน
ต่างคนต่างมีหน้าที่ ต่างคนทำหน้าที่ที่ดีที่สุด ก็สามารถแก้ปัญหาบางด้านได้
เป็นห่วงเสมอ .........................................รัก
ป๊า
ท่าน ขจิต ฝอยทอง ผู้มาดมั่น
พูดยังกับว่า ตอนนี้มีแต่ลูกที่เป็นของคนอื่นซะงั้นหนะ...................อิอิ
คุณ มะปรางเปรี้ยว ที่ขยันขันแข็ง
ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยมเยียน
ปกติก็ได้คุยกับลูกทางโทรศัทพ์บ่อยแต่ด้านบันทึกสนทนาก็ไม่ได้บ่อยครับ
บางครั้งดีครับ ลูกจะได้ถ่ายทอดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถแสดงออกทางคำพูดได้
ขอบคุณมากๆครับ
ชอบจังเลย พลังอมตะของครอบครัว
ความใกล้ชิดผูกพัน ก่อกำเนิดความรักความห่วงใย
สิ่งเหล่านี้เสริมสร้างพลังยิ่งใหญ่ได้ ทั้ง รัก โกรธ หลง มันจะผสมปนเปกันไป สายใยจะกระเพื่อมอยู่ตลอดไม่หยุด เอาใจใส่เท่านั้นจะคงความรักยั่งยืน
ขอบคุณมากๆครับ
หวัดดีค่ะ
ความหลากหลายทำให้สังคมสวยงาม การทำความเข้าใจในเชื่อมโยงกันของสังคมทำให้ชีวิตสมดุล อ๊ะป่าวคะ ป๊าขา
สวัสดีป๋า สิทธิรักษ์
* เรียกพี่หมีไม่ได้แล้วสินะคะ เพราะท่านเล่าฮู ว้าว มีลูกโตทันใช้แล้ว
* น่าชื่นชม ความคิด น้องบลู มากค่ะ .. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น .. จริงๆ
* ของคู่กัน มีความแตกต่าง - - เกิด ความหลากหลาย - -
* แต่เมื่อเปิดหู เปิดตา เปิดใจ ... รับฟัง ยอมรับ เข้าใจ
* ความหลากหลาย ก็หล่อหลวม เป็นเอกภาพ
* ปูชอบประโยคนี้มากค่ะ Unity in Diversity
ขอบคุณค่ะป๋า สำหรับแง่คิดดีๆ
* แถวบ้านปู เรียกคุณพ่อ ว่าป๋า ค่ะ *
โผล่กันมาบันทึกนี้ เล่นเอาเกือบหลง
ขอบคุณมากครับที่มาฝากความรู้สึกกันไว้ คู่สัมพันธ์มีมากมายในโลกใบนี้ แต่ต้องจับคู่มันให้ดีนะครับ อย่าจับคู่ผิด ปัญหาจะเกิด เพราะมันจะตอบสนองกันไม่เป็นจริง
หวัดดีค่ะ
แวะตามมาขอบคุณที่แวะไปทักทาย และนำบันทึกเข้าไปรวมใน...รวมตะกอน เข้าไปอานดูแล้วนะค่ะ รวมพลคนบล็อคจริง ๆ เลยค่ะ...ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ตามพี่อ้อยมาทักทายป๋าอีก เป้นไงบ้างครับช่วงนี้
สวัสดีเจ้าค่ะ ป๊าสิทธิรักษ์
ตามครูเสียงเหน่อๆมาหาคุณป๊าบ้าง คิคิ คิดถึงเจ้าค่ะ น่ารักกันทั้งครอบครัวเลยนะเนี่ย คิคิ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ
เป็นกำลังใจให้ป๊า เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^
อ้อยควั้น มาช่องนี้เกือบข้ามไปแหนะ สบายดีนะครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน
ขจิต ฝอยทอง ท่าน ขจิต ผู้มาดมั่น ช่วงนี้ก็งั้นๆ พยายามอยู่นิ่งๆ พอเพียงคงจะรอดครับ...........อิอิ
โก๊ะจิจัง แซ่เฮ ^๐^! หลานที่น่ารักที่สุด ฟื้นตัวยัง ที่ถามอะไรไว้ลืมยัง ช่วยทวนคำถามใหม่ซิ ถ้ารู้จะได้แนะนำได้บ้าง
ให้กำลังใจเสมอ
+ สวัสดีค่ะ...
+ ตอนเป็นวัยรุ่น...เคยรู้สึกเหมือนน้องบลู..
+ ตอนนี้มีลูกเป็นของตัวเอง...เลยต้องตระหนักกับประเด็นนี้มาก
สวัสดีครับ คุณ แอมแปร์ ยินดีครับที่มาเยี่ยมเยียน
ขอบคุณมากครับ ตอนนี้มีบันทึกใหม่ๆ ครับ
อ่านแล้วมีความรู้สึก ถึง ความอบอุ่น ความเข้าใจ บนความเป็นตัวของตัวเอง
ขอบคุณมากคะ
สวัสดีค่ะ
แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนค่ะ...เลยได้ซึมซับรับรู้เรื่องราวดี ๆ ที่แสนอบอุ่นของคุณป๊าและคุณลูกค่ะ...ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่เสมือนไม่ลงตัว ทว่า ความงดงามแห่งความรักและผูกพันฝังรากหยั่งลึกลงในใจ ...เชื่อตลอดมาเสมอค่ะว่า ความรักเปลี่ยนลูกศรให้กลายเป็นดอกไม้ได้ค่ะ ประมาณว่า ฝ่ายหนึ่งส่งลูกศรมา อีกฝ่ายหนึ่งส่งดอกไม้กลับคืนให้ค่ะ ..ความรักจึงยิ่งใหญ่และมีพลังค่ะ หากรักนั้นเป็นรักที่ไม่เห็นแก่ตัว เป็นรักที่เต็มไปด้วยการให้...เป็นรักบริสุทธิ์ นั่นก็คือความรักของคุณพ่อคุณแม่ที่มีต่อลูกนั่นเองค่ะ
อยากบอกผู้ที่เป็นลูก ๆ ทุกคนว่า...พ่อแม่เป็นดั่งพระอรหันต์ของลูก...บุญคุณที่ท่านได้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามานั้นช่างยิ่งใหญ่...ทดแทนคุณอย่างไรก็ไม่หมด...
หากมีโอกาสดูแลท่านในวันนี้...ทำเสียเถิดนะ
กอดท่านให้เต็มอิ่ม ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้กอด...
ท่าน สิทธิรักษ์ แวะมาอ่านถนน และรถยนต์ที่มีความสัมพันธ์ ทำให้มีสติคิดว่า ทุกสิ่งนั้นจะต้องพึ่งพากันและกัน แม้ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นก็ตาม
สวัสดีค่ะ
* แวะมาอ่านบันทึกจากป๊าถึงลูกๆ ค่ะ
* ชอบบทสรุปค่ะ เป็นธรรมชาติดี
คู่สัมพันธ์ในโลกสวยงามใบนี้ยังมีคู่สัมพันธ์มากมาย ล้วนต้องพึ่งพาอาศัยกันและขัดแย้งกัน
* สุขกายสุขใจนะคะ
นำพี่งเรือเสือพึ่งป่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอาศัยซึ่งกันและกัน จึงจะสำเร็จได้ เช่นคนเราจะทำงานใหญ่ก็คงจะต้องขอแรงร่วมมืองานใหญ่นั้นถึงจะสำเร็จได้
แต่ในความร่วมมือนั้น บางตรั้งก็ไม่สำเร็จเพราะอาจมีการขัดแย้งกัน ความเห็นไม่ตรงกัน แต่อย่างไรก็ต้องร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นจะถ่วงกัน
สวัสดีค่ะ
* แวะมาอ่านบันทึกที่ป๊าเขียนถึงลูกๆ
* การถนุถนอมของคู่สัมพันธ์ย่อมทำให้สัมพันธ์ยืนนาน เข้าสำนวนรักยาวให้บั่นรักสั้นให้ต่อ
* สุขกายสุขใจนะคะ
ขอบคุณทุกๆท่านที่มาเยี่ยมเยียนด้วยครับ
วันเวลาเปลี่ยนไป การพัฒนาของลูกๆก็รุดหน้าไปครับ
ผมคงได้ลงบันทึกผลงานของลูกๆในโอกาสต่อไป
ขอบคุณมากครับ และระลึกถึงเสมอครับ
มาเยี่ยมค่ะ สบายดีนะคะ คิดถึงค่ะ