ดรีมทีม ในมุมมองของอาสาสมัครอิสรชนคนหนึ่ง


ในเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวของเหล่านักล่าฝันตัวน้อย ๆ ซึ่งมีกลุ่มผู้ปกครองที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อที่บ้าวิชาการ หรือครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น บ้างก็ไม่อบอุ่น แต่หนังก็ไม่ถึงกับทำให้หม่นหมองเพื่อให้อารมณ์ของหนังไม่สะดุด เหล่าฮีโร่ตัวน้อยก็ต่างมีหัวใจที่แข็งแรงเปี่ยมความฝัน นี่ถือเป็นสังคมหนึ่งที่ถูกจำลองมาเพื่อต้องการสะท้อนถึงผู้ใหญ่ และเหล่าหนูๆทั้งหลายที่ได้มาชมตระหนักถึงว่าสังคมไทยเรานี้ควรหรือยังที่จะหันหน้ามาสามัคคีกัน ต้องรู้จักการอภัย การให้ การรู้จักหน้าที่ การให้ความสนับสนุน และความรักของพ่อและแม่ที่แตกต่างกันไป แต่สิงหนึ่งคือเป็นพลังของลูก แต่ไม่ใช่ความคาดหวังจนไปกดดันเขา แต่เป็นการผลักดันให้เขาได้ทำตามฝันโดยที่ไม่ต้องมองตรงที่ความแพ้หรือชนะ เพราะเด็กไม่ได้มองตรงนั้น แต่เขามองแค่ว่าเขาอยากจะแข่งและเขาคิดว่าเขาแข่งได้เท่านั้นเอง

               

                เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอาสาสมัครได้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง ดรีมทีม ได้กลับมาเล่าให้เราฟังว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังที่ทุกคนควรดูตามที่โฆษณาจริง ๆ เป็นหนังดีเรื่องหนึ่งที่สะท้อนพลังและความสำคัญของความเป็นเด็ก เป็นภาพยนต์แนวแฟมิลี่ คอมเมอดี้ ที่มีชวนให้ทุกฝ่ายมีความหวังร่วมกันในการแข่งขันชักเย่อ แต่ในระหว่างการเตรียมการแข่งนั้นมีเรื่องราวหลายอย่างที่สะท้อนภาพออกมาสู่สังคม เรื่องที่ผู้ใหญ่มองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่กลับเป็นเรื่องที่สำคัญและยิ่งใหญ่สำหรับเด็กเสมอ เช่น ตอนที่โค้ชให้สัญญาว่าจะไปส่งเป๊ะ ซึ่งครอบครัวของเป๊ะเป็นครอบครัวคุณแม่ยุคใหม่ไม่มีเวลาให้ลูก ไม่มีเวลามารับลูก แต่สิ่งที่ลูกหวังคือ อยากให้แม่มาดูแข่งชักเย่อ แต่สุดท้ายแม่ก็มาเป็นพลังให้ลูก แต่จุดหนึ่งที่เห็นคือ คำสัญญาที่ให้กับเด็กคุณมองว่าเล็กน้อยเดี๋ยวเด็กก็ลืมแต่ในเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นเลยว่า คำสัญญามีค่าและยิ่งใหญ่สำหรับเด็กเสมอ คือ โค้ชสัญญากลับเป๊ะว่าจะไปส่งทุกวันแต่มีเรื่องทำให้โค้ชไม่สามารถไปส่งเป๊ะได้ ทำให้เป๊ะนั่งคอยจนวินาทีสุดท้ายแม่มารับและเป๊ะเลยไม่พูดกับใครสักคน จนโค้ชได้กลับมาเป็นโค้ชดังเดิมและสัญญาว่าจะไปส่งทำให้เป๊ะกลับมาพูดเหมือนเดิม คือคำสัญญามีค่ากับเด็กมากอย่าสัญญาเพียงลมปากเพราะจะทำร้ายเด็กโดยที่คุณไม่ตั้งใจ

                นอกจากความสดใสน่ารักของเด็กในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ถ่ายทออดออกมาด้วยความเป็นธรรมชาติ ไม่มีการแต่งแต้มเติมสีแล้ว สิ่งหนึ่งที่ดูแล้วทำให้ยิ้มไม่ออกแต่กลายเป็นความซึ้ง น้ำตาคอเบ้า คือ ฉากของครอบครัวของ หัวแก้ว ที่เป็นผู้คิดจัดตั้งทีมแข่งขันชักเย่อ มีคุณพ่อยุคใหม่ที่ทำงานเป็นชีวิตจิตใจแต่ด้วยความที่อยากให้ลูกแข่งแรง จึงสนับสนุนละทำทุกวิธีเพื่อให้ลูกได้แข่งขัน แต่เมื่อทีมมีสิบ แต่ลงแข่งได้เพียงเก้า ทำให้ต้องมีการคัดออก ซึ่งลำพังหัวแก้วเป็นโรคหอบร่างกายไม่แข็งแรงแต่พ่อก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูกให้ได้ลงเล่น แต่ในขนาดที่ลูกมองเพียงว่าขอเป็นส่วนหนึ่งในทีมไม่ได้มองความสำคัญว่าตัวเองจะเป็นตัวจริงหรือเป็นตัวสำรอง  แต่เมื่อมาถึงตอนที่พ่อของหัวแก้วทะเลาะกับโค้ชจนโค้ชลาออก ทำให้หัวแก้วโกรธพ่อถึงขั้นให้พ่อไปขอโทษโค้ชและให้โค้ชกลับมาเป็นโค้ชเหมือนเดิม ซึ่งเป็นฉากที่ซึ้งมากที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูกแม้กระทั่งเยียบศักดิ์ศรีของตนเอง ยอมไปยกมือไหว้ขอโทษโค้ชเพื่อลูก เมื่อดูแล้ว เฮ้อ น้ำตาไหลเลยทีเดียว

ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่ารัก ที่ทุกคนบนโลกนี้ล้วนมีความฝัน ฝันที่ใครก็อยากให้เป็น ซึ่งในเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวของเหล่านักล่าฝันตัวน้อย ๆ ซึ่งมีกลุ่มผู้ปกครองที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อที่บ้าวิชาการ หรือครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น บ้างก็ไม่อบอุ่น แต่หนังก็ไม่ถึงกับทำให้หม่นหมองเพื่อให้อารมณ์ของหนังไม่สะดุด เหล่าฮีโร่ตัวน้อยก็ต่างมีหัวใจที่แข็งแรงเปี่ยมความฝัน  นี่ถือเป็นสังคมหนึ่งที่ถูกจำลองมาเพื่อต้องการสะท้อนถึงผู้ใหญ่ และเหล่าหนูๆทั้งหลายที่ได้มาชมตระหนักถึงว่าสังคมไทยเรานี้ควรหรือยังที่จะหันหน้ามาสามัคคีกัน ต้องรู้จักการอภัย การให้ การรู้จักหน้าที่ การให้ความสนับสนุน และความรักของพ่อและแม่ที่แตกต่างกันไป แต่สิงหนึ่งคือเป็นพลังของลูก แต่ไม่ใช่ความคาดหวังจนไปกดดันเขา แต่เป็นการผลักดันให้เขาได้ทำตามฝันโดยที่ไม่ต้องมองตรงที่ความแพ้หรือชนะ เพราะเด็กไม่ได้มองตรงนั้น แต่เขามองแค่ว่าเขาอยากจะแข่งและเขาคิดว่าเขาแข่งได้เท่านั้นเอง

หมายเลขบันทึก: 177172เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2008 22:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท