การปฏิรูปการศึกษา ในส่วนของการปฏิรูปการเรียนรู้ ครูผู้สอนจะต้องจัดกิจกรรม การเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ และพัฒนาผู้เรียนให้คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาได้ เพื่อจะได้เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แต่จากข้อเท็จจริงพบว่านักเรียนของไทยเรายังมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โดยเฉลี่ยต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ จากการเรียนการสอนในห้องเรียนของผู้วิจัยพัฒนา พบว่า 1.นักเรียนขาดทักษะในการคิดคำนวณ 2.นักเรียนไม่มีความสนใจและขาดความรับผิดชอบในการเรียน 3.นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนยังไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานที่ สมศ. กำหนด ผู้วิจัยพัฒนาจึงมีความสนใจพัฒนาแบบฝึกทักษะการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว โดยเริ่มปูพื้นฐานตั้งแต่ การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม การแยกตัวประกอบของพุนาม จนถึงการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้น
กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 21 คน เครื่องมือวิจัยพัฒนาเป็นแบบฝึกทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ จำนวน 7 ชุด
1. แบบฝึกทักษะการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว ที่ผู้วิจัยพัฒนาสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 93.14/92.69 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยข้อ 1.แสดงให้เห็นว่า แบบฝึกทักษะการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียวสามารถนำไปใช้ฝึกทักษะและพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เมื่อเปรียบเทียบโดยใช้ t-test แล้ว พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 แสดงว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียวมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของผู้วิจัยหลายท่าน
ไม่มีความเห็น