ข้าพเจ้าได้หยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้มาจากพี่ที่ให้เป็นที่ระลึก
สำหรับข้าพเจ้ามันมีค่า มากมายเหลือเกิน สะท้อนปัญหาปัจจุบันได้มากมาย ความรักของพ่อแม่นั้น
ไม่มีอะไรมาเทียบได้ ถึงแม้จะรวยหรือจน ท่านว่าจริงไหม พ่อแม่ให้สิ่งดี ๆ กับลูกทุกคนไม่ว่าทุกข์
หรือสุขไม่มีข้อแม้ สมัยเราเรียนหนังสือพ่อแม่คอยเป็นห่วงว่าลูกจะกลับหรือยัง กลับถึงบ้านกี่โมง
ความรักความห่วงใยไม่ได้เสื่อมคลายไปตามกาลเวลา เมื่อเราเริ่มโตขึ้น เริ่มรู้สึกว่าเราไป
ไหนมาไหนได้ด้วยตนเองพอเลิกเรียนพ่อแม่ก็หวังว่าจะกลับถึงบ้านเลย เลิกเรียนสี่โมงเราก็ควรกลับถึง
บ้านสักสี่โมงครึ่ง แต่บางทีมีกิจกรรมที่โรงเรียนก็ทำให้กลับช้า ท่านก็มาซักถามใหญ่
ฝ่ายลูกไม่ได้คิดว่าท่านห่วงใยหรอก ลูกคิดว่าเราโตแล้วดูแลตนเองได้ ยังมาควบคุมบีบบังคับอีกอะไร
จะปานนั้น เห็นไหมว่าวิธีคิดของเราเบียดเบียนตัวเอง เราแปลเจตนาผิด ๆ เลยทำให้เราอึดอัด
ถ้าเรามีความเข้าใจเสียอย่างว่าพ่อแม่รักเรา อยากเห็นเราอยู่ในกรอบบ้างบ้างครั้ง ให้เราเปลี่ยน
วิธีคิดซะจะทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัด เห็นไหมว่าเราก็ทำได้ เป็นคนดีของพ่อแม่ได้
อย่าคิดว่าเดี๋ยวค่อยทำ เอาไว้ก่อน อย่าคิดอย่างนั้น ขอให้ทำสิ่งที่ดี ๆ ให้ท่านได้ภูมิใจเถอะคะ
สวัสดีคะ
แวะเข้ามาทักทายคะ
คุณแม่เคยพูดไว้จะทำอะไรให้แม่ก็รีบทำตอนที่มีลมหายใจ
คงไม่ต้องบรรยายนะคะว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
พ่อ แม่ รักลูกทุกคนขอยืนยันคะ
ขอบคุณคะที่เข้ามาอ่าน ความรักของคนเป็นพ่อแม่มันยิ่งใหญ่มาก ๆ จริงไหมค่ะ
ขอบคุณ คุณขจิต และคุณปลายฝนนะคะความรักของพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่เสมอค่ะ