ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นายปรีดา ประดับศรี
ปีที่รายงาน 2550
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่องการพัฒนาแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถม ศึกษาปีที่ 5และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนใน ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนบ้านกระทุ่ม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1 จำนวน 66 คน จำแนกออกเป็น 2 กลุ่ม โดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ประกอบด้วย กลุ่มทดลอง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 33 คน กลุ่มควบคุม เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 33 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 สาระ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา จำนวน 20 ข้อ เป็นชนิด 4 ตัวเลือก และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1 ชุด มีข้อคำถาม 10 ข้อ
สถิติที่ใช้มีค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติค่า t – test (Dependent Samples) ผลการศึกษาปรากฏดังนี้ 1) แบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 95.22/93.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2) ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.70 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 3) นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (รายวิชาสุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ไม่อยากบอกลุงอุ่นเลยนะคะ
ว่าตอนเป็นเด็กเกลียดวิชาพลศึกษาที่สุดเลย
สืบเนื่องมาจนเป็นนิสัยจนถึงทุกวันนี้...
เฮ่อ!!กว่าจะส่งได้แทบแย่..55++
ต่อไปก้อลุ้นระทึก..อิอิ