30-3-51
วันนี้ดิฉันเพิ่งกลับจากสวนสันติธรรมที่ศรีราชาค่ะ
ดิฉันนัดหมอที่เป็นเพื่อนเก่าที่เรียนแพทย์ด้วยกัน เป้นคนเรียนเก่งมากระดับที่สองของชั้นและช่วยติวดิฉันหลายครั้ง
บางวิชาคนอื่นสอบตกเช่นPhysical chem แต่ดิฉันสอบผ่านทั้งๆที่มีคนเก่งอื่นๆสอบตกก็เนื่องจากการติวของเพื่อนคนนี้
ดิฉันเรียนอยู่หมู่หนึ่งชั้นเดียวกับหมอศิริพรที่เป็นรองปลัดสธ.
คุณหมอที่เป็นเพื่อนคนนี้อ่านหนังสือ ฟังเทปของหลวงพ่อปราโมทย์ทำให้สนใจ
เพื่อนดิฉันหลายคนก็สนใจคำสอนของท่านเช่น หมอนงพงา หมอสุวิภา หมอพิเชษฐ์ ผอ. อยุทธยา
เมื่อเดือนที่แล้วดิฉันชวนคุณสุนันทาและหนูอ้อมมาด้วยค่ะ
เดือนนี้ดิฉันมาอยู่วัดเพราะสัญญากับลูกชายไว้
เราเจอกันที่สวนเสือ เมื่อฟังหลวงพ่อสอน เพื่อนและดิฉันมีโอกาสคุยกับพระป๋อง
เพื่อนดิฉันกลัวเวลาตายเพราะทราบว่าทรมารมากโดยฟังจากอาจารย์ที่เคยสอนคนธรรมะแต่ก็ทรมารจากโรคมะเร็งมาก
ดิฉันบอกเพื่อนว่าไม่ค่อยกลัวเพราะดิฉันเตรียมเงิน ทรัพย์สินและหลักฐานที่สำคัญเอาไว้แล้ว
ดิฉันเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมทำให้มั่นใจว่าเราไม่ตกนรกแน่ ถ้าเจ็บปวดก็จะสั่งหมอให้ฉีดยาให้
พระป๋องบอกว่าแม่คงมั่นใจว่าตายแล้วเราจะไปดีเลยไม่กลัว
เพื่อนดิฉันถามดิฉันว่าเธอหมดอำนาจแล้วรู้สึกอย่างไร
ดิฉันตอบว่าเฉยๆเพราะเตรียมใจหมดตั้งแต่ยังไม่หมดอำนาจ
อยากให้คนไหว้เราด้วยความดีของเราที่ทำให้องค์กรมากกว่า
หลวงพ่อสอนเสมอสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันเหมาะกับเราแล้วไม่ต้องไปโทษใคร
อยากดีก็ต้องหมั่นทำดี อยากรวยก็หาเงินสุจริต อยากให้ลูกน้องรักก็ต้องรักลูกน้อง
ดิฉันถามเพื่อนเคยทุกข์ไหม?
เพื่อนตอบเคยและเล่าเรื่องที่ดิฉันไม่เคยทราบมาก่อนทำให้ดิฉันประหลาดใจและมองว่าแต่ละคนก็มีความทุกข์ไปคนละอย่างจริงๆ
ดิฉันไม่เคยอิจฉาเพื่อนที่เรียนเก่งกว่าเพราะดิฉันขยันเต็มที่ก็สอบได้แค่นี้(อายค่ะ ไม่บอกดีกว่า )
พระป๋องปลอบและเพื่อนดิฉันถูกใจมากและว่าพระป๋องเข้าใจเพื่อนดิฉัน
มาครั้งนี้ดิฉันไม่กลัวผีเลยค่ะ
ง่วงนอน เพราะกินยาแก้เวียนศรีษะ
กายดิฉันแสดงไตรลักษณ์ก่อนไปวัด 1วัน เพราะวิงเวียนศรีษะมาก
ดิฉันไม่อยากบอกสามี คิดว่ากินยาแล้วก็ดีขึ้น ตั้งใจไปต้องไปให้ได้ไม่ท้อแท้และเปลี่ยนใจ
วันนี้ดิฉันรายงานการปฏิบัติธรรมว่าเห็นจิตหลงไปคิดบ่อยมาก
หลวงพ่อชมว่าเก่งและโยมทำถูกต้องแล้วทำให้ดีใจที่พระชม
คุณชัยณรงค์ถูกชมว่าจิตเริ่มตื่นและแนะนำว่าเป็นพ่อแม่พระที่มาปฏิบัติธรรม
ดิฉันไม่ได้รายงานหลวงพ่อว่าเห็นจิตตัวเองชอบหลงไปคิดวางแผน หงุดหงิดสามี หมั่นไส้เพื่อน
การตามกายตามใจนี่ดีจริงๆทำให้เห็นว่าเราเป็นนางมารร้ายเวลาเรามีกิเลศแทนที่ในอดีตคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าทั้งเก่งทั้งดี
ถ้าไม่สอนให้ดูจะไม่ค่อยเห็นตัวเองเพราะมัวแต่ไปดูคนอื่นค่ะ
เดือนนี้ดิฉันออกกำลังกายดีๆก็ปวดขา อยู่เฉยๆก็เวียนศรีษะ กายนี่บังคับไม่ได้จริงๆ
รู้ตัวเองมากขึ้นน่าจะสุขมากขึ้นค่ะ
รู้ตัวเองมากขึ้นน่าจะสุขมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณค่ะ
มีช่วงหนึ่งที่เคยพิจารณาดูจิตตัวเองอยู่เรื่อยๆ พบ "นางมารร้าย" บ่อยค่ะจนคล้ายๆจะรู้จักนางมารร้ายมากขึ้น เพราะเป็นเสมือนผู้ใกล้ชิดมาเยี่ยมเยียนอยู่เสมอ
ขออนุโมทนากับครอบครัวท่านผอ.ด้วยค่ะ
เรียนคุณหมอเจ้
ขอบคุณคุณหมอที่มาเยี่ยมค่ะ จะไปเยี่ยมที่blogนะคะ
คิดว่ารู้ตัวเองมากขึ้น แต่คงต้องศึกษากาย จิตของเรามากขึ้นในชีวิตประจำวันและโอกาสอำนวยค่ะ
ขอบคุณปิ่งที่มาลปรรค่ะ
ไม่เคยคิดว่าเราจะมีกิเลสมากค่ะ
การตามรู้จิตพบว่าสติเร็วขึ้นและสุขขึ้นจากการมีสติค่ะ