มัทนา
มัทนา (พฤกษาพงษ์) เกษตระทัต

อีสเตอร์: ชีวิตใหม่


http://photos-582.ll.facebook.com/photos-ll-sf2p/v190/193/106/728270582/n728270582_683684_7462.jpg   http://photos-582.ll.facebook.com/photos-ll-sf2p/v190/193/106/728270582/n728270582_683686_8091.jpg

เคยบันทึกเรื่องวัดพุทธมาแล้ว...หลายวัด...หลายชาติ

วันนี้ขอบันทึกเรื่องวัดคาทอลิกบ้าง
เมื่อเช้าไปโบสถ์มาเนื่องในโอกาสวันอีสเตอร์

โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ที่ผู้เขียนเข้าพิธีแต่งงานเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว ชื่อโบสถ์ เซนท์ ออกัสติน

พิธีวันนี้้เริ้ม 11 โมงเช้า มีทั้งการร้องเพลง อ่านบทคำสอน เทศน์ แล้วที่พิเศษคือมีพิํธี baptize (รับศีลจุ่ม) เด็กน้อย ชื่อ ฟิโอน่า ทั้งผู้เขียนและสามีไม่เคยเห็นพิธี baptize เด็กทารกมาก่อน เลยตื่นตาตื่นใจที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆวันนี้

นอกจากประทัับใจรอยยิ้มบนใบหน้าคนเป็นแม่แล้วผู้เขียนยังประทับใจความเป็นชุมชนของคนในโบสถ์มาก ขั้นตอนสุดท้ายของการ baptize นั้น หลวงพ่ออุ้มน้องฟิโอน่าขึ้นมา แล้วก็ชูน้องขึ้นให้ทุกคนในโบสถ์เห็นแล้วตบมือต้อนรับน้องเข้าชุมชน (ใครเคยดู lion king ให้นึกภาพตอนลิงผู้เฒ่ายกซิมบ้าชูให้ผองประชาดูอยู่บนหน้าผา อารมณ์เดียวกันเลยค่ะ) ผู้เขียนยังแอบตบมือเสียงดัง แถมน้ำตาจะคลอตามแม่ของน้องเค้าอีกต่างหาก!

พอเสร็จพิํธี หลวงพ่อก็นำกิ่งใบต้นสนที่มัดเป็นกำ จุ่มน้ำในอ่างที่ใช้ baptize แล้วก็เดินให้น้ำมนต์

ช่างเป็นอารมณ์เดียวกับการพรมน้ำมนต์ของพระสงฆ์มากๆค่ะ

นอกจากนี้ยังมีการจุดเทียนอีสเตอร์แท่งใหญ่ (ดังรูปด้านล่างซ้าย) ผู้เขียนหันไปบอกสามีว่านี่มันขนาดเดียวกับเทียนเข้าพรรษาเลยนะเนี่ยะ

http://photos-582.ll.facebook.com/photos-ll-sf2p/v190/193/106/728270582/n728270582_683687_8397.jpg http://photos-582.ll.facebook.com/photos-ll-sf2p/v190/193/106/728270582/n728270582_683689_9009.jpg

นอกจากพิธีbaptize แล้ว สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจมากในวันนี้คือคำสอนของหลวงพ่อจอห์น ท่านอ่านไบเบิ้ลเล่าเรื่องวันที่พระเยซูฟื้นคืนชีพ (ที่มาของวันอีสเตอร์) ว่า

ลูกศิษย์ของพระเยซูไปดูที่หลุมศพของพระเยซูแล้วพบว่าไม่มีศพของท่านอยู่แล้ว ก็แปลกใจกันใหญ่ แต่เหล่าศิษย์ทั้งหลายก็กลับหมู่บ้านไป เหลือแต่แมรี่ แมกดาลีนที่ยังอยู่ข้างหลุมศพพระเยซู ร้องไห้คร่ำครวญเสียใจว่า ร่างของพระเยซูหายไปไหน  แล้วในที่สุดแมรี่ก็เห็นว่ามีคนห่มขาวยืนอยู่ข้างหลังถามว่า “ร้องไห้ทำไม หาใครอยู่” ตอนแรกแมรี่ไม่รู้ว่าเป็นพระเยซู แมรี่ตอบว่าถ้าท่านรู้ว่าร่างของพระเยซูอยู่ที่ไหนได้โปรดบอกด้วย ข้าจะได้ไปนำร่่างท่านกลับมา

พระเยซูตอบว่า “แมรี่”

ทันที่ที่แมรี่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเอง แมรี่ก็จำได้และหันไปพร้อมพูดว่า
“Rabboni!” [ภาษาฮีบรู แปลว่า “ท่านครู!”

--------------------------------------------------


หลวงพ่อจอนเทศน์ต่อว่า เทศกาลอีสเตอร์เป็นเทศกาลแห่งการเริ่มต้นใหม่

เมื่อเรามีเรื่องไม่สบายใจ พวกเราทุกคนจะทำตัวเหมือนแมรี่หัวปักหัวปำ ร้องไห้โหยหาเสียใจที่พระเยซูตาย ร่างของพระเยซูหาย นั่งอยู่ข้างโลงศพของท่านไม่ไปไหน
[หลวงพ่อใช้คำว่า you can hang around the tomb, cling to death] หรือ จะตัดสินใจว่า เราจะเริ่มใหม่ ตื่น ฟื้น ออกมากจากความทุกข์ความเศร้าหมองต่างๆเดี๋ยวนี้

หลวงพ่อบอกว่า ให้ถามตัวเองเหมือนที่พระเยซูถามแมรี่ว่า "ร้องไห้ทำไม"

แล้วก็ให้บอกตัวเองว่า "This too shall pass" แล้วมันก็จะผ่านไปเหมือนกับเรื่องอื่นๆนั่นแหละ

มีอะไรมากมายที่น่าทุกข์ น่าหดหู่ ไม่ว่าจะเป็นสงคราม หรือ ความเจ็บไข้ได้ป่วย แต่เราเลือกได้ที่จะไปกังวล”จม”กับความคิดที่เศร้าหมองพวกนั้นหรือจะเริ่มใหม่ 

มีชีวตใหม่ ตื่น! ไม่ยึดติดแม่กระทั้งความสูญเสีย หรือ ความตาย

--------------------------------------------------

ตอนที่ฟังอยู่ ผู้เขียนคิดในใจว่า นี่มันโคตะระพุทธเลย

แต่แล้วก็คิดต่อว่า ไม่หรอก… นี่แหละ how things are หรือ Truth ที่สะกดด้วยตัว T ใหญ่

นี่แหละ “ธรรม”

เมื่อเราปลอกเอาเปลือกของคำสอนทั้งพุทธธรรม หรือ คริสตธรรม

สิ่งที่เราจะได้เห็น คือตัว "ธรรม" นั่นเอง

--------------------------------------------------

 

 

หมายเลขบันทึก: 172716เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2008 15:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 15:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขออนุญาตเอาไปให้เพื่อน จอมขี้แย คนนึงอ่านนะครับ ท่อนนี้ เดี๋ยวใส่ชื่ออาจารย์ไว้

"เมื่อเรามีเรื่องไม่สบายใจ พวกเราทุกคนจะทำตัวเหมือนแมรี่หัวปักหัวปำ ร้องไห้โหยหาเสียใจที่พระเยซูตายอยู่ข้างโลงศพของท่าน หรือ จะตัดสินใจว่า เราจะเริ่มใหม่ ตื่นฟื้นออกมากจากความทุกข์ความเศร้าหมองต่างๆเดี๋ยวนี้ [หลวงพ่อใช้คำว่า you can hang around the tomb, cling to death]หลวงพ่อบอกว่า ให้ถามตัวเองเหมือนที่พระเยซูถามแมรี่ว่า "ร้องไห้ทำไม" แล้วก็ให้บอกตัวเองว่า "This too shall pass" แล้วมันก็จะผ่านไปเหมือนกับเรื่องอื่นๆนั่นแหละมีอะไรมากมายที่น่าทุกข์ น่าหดหู่ ไม่ว่าจะเป็นสงคราม หรือ ความเจ็บไข้ได้ป่วย แต่เราเลือกได้ที่จะไปกังวล”จม”กับความคิดที่เศร้าหมองพวกนั้นหรือจะเริ่มใหม่ มีชีวตใหม่ ตื่น! ไม่ยึดติดแม่กระทั้งความสูญเสีย หรือ ความตาย"

ขอบคุณครับ

  • ดีจังเลยครับอาจานย์มัท
  • อาจารย์เล่าแล้วเห้นภาพเรื่อง lion king อิอิๆๆ
  • ไม่ค่อยมีเวลาไปโบสถ์ฝรั่ง
  • คงต้องหาทางไป ไปแต่มัสยิด
  • ยัง งง ตัวเองอยู่เหมือนกัน
  • แต่เชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี
  • อ้าว ผมเป็นพุทธนี่น่า
  • อิอิๆๆ

คุณกวินทรากรค่ะ มัทแก้บันทึกนิดหน่อยนะคะ

ใส่ชื่อหลวงพ่อจอห์น (Father John Brioux, O.M.I.) ดีกว่าค่ะ มัทก็แค่นำมาเล่าต่อ : )

อ. ขจิต: ยังไม่เคยไปมัสยิดตอนมีพิธีเลยค่ะ เคยแต่พาเพื่อนไปละหมาด

มัทเชื่อว่า พระธรรม ของทุกศาสนาสอนในสิ่งที่น่าค้นหา แต่ว่าเปลือกของแต่ละศาสนานั้นอันตรายอยู่

มีคำคมที่มัทจำเค้ามาอีกที เค้าบอกว่า

"การที่จะทำให้คนเป็นคนดีนั้น จะให้คนคนนั้นนับถือศาสนาอะไรก็ได้ หรือไม่มีศาสนาก็ยังได้ แต่การที่จะทำให้คนดีทำในสิ่งที่ไม่ดีนั้น มักจะมีศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ"

"For good people to do bad things, it takes religion."

สิ่งที่สำคัญคือ อย่าคิดแต่ว่าทุกคนต้องเหมือนกัน อย่าคิดว่าของของเราถูกแต่เพียงผู้เดียว แล้วก็ให้ค้นหาตัว "ธรรม" จริงๆ ไม่ใช่เชื่อแต่เรื่องเล่า คำทำนาย หรือ กฎการให้รางวัลหรือลงโทษ  (ข้อนี้รวมไปถึงชาวพุทธด้วย)

ให้มีเมตตามากๆ หาทางเดินของตนเอง ให้หลุดพ้นในหนทางที่ต่างกัน (แน่นอนก็จะไป end up กันคนละที่ แต่ก็ไม่เห็นเป็นไร?)

ตอบยาวเลย เหมือนมัทตอบคำถามตัวเองมากกว่าตอบอ.ขจิตเนอะคะ : P

 

 

It's a touching observation. Yes, thanks for reminding that "this too shall pass". As a matter of fact, I used to have a magnetic small card on my computer at work for 18 years that say "This too shall pass". Couldn't find it now.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท