จากบันทึกที่ผ่านมามีกิจกรรม ส่งต่อ...สงกรานต์ ในครอบครัว และสังคมรอบข้าง ที่ได้บันทึกมาแลกเปลี่ยนไปแล่วนั้น บันทึกนี้ เป็นการกิจกรรมที่ต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันต่อมา ถึงวิถีชีวิตที่ได้ปฏิบัติส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ที่เอาวาระแห่งประเพณีสงกรานต์เป็นแรงจูงใจ
ก็อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า ในอดีตบรรพบุรุษของเราได้ดำรงวิถีชีวิต ตามแนวทางแห่งการพึ่งพาตนเอง อยู่กันอย่างธรรมชาติ - อยู่อย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่มาปัจจุบันวิถีชีวิตเหล่านั้นถูกกระแสที่เรียกว่าการพัฒนา-ความทันสมัยเข้ามาเบียดแทรก ประกอบกับการไม่ยึดมั่นในวิถีของบรรพบุรุษหรือว่าไม่รู้เท่าทันของกระแสของการพัฒนา ที่ไม่ส่งเสริมการพึ่งพาอาศัยกันแต่กลับวัดกันที่เงินตรา ใช้เงินเป็นตัวตั้งในการพัฒนา ทำให้ทิศทางหรือผลของการพัฒนาก็ออกมาอย่างที่เราๆ ท่านๆ ได้เห็นกันทุกวันนี้
เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งกระแสของการเปลี่ยนแปลง ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในสังคมไปจากเดิมไปมากหากเราย้อนกลับไปนึดถึงภาพของอดีต กับภาพในปัจจุบัน เราก็จะเห็นความแตกต่างของวิถีชีวิตจะเห็นมาก-น้อย แตกต่างกันไปอยู่ที่มุมมอง และประสบการณ์ชีวิตที่ยืนยาวต่างๆ กัน
ที่ร่ายมายืดยาวนี้ ก็เพียงแต่เกริ่นให้เข้ากับสิ่งที่จะบันทึกต่อไปนี้ เพราะช่วงนี้มีวันหยุดยาวหลายวัน ได้มีโอกาสทบทวนตนเอง และนำสิ่งดีๆ มาใช้ในชีวิตประจำวัน ลองมาดูส่วนหนึ่งที่ผมจะนำมาแลกเปลี่ยนผ่านบันทึกนี้ดูนะครับ ว่าผมได้นำอะะไรกลับมาใช้แล้วบ้าง
เป็นการนำเสียงเพลงบรรเลงมาเปิดเท่าที่โอกาสจะอำนวยนะครับ (ไม่ได้เป็นการนำเครื่องดนตรีพื้นเมืองมาเล่นเอง) เสียงดนตรีพื้นบ้านนั้นสามารถช่วยสร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดี ใครจะลองนำมาเปิดบ้างในบางเวลาและบางโอกาสก็จะพบว่าวิเศษมากเลยครับ
คงเป็นเหมือนกันในทุกภูมิภาคนะครับ อากาศจะร้อนมากในช่วงกลางวัน ในบ้านหากเป็นบ้านชั้นเดียวอากาศจะร้อนมา คนโบราณเขามักจะสร้างเพิงพักไว้ข้างๆ บ้าน ใต้ร่มไม้ เพื่อใช้เป็นที่อยู่ที่พักในช่วงตอนกลางวัน ผมก็ลองสร้างบ้าง อย่างกระท่อมที่เห็นในภาพนี้ ใช้เงินประมาณ 1,000 บาท เท่านั้นเอง เพราะวัสดุบางส่วนไม่ต้องซื้อ
ไม่ต้องเกรงกลัวเรื่องสารตะกั่ว หรือสารตกค้างใดๆ ผมนำหม้อแกงดินมาใช้ได้หลายปีแล้ว ปีนี้ขึ้นไปเชียงใหม่ เลยได้นำติดมาด้วย ใช้ได้ดีมากและหากใช้กับเตาถ่านก็จะยิ่งดี
หม้อแกงดินที่ซื้อมาใหม่แบบมีหูจับ
หม้อแกงดินถ่ายไว้เมื่อปีที่แล้วกับช้อนไม้ไผ่
ปีนี้เริ่มหันมาใช้หม้อน้ำดินเผาครับ หลังจากเคยใช้เมื่อตอนอยู่ที่บ้านตอนสมัยเป็นเด็กๆ แต่ก็มาสูญหายไปหมด เมื่อมีการนำตู้เย็นมาใช้ สมัยนี้หาดูได้ยากมาก แต่เมื่อลองนำมาใช้ดูแล้ว พบว่าใช้การได้ดีมากเลยครับ ผมตั้งไว้บนบ้าน ข้างบ้าน และหน้าบ้าน เราก็สามารถใช้กระบวยตักน้ำดื่มได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องเปิดตู้เย็นทุกครั้งเมื่อจะดื่มน้ำ
หม้อน้ำบนบ้าน
จุดที่จะตั้งหม้อน้ำที่กระท่อมข้างบ้าน ใช้ไม้ไผ่สานเป็นที่วาง(ฝีมือการสานของพ่อตา)
บริเวณหน้าบ้าน ทำฮ้านน้ำหม้อแบบง่ายๆ ครับ
ขันโตกนอกจากจะใช้เป็นที่วางอาหารแล้ว ยังสามารถใช้วางสิ่งของต่างๆ หรือจะใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งก็ได้
ขันโตกไม้สารพัดประโยชน์
เป็นส่วนหนึ่งของการนำภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนมาปรับใช้ครับ ใครจะว่าผมหัวโบราณก็ช่างเถอะ เพราะการนำสิ่งเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ก็เพราะว่ามันยังใช้ได้ดี เป็นของที่มีคุณค่า เมื่อก่อนไม่ทันได้คิดก็ไปตามกระแสของการเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อเวลาผ่านไปบางสิ่งที่เข้ามาใหม่ก็ใช่ว่าจะดีกว่าของเดิมเสมอไป สิ่งไหนดีเราก็ควรจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ถึงแม้เราจะต้านกระแสของการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เราก็คงหันหน้ามาช่วยกันเดินตามและรักษาวิถีชีวิต สิ่งที่ดีงาม หรือภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเราไว้ แต่ก็รับบางสิ่งที่เหมาะสมมาปรับใช้ใช่ว่าจะปฏิเสธไปเสียทุกอย่าง เพราะโลกทุกวันนี้เป็นโลกที่เราจะต้องรู้เท่าทันและมีความสามารถในการปรับตัวให้ได้อย่างเหมาะสม โดยยึดวิถีดั้งเดิมของเราเป็นหลัก
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ
-สวัสดีคับอ้ายสิงห์
-คงบ่อว่าหยังท่าจะบอกว่า..สวัสดีปี๋ใหม่เมืองคับ...
-มีโอกาสเข้ามาแล้วคับทั่น
-อย่าลืมติดต๋ามเน้อ...อรหันต์ ซัมเมอร์ ภาค 2
-และจะมี "ลองของ 2" และ "ดรีมทีม" ต่อไปครับ...............
น่าใช้ทั้งนั้นครับ เป็นธรรมชาติดี ปลอดภัยด้วย
รู้สึกว่าเราพวกเดียวกันค่ะ ของใช้เหล่านี้นอกจากจะสวยงาม หาง่าย และกลมกลืนกับชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการช่วยอุดหนุนผู้ทำงานหัตถกรรมและช่างพื้นบ้านให้ยังคงรักษาอาชีพเขาไว้ได้ ที่อยุธยามีชุมชนที่ปั้นหม้อดินขนาดต่างๆ ทำกันมาหลายรุ่น ที่บ้านก็ชอบใช้ของจากดินเผา และไม้ไผ่ค่ะ
บังตาห้องน้ำชั้นบนที่บ้านเป็นไม้ไผ่สานโดยลุงโชติ ใช้มาหลายปี เพิ่งจะผุ ป้านวลเลยเป็นผู้ซ่อม โดยเลาะซี่ไม้ไผ่ของเก่าออก ตัดไม้ไผ่ของบ้านเราเอง เหลาซี่ไม้ แล้วนำมาขัดเป็นบังตา ไม่ได้ใช้ตะปูซักตัว เห็นลุงโชติ และป้านวลทำอะไร โดยใช้ของในธรรมชาติที่มีอยู่และใช้ฝีมือของตน ทำให้ซึ้งถึงคำว่า พอเพียง และพึ่งตนเองได้ อย่างแท้จริงค่ะ
ขอบคุณนะคะที่ขยันนำเรื่องราวเช่นนี้มาแบ่งปัน
จากสูงสุดกลับคืนสู่ธรรมชาติ
- จากสิ่งของธรรมชาติรอบตัวสามารถนำมาประดิษฐ์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ น่าทึ่งค่ะ
- เราก้าวพร้อมไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกไกลเพียงใด..สุดท้ายแล้วก็ต้องกลับคืนสู่สามัญ
- ขอบคุณมากมายสำหรับคำแนะนำในการเขียน blog ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ
ชอบหม้อดินจังเลยค่ะ ตอนเด็กๆที่ข้างบ้านเขาตีหม้อขาย ชอบไปนั่งดูและขอลองทำด้วย แต่ตอนนี้เขาเลิกทำไปแล้ว ลูกๆเขาก็ไม่มีใครสานต่อ ... ส่วนที่บ้านพี่ก็ไม่ได้ใช้ อ่านบันทึกคุณสิงห์แล้วทำให้อยากใช้หม้อดินบ้าง...
เฮฮาศาสตร์ 4 ที่ภูเก็ต คุณสิงห์ป่าสักกับครอบครัวไปรึปล่าวค่ะ...?