1-4-51
วันนี้สามีดิฉันถามเรื่องกุญแจรถที่คุณเธอทำหายและเราต้องไปให้บริษัททำให้ใหม่ คุณเธอต้องการให้ดิฉันโทรไปถามข้อมูลว่าต้องขับรถไปด้วยหรือไม่
เธอหมั่นถามดิฉันว่าโทรหรือยังจนทำให้ดิฉันโกรธในใจ แต่เนื่องจากการดูจิตบ่อยๆทำให้ทันอารมณ์และไม่ได้แสดงออก ( ด้วยคำพูดแต่ใบหน้าคงหงิกไปแล้วค่ะ )
ดิฉันแอบว่าในใจว่าทำไมเธอช่างมายุ่งกับชีวิตฉันจริงๆ เดี๋ยวฉันโทรก็ได้ ทำไมต้องมาคาดหวังว่าดิฉันจะต้องโทรเลย
เนื่องจากหลวงพ่อให้ถือศีล 5 ทำให้ดิฉันต้องพูดจาให้ดีพร้อมกับทำใบหน้าเฉยๆและข่มใจไม่ให้พูดอะไรออกมาที่ไม่น่าฟัง
ดิฉันดูจิตตัวเองเห็นจิตที่โกรธ แต่ก็รีบโทรหาบริษัทพร้อมแจ้งสามีที่รัก
เมื่อดูจิตเห็นความโกรธ ความโกรธก้หายไปได้
ดีเหมือนกันค่ะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดศึกในบ้านเพราะการที่คนเรามักอยากให้คนอื่นคิดและทำเหมือนตัวเองโดยหลงไป ไม่ดูกายใจตัวเอง
เล่าให้ฟังเพื่อเป็น Tacit ป้องกันคนสูงอายุที่ต้องอยู่ด้วยกันอีกนานแสนนานเพื่อเตรียมกายใจไว้ก่อนค่ะ
เคย อ่านบันทึก ของอจ. ประพนธ์ที่เขียนเรื่องของคนใกล้ตัวที่อดโกรธไม่ได้ทำให้หายโกรธสามีไปแยะ
เพราะบางครั้งดิฉันไปว่าเขาว่าทำไมไม่ทำแบบนี้ทำให้เขากลับย้อนว่าสอนตัวเองหรือยังจ๊ะ ทำไมมาบังคับให้พี่ทำเหมือนดิฉัน ดิฉันได้สติต้องเงียบสนิทเพราะเผลอไป
จิตดิฉันส่งออกนอกอีกแล้วเรา แทนที่จะดูจิตตัวเอง
เฮ้อ
จิตดิฉันส่งออกนอกอีกแล้วเรา แทนที่จะดูจิตตัวเอง
ประโยคนี้ แสดงว่า คุณแม่เข้าใจถึงแนวทางหลวงพ่อแล้ว สาธุ ๆ ๆ