24 มีนาคม 2551 (ต่อ)
เป็นธรรมดาตามธรรมเนียมของการจัดอบรมที่จะมีกิจกรรมในรูปแบบกลุ่ม ที่หลังจากมีการรายงานตัวด้วยการลงทะเบียนประจำวันแล้ว ผู้จัดจะต้องมีกิจกรรมละลายพฤติกรรมของสมาชิกที่มาร่วมกิจกรรมในช่วงต้นของวัน
บรรยากาศเช้านี้จึงเริ่มขึ้นด้วยการที่ทุกคนถูกสะกดด้วยคำถามที่เกิดในใจเมื่อเข้ามาเห็นห้องที่เตรียมไว้ใช้อบรมว่า เขาจะอบรมเรายังไงนะนี่ บรรยากาศไม่ใช่ห้องอบรมเลยนี่ วางหมอนไว้เยอะแยะ หมอนมีไว้นอน อบรมยังไงจึงต้องมีหมอนเต็มไปหมด
ต่อด้วยการให้ทุกคนหลับตาอยู่กับตัวเองอยู่เป็นครู่ แล้วจึงให้แต่ละคนค้นหาตัวเองด้วยการถามความตั้งใจที่มา แล้วเขียนความคิดที่ค้นพบลงบนกระดาษสีสันต่างๆที่วางไว้ คนละ 3 ข้อ เสร็จแล้วให้นำไปติดไว้ที่ฝาผนัง แล้วก็ให้ทุกคนนั่งล้อมวงนั่งชิดกัน เข่าชนกัน แนะนำตัวโดยใช้ชื่อเล่น พร้อมกับแนะนำที่ทำงาน
ครบรอบแล้ว ก็ให้โจทย์ต่อว่า ให้เลือกความคาดหวังที่ชอบจากฝาผนัง บันทึกลงในสมุดของตัวเอง แล้วกลับมานั่งล้อมวงใหม่ เริ่มให้ฝึกเล่าทีละคน ด้วยประโยคเดียวว่า เลือกข้อใดมา พร้อมกับให้อธิบายความคิดเพิ่มเติม
กระดาษความคิด บอกความตั้งใจที่มา......
หลังจากนั้นก็ให้ฝึกเกมกระจก โดยให้วาดภาพเล่าเรื่องราวชีวิตแต่วัยเยาว์ตั้งแต่เรียนประถมจวบจนจบปริญญาตรีที่ตนเองประทับใจ 1 ภาพ แล้วก็ให้หาคู่ ผลัดกันเล่าเรื่องในภาพให้ฟัง ต่อด้วยให้กลับมานั่งล้อมวงใหม่ แล้วให้คนที่ได้ฟัง เล่าเรื่องที่ได้ฟังตามแต่ใจอาสา โดยให้เล่าเรื่องที่ได้ฟังพร้อมกับการสรุปบอกว่า ประทับใจมุมใดของเรื่องที่ได้ฟัง
บรรยากาศตอนที่เริ่มต้นรอบแรก จะมีคนอาสาไม่กี่คน เมื่อเริ่มวนรอบที่ 2 จึงเริ่มมีคนอาสาเล่ามากขึ้น ระหว่างที่มีการเล่า ส่วนใหญ่จะพากันจดจ่อฟัง จะไม่ใคร่มีใครจดสักเท่าไร ฉันเองก็แทบไม่ได้จด จดจ่อฟังมากกว่าเพราะตอนฟังรู้สึกดีมากๆ มารู้ว่า ฟังแล้วเก็บไว้ในสมองน้อยมาก ก็ตอนที่จะลงมือจดเพื่อไว้ใช้ต่อ รู้สึกว่าตอนที่ฟังไปมีหลายเรื่องที่จำคำพูดไว้ แล้วจะเอามาจด แต่พอจะจดกลับลืม
หลังจากนั้น วิทยากรก็ให้แต่ละคนหาของที่อยากมอบให้คู่เล่าของตนมามอบให้กัน ชวนให้ถ่ายรูปหมู่พร้อมภาพที่วาด แล้วจึงให้พักกินอาหารกลางวันก่อนกลับเข้ามาทำกิจกรรมภาคบ่ายต่อ
กลับเข้าห้องภาคบ่าย ก็พบว่าหมอนทุกใบ ถูกวางเรียงรายไว้ 2 ข้างตามแนวฝาห้อง เตรียมไว้เหมือนจะให้นอน แล้วก็ได้นอนจริงๆแต่ไม่ถึงกับหลับ นอนแล้วก็มีกิจกรรมคล้ายการสันทนาการ ซึ่งลงเอยด้วยการที่ทุกคนถูกแบ่งเป็นสมาชิกกลุ่มย่อย แต่ละกลุ่มจะมีสมาชิก 4 -5 คน
กิจกรรมกลุ่มที่มอบให้ คือ ให้แต่ละคนอ่านแผ่นชาร์ทที่มอบให้ เป็นแผ่นชาร์ทที่บอกถึงลักษณะผู้นำ 4 ทิศ ที่ใช้สัตว์ 4 จำพวกเป็นตัวแทน มี หมี หนู เหยี่ยว กระทิง แล้วให้เลือกทิศที่คล้ายตัวตนของตัวเองมากที่สุด เลือกแล้วให้อธิบายลักษณะตัวเองให้เพื่อนในกลุ่มฟัง แล้วก็พัก
แบ่งกลุ่มใหม่อีกครั้งเมื่อเข้ามา ครานี้ วิทยากรให้งานกลุ่มทำงานร่วมกัน เรียกว่า import ทอร์นาโด โจทย์ คือ ให้ใช้อุปกรณ์สำนักงานที่เตรียมไว้ให้ ช่วยกันสร้างหอคอยที่สูงที่สุดที่ทำได้ ในเวลาที่กำหนด หลังจากนั้นก็ทำ AAR กันว่า เรียนรู้อะไรจากการร่วมกันสร้างหอคอย ฟังหลายคนพูด สัมผัสเลยว่าหลายเรื่องที่คาใจก่อนมานั้น เริ่มคลายลง หลายคนยังงงๆว่า วันนี้ทำไมวิทยากรไม่ได้สอนอะไร
แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เพื่อรออาหารเย็น และระหว่างอาหารเย็น ก็มีการเรียนรู้แลกเปลี่ยนกันมากขึ้นในหัวข้อที่แต่ละคนสนใจ ฉันไม่แน่ใจว่าบรรยากาศ world café ที่อาจารย์หมอสกล เคยเล่าไว้ใน G2K นั้นจะเป็นอย่างบรรยากาศที่ฉันสัมผัสในค่ำคืนนี้หรือไม่
สังเกตว่า คนที่เนื้อหอมที่สุดของวันนี้ มีคนรายล้อมมากที่สุด คือ น้องวิน ลักษณะของน้องที่ได้สัมผัสกันวันนี้ คือ เป็นคนเปิดเผย เปิดใจ ใช้คำพูดที่โดนใจใครหลายคน มีประสบการณ์การทำ KM ในองค์กรมาก่อนราว 6 เดือน พร้อมสำหรับการแลกเปลี่ยนและให้ อีกคน คือ พี่ติ๋ม ผู้ซึ่งมีลักษณะเปี่ยมล้นของความใจกว้าง เป็นมิตร เปี่ยมอารมณ์ขัน และหลายคำพูดของพี่เกาถูกที่คันในอารมณ์ของคนหลายคนเช่นกันกระมัง
น้องวิน สาวน้อยจากเซ็นทรัลพัฒนา
พี่ติ๋มสวยจากทีม ม.วลัยลักษณ์
หมายเหตุ
ปิดไฟล์แล้วแวะมาเปิดใหม่ ปรากฏว่ามีข้อความหายไป สงสัยจะตก frame เลยขอยกเรื่องราวช่วงท้ายทั้งหมดไปบันทึกในหน้าใหม่ บันทึกจึงอาจจะไม่ได้อารมณ์เดิม ข้อความเดิมเพราะเขียนใหม่
หวัดดีครับ
บันทึกได้ยอดเยี่ยมครับ คุณหมอ
ขออนุญาตใช้ Blog ของคุณหมอ สำหรับเล่าให้ทีมแกนนำคนอื่น ๆ ในโรงไฟฟ้าแม่เมาะฟัง เพราะผมจดไว้บางส่วนตก ๆ หล่น ๆ บางส่วนลืมถ่ายรูปประกอบ แถมไฟล์ที่ สคส. write ใส่แผ่นให้ตอนวันสุดท้าย ปรากฎว่าของผมได้แผ่นที่ยังไม่ได้ Write ด้วย อิอิ