แต่ก่อนเมื่อเด็กๆ อ่อนวิชาไหน คุณพ่อคุณแม่ก็มักจะเคี่ยวเข็ญให้ลูกไปเรียนพิเศษเสริมซึ่งบางครั้งกลับทำให้เด็กรู้สึกกล้า หรือถ้ากวดขันมาก ๆ เข้าจะยิ่งรู้สึกต่อต้านวิชานั้นไปเลย
เอ...แล้วเราจะทำให้เด็กๆหันมาเรียนวิชาที่เขาไม่ถนัดอย่างสนุกสนานมากขึ้นได้อย่างไร
จากข้อสงสัยดังกล่าว ดร.ซายูซาน เอ็ม. แมคฮาเลน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนชิลเวเนียสเตท สหรัฐอเมริกา จึงเริ่มศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมเสริมและวิชาที่เด็กเรียนตามปกติในกล่มเด็กที่อยู่ในช่วงสิบขวบปีแรกและได้สรุปเป็นคำแนะนำว่าให้คุณพ่อคุณแม่ลองเสริมกิจกรรมสลับการฝึกทักษะ เช่น จากเดิมที่กิจกรรมที่เด็กผู้ชายเรียนเสริมก็มักจะเป็นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่เล่นเป็นทีม เด็กผู้หญิงก็เป็น ดนตรี ศิลปะ และการเต้นรำ ดร.ซูซานเสนอว่าให้ลองสลับเป็นกิจกรรมที่นุ่มนวล อย่างดนตรีหรือศิลปะกับเด็กผู้ชายและกิจกรรมที่เล่นเป็นทีมให้กับเด็กผู้หญิง
ผลที่ได้รับจากการวิจัยปรากฏว่า หลังจากเสริมกิจกรรมเสริมทักษะแล้ว เด็กผู้ชายมีคะแนนภาษาอังกฤษดีขึ้น ส่วนเด็กผู้หญิงคะแนนในวิชาคณิตก็สูงเช่นกัน นับเป็นการปรับสมดุลความถนัดเฉพาะวิชาที่เคยโน้มสเอียงไปตามเพศคือเด็กผู้ชายและสนใจกล่มวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ส่วนเด็กผู้หญิงจะสนใจด้านภาษา เปลี่ยนเป็นเสริมกิจกรรมตามแนวทางดังกล่าว เพื่อช่วยให้เด็ฏสามารถเรียนดีขึ้นในทั้งสองกลุ่มวิชา
ปัจจุบันลักษณะการจัดกิจกรรมเสริมในลักผาณะการสลับทักษะเช่นนี้ได้รับความสนใจและนำไปปรับใช้ในโรงเรียนชั้นประถมของสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง
แวะมาเยี่ยมครับ คุณครูเพิ่มพูน ... งานวิจัยนี้น่าสนใจนะ ลองนำไปใช้ไหมครับ :)
ขอบคุณที่เข้ามาติชมนะครับ..