การบริโภคอาหารของเด็กไทยปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ผลการวิจัยของสำนักวิจัย ก็ได้เผยแพร่ข้อมุลออกมาก็หลายหน และตัวอย่างก็มีให้เห็นกันทั่วๆไป
ใกล้เวลาเลิกเรียนหลายๆโรงเรียน ก็จะมีพ่อค้า แม่ค้าที่ขายหาบเร่ หรือตั้งขาย ริมฟุตบาท หรือจักรยานยนต์สามล้อ หรือร้านขายของชำทั้ง อาหารทั่วไปที่มี ก็เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอกทอด ขนมกรุบกรอบ นำอัดลม น้ำหวาน ฯลฯ โดยทั่วไปมักจะเป็นแบบนี้ ปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนี่อยู่ แต่หลายที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหากเป็นโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
ตอนนี้ข้อมุลข่าวสาร ผลการวิจัย ก็ปรากฏออกมาแล้ว มันมีโทษมากกว่าประโยชน์ แต่การแก้ปัญหาก็ยังเป็นไปในทิศทางที่ช้า ไม่กระตือ รือร้น (ไม่ทราบว่าทำพี่ไทยช้าจัง)
ไม่ต้องไปเอาจะยกตัวอย่าง หลานตัวเอง และน้องตัวเอง(ลูกพี่ลูกน้อง)ให้ฟัง กินได้โดยที่ไม่มีเวลา กินได้ตลอดเวลา เปิดตู้เย็นมีอะไรกินเอาออกมานั่งหน้าจอโทรทัศน์แล้วก็กิน กิน กิน อยากกินตอนไหนก็กิน ตอนนี้หุ่นก็กลมเป็นหมูเลยครับ และทำเป็นนิสัยแล้วด้วย
ที่สำคัญบางทีเราไม่ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก ฉะนั้นบางที เราจะว่าให้เด็กก็ไม่ได้อีก
บางทีเด็กย้อนเรา เราตักหงายเลยนะครับ ตอบเด็กไม่ได้ กินไม่หยุด ไม่หย่อนยังไม่เพียงพอ เด็กบางกลุ่มฝึกนิสัยการมักง่ายไม่มีวินัย ตัวเองกินที่ไหน ทิ้งที่นั่น อีก
แบบนี้โตขึ้นจะเป็นคนไทยที่มีประสิทธิภาพในด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ค่อนข้างที่จะต่ำ
ตามเขาไม่ทันแน่ะ บางทีตอนนี้เราอาจจะตามประเทศเวียดนามอยู่ก็ได้นะครับ ผมไม่อยากให้คนไทยเราประมาทในการดำรงชีวิต
สวัสดีครับ อาจารย์สังเวียร
ขอบคุณมากครับที่เขียนมาคุยกันครับ ตอนนี้ต้องดูแลสุขภาพอยู่ครับ ข้อความของอาจารย์เขียนดีมากครับ ขอเป็นกำลังใจครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ทวิช
สวัสดีครับอาจารย์ทวิช
สวัสดีค่ะ สังเวียร
บางทีผู้ใหญ่ ก็ซื้อของพวกนี้ให้เด็กกินครับ ผู้ใหญ่ควรที่จะแนะนำของที่มีประโยชน์ บอกถึงอันตรายจากการได้กินอาหารพวกนี้ จะได้ปลูกฝังเด็กในการเลือกซื้ออาหารครับ
เดี๋ยวนี้นะเรื่องกินมันเรื่องใหญ่อาจารย์ กิน้าวกินปลา กินบ้านกินเมืองก็มีนะท่าน
สวัสดีครับ อาจารย์แก้วตา
สวัสดีครับ jumpzz
สวัสดีครับ พี่หนานเฉิน
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมชมค่ะ
ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่านค่ะ
สวัสดีครับ น้องอิ๋ว