ท้ายที่สุด... หลังจากเจ้าแมม (หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "หยิบผิด") เข้ามาอยู่ในบ้านเรา ก็สามารถลดปัญหาเรื่องเหม็นขี้แมวในบริเวณบ้านได้อย่างเห็นผลชะงัด (ตัวชี้วัดที่ช่วยในการประเมินผล คือความรุนแรงของกลิ่นเริ่มลดลง และจางหายไปในที่สุด) แต่ภาระการตาม“ตักทอง" ก็ยังคงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนจากของแมวเป็นของเจ้าแมม และเปลี่ยนคนตักจากคุณพ่อบ้านเป็นพี่เม่ยค่ะ
ส่วนน้องยิ้มและน้องจิ้นก็สนุกค่ะ ได้วิ่งออกกำลังกายอีกต่างหาก แบ่งหน้าที่กันอาบน้ำ คลุกข้าวให้แมม นับว่าบรรลุวัตถุประสงค์ข้อ 2 ที่ว่า ให้รู้จักรับผิดชอบ ชีวิต อื่นบ้าง แต่เจ้าแมมเฝ้าบ้านยังไม่ได้ค่ะ เพราะได้ยินเสียงผิดปกติอะไรสักหน่อย ก็จะวิ่งหนีไปหลบอยู่ในซอกที่คิดว่าปลอดภัย แต่คิดว่าโตขึ้นอีกหน่อยคงจะทำได้ดีขึ้น...
เมื่องานสำเร็จแล้ว ก็ต้อง AAR กันหน่อยละค่ะ พี่เม่ยก็ถือโอกาสทำ AAR หลังจากทานข้าวเย็นร่วมกันเรียบร้อยแล้ว แล้วนำมาเรียบเรียงได้ดังนี้ค่ะ
ความคาดหวังเกินคาด
เราคิดว่าจะได้โล่ง สบายจมูก สูดอากาศบริสุทธิ์ได้ทุกๆวัน ได้เลี้ยงลูกสุนัข น่ารัก เพศผู้ พูดจารู้เรื่อง
- หยิบผิด แต่บังเอิญได้ของถูกใจ
เจ้าแมมเป็นสุนัขพันธุ์ทางค่ะ พี่เม่ยได้รับความรู้นี้จากจากข้อคิดเห็นของ อ.จันทวรรณ ในบันทึกที่ผ่านมาค่ะ เจ้าแมมน่ารักม๊าก มาก แถมฉลาดด้วยค่ะน้อยกว่าที่คาดไว้ไปนิ๊ดนึง
เจ้าแมมเตี้ยจังเลยค่ะ แถมเป็นเพศเมียด้วย พวกเรา (โดยเฉพาะพี่เม่ย) ยังต้องปฏิบัติภารกิจ “ตักทอง” อยู่ดีค่ะ เจ้าแมมยัง "พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ"ทำอะไรต่อไปหลังจากนี้
ร่วมใจกันเลี้ยงเจ้าแมมต่อไปค่ะ พาไปฉีดยา และสอนให้เฝ้า คอยเลี้ยงลูกเจ้าแมมดีกว่าค่ะ
แต่มีปัญหาเกิดขึ้นใหม่จนได้ค่ะ คือเจ้าแมมชอบกินดอกไม้มากกกก.. ไม่ว่าจะเป็นโป๊ยเซียน แววมยุรา คุณเธอเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้พี่เม่ยต้องหาวิธีแก้ปัญหาใหม่อีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ ปัญหามีไว้แก้ก็ต้องแก้กันต่อไป... ขอบคุณ KM ค่ะ
พูดถึงแมวแมวหมาหล่ะอดใจไม่ได้ ขอบอกพี่ว่าตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้บ้านศาเลี้ยงสัตว์ตลอด ไม่ว่าแมว สุนัข การเลี่ยงสัตว์สอนให้เรามีจิตใจที่ต่างจากคนไม่เลี้ยงเยอะเลย ยิ่งถ้าเป็นเด็กๆ แล้วเขาได้ผูกพันกับสิ่งมีชีวิตอื่นบ้างนอกจากคน เขาจะเป็นคนอ่อนโยนขึ้น มีจินตนาการสูง(เพราะคอยพูดและคิดว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงของเรามันคิดอะไร) ไปจนถึงการสอนให้เราอดทน(เพราะว่าจะสอนให้เขาเลิกกัดรองเท้า กัดต้นไม้ เราก็สูญเสียไปเยอะ) ฝึกให้เราทำใจไปในตัว สุดท้ายฝึกให้เรารู้จักสูญเสีย เพราะสักวันไม่ช้าหรือเร็วเขาต้องจากเราไป เช่นรถชน เป็นโรคตาย แก่ตาย โดยที่เราร้องไห้ให้กับเขาได้ราวกับเขาเป็นญาติสนิท เลี้ยงไปเถอะค่ะ แล้วจะรู้ว่าเขารักเรามากแค่ไหน