นานทีเดียวที่ผมไม่ได้เข้ามาบันทึกในบล็อกเกี่ยวกับ Islamic Education ก็ขอบันทึกต่อจากตอนที่แล้ว
มาถึงบันทึกนี้เราคงมาถึงจุดที่จะตอบคำถามว่า ทำอย่างไรที่จะสร้างIslamic Education ขึ้นมา
เราคงต้องเริ่มต้นจาก "อิกเราะ" ดั่งที่ได้สาธยายต่อเนื่องมา ๑๓ ตอนและผมขอเสนอข้อคิดเห็นเพิ่มเติมดังนี้ครับ
ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน
ศาสนาอิสลาม หากใครได้ศึกษาด้วยความมุ่งมั่นใคร่รู้ จะได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่เกินความสามารถ เกินสติปัญญาของมนุษย์
โลกตื่นตะลึงกับการ "โคลนนิ่ง" ยกย่องมนุษย์ผู้ค้นพบว่า เก่ง สุดยอด แต่ ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถสร้างมนุษย์ สร้างอสุจิ สร้างไข่ สร้างมดลูก ได้เลย อย่างมากก็ เด็กหลอดแก้ว แต่ก็ต้องอาศัย สเปิร์ม และไข่ จากมนุษย์ มิสามารถสร้างเองได้
นักวิทยาศาสตร์ จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพิสูจน์ได้ โดยยึดหลักทฤษฎีต่างๆ ที่ถูกค้นพบมาก่อน แต่หลายทฤษฎีที่มีการโต้แย้ง และถูกเปลี่ยนเนื่องจากมีการค้นพบใหม่ ด้วยวิทยาการที่ใหม่กว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น Planet พลูโต ดาวเคราะห์ที่ถูกลดชั้นเป็นดาวแคระ และกำลังศึกษาเพื่อหาข้อสรุปถึงดาวบริวารของพลูโต
เห็นได้ชัดว่า ทุกสรรพสิ่งได้ถูกสร้างขึ้น หลายบบทบัญญัติของอิสลามได้ระบุไว้เป็นข้อห้าม แต่มนุษย์ ช่างสงสัยขัดแย้งต่อบทบัญญัตินั้น จึงละเมิดบทบัญญัติแห่งความจริง ด้วยเหตุผลขัดแย้งจากสติปัญญาของมนุษย์ผู้นั้น แต่ ณ ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบความจริงหลายประเด็นที่สอดคล้องกับบทบัญญัติอิสลาม เช่น วงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบเหตุผลในการ ใช้น้ำดินล้างแผลสุนัขกัด หากศึกษาเพิ่มเติม จะทราบถึงเหตุผล ของข้อห้ามเกี่ยวกับสุนัข หรือ เรื่องการขลิบ ตามหลักศาสนาอิสลาม ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลกด้วยเหตุผลที่เกี่ยวกับความสะอาดและโรคต่างๆ ครอบครัวสมัยใหม่ที่มีความรู้ จะขลิบ ให้ลูกชายทุกคนของครอบครัว ทั้งที่มิได้นับถืออิสลาม
อิสลามพิสูจน์ได้ ในหลักสัจธรรมอันเที่ยงแท้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ มนุษย์ผู้ใดจะเป็นผู้ค้นพบคำตอบ
เรื่องของศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบใจผู้นับถือ ผู้ที่อารมณ์อ่อนไหวไม่หนักแน่น ย่อมคุยกันไม่ได้ รังแต่จะบาดหมางกันเปล่า ยังไงก็ ไทยด้วยกัน รักกันไว้เถิด...
u-morisawa
สวัสดีค่ะ...อ.อาลัม