อบต.พิษณุโลก

โครงการพัฒนาผู้นำและผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิษณุโลก

     

“โครงการพัฒนาผู้นำและผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 9

หลักสูตร เศรษฐกิจพอเพียงกับการเพิ่มประสิทธิผลขั้นสูงในการทำงานและการสร้างภาวะผู้นำ

กรณีศึกษา Covey’s 7 Habits workshop”

The 7 Habits of Highly Effective People: เจ็ดอุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง

วันที่ 17 – 19 มีนาคม 2551 ณ โรงแรมอมริมทร์ ลากูน จังหวัดพิษณุโลก

 

มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศร่วมกับ Chira Academy และ Pacrim Group จัด“โครงการพัฒนาผู้นำและผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 9 หลักสูตร เศรษฐกิจพอเพียงกับการเพิ่มประสิทธิผลขั้นสูงในการทำงานและการสร้างภาวะผู้นำกรณีศึกษา Covey’s 7 Habits workshop” The 7 Habits of Highly Effective People: เจ็ดอุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง วันที่ 17 – 19 มีนาคม 2551 ณ โรงแรมอมริมทร์ ลากูน จังหวัดพิษณุโลก

งานนี้ได้รับเกียรติจากคุณเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกกล่าวต้อนรับ

 

 

และคุณสันติ กรุสวนสมษัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานพิธีเปิด

 

 

 

ศ.ดร.จีระ  หงส์ลดารมภ์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ บรรยายเรื่อง การสร้างสังคมการเรียนรู้ทุนทางปัญญาอาวุธของ “คนไทย” ยุคโลกไร้พรมแดน  

 

 

 

 

ศ.ดร.มนตรี บุญเสนอ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำการทำกิจกรรม Team Building

อาจารย์อดิศัย มนะเวส Consultant จาก Pacrim Group บรรยายเรื่อง 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง

               

 รศ.ดร.ธันวา จิตต์สงวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บรรยายเรื่อง รู้จริงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง "เศรษฐกิจพอเพียงกับชุมชนและผลกระทบจากโลกาภิวัตน์"

 

 

 

 

ในตอนท้าย มีการเลือกคณะกรรมการรุ่นและมีผลการเลือกดังนี้

 

 

ภาพคณะกรรมการรุ่น 9(จากซ้าย)

1. นางจุฑามาศ ธิกะ                นายกเทศมนตรีตำบลฟากท่า            จังหวัดอุตรดิตถ์   (กรรมการรุ่น)

2. นายไพวัลย์  ไม้สนธิ์           นายกอบต.หนองยายดา                     จังหวัดอุทัยธานี   (กรรมการรุ่น)

3. นายกมล คงปิ่น                  นายกเทศมนตรีตำบลเชียงคาน      จังหวัดเลย           (ประธานรุ่น)

4.นายสมเกียรติ แสงสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก   จังหวัดพิษณุโลก (กรรมการรุ่น)

5.นายบุญช่วย พันธ์มณี          นายกอบต.ห้วยไร่                                จังหวัดแพร่          (กรรมการรุ่น)

6.นายสมศักดิ์ กลิ่นเจาะ         นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกร่าง        จังหวัดสุโขทัย      (กรรมการรุ่น)

 

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ บรรยายเรื่อง การสร้างสังคมการเรียนรู้ทุนทางปัญญาอาวุธของ “คนไทย” ยุคโลกไร้พรมแดน โดยมีสาระสำคัญคือ

•โครงการพัฒนาผู้นำและผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลักสูตร เศรษฐกิจพอเพียงกับการเพิ่มประสิทธิผลขั้นสูงในการทำงานและการสร้างภาวะผู้นำ กรณีศึกษา Covey’s 7 Habits workshopThe 7 Habits of Highly Effective People: เจ็ดอุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูงได้จัดมาแล้วทั้งหมด 8 รุ่น รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 9

•โครงการนี้มีวัตถุประสงค์

•เพื่อสร้างผู้นำท้องถิ่นยุคใหม่ให้มีวิสัยทัศน์มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน

•ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม

•สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาสู่การปฏิบัติและเผยแพร่

•เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้และส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

•หลักสูตรประกอบด้วย 4 เรื่องที่สำคัญ คือ

• การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

• การทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ

• การพัฒนาภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผลสูงโดยใช้หลักการพื้นฐานของ

7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง (7 Habits)

• รู้จริงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง

•ถ้าผู้นำใฝ่รู้ ก็จะเกิดองค์กรการเรียนรู้ขึ้น

•เราไม่ควรรอให้ใครมาให้อะไรเรา เราหาความรู้เองได้

•ความมั่งคั่งของชนบทและเมืองอยู่ที่สติปัญญาเรา

•ทฤษฎี 4 L’s เพื่อสร้างวัฒนธรรมในการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย

• L ที่ 1 คือ Learning Methodology

• L ที่ 2 คือ Learning Environment

• L ที่ 3 คือ Learning Opportunities

• L ที่ 4 คือ Learning Communities

•ทฤษฎีทุน 8 ประเภท (8 K’s)

• ทุนมนุษย์คือการลงทุนในตัวมนุษย์ให้เรียน

• ทุนทางปัญญาคือ การคิดเป็น วิเคราะห์เป็น

• เป็นผู้นำท้องถิ่นต้องมีคุณธรรม จริยธรรม

• ต้องมีความสุขในการทำงาน

• ผู้นำต้องมีเครือข่ายและพันธมิตร

• ผู้นำต้องมองไกล มีทุนแห่งความยั่งยืน

• มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

• เป็นคนเก่งในสังคม มีความรู้ ทัศนคติที่ดี และมีทักษะที่ดี

•ทฤษฎี 5 K’s ใหม่

• ผู้นำที่ดีต้องควบคุมอารมณ์ได้

• ผู้นำต้องมีความคิดสร้างสรรค์แล้วนำไปพัฒนาท้องถิ่น

• ทุกเช้าต้องใฝ่รู้ อ่านหนังสือพิมพ์ มีทุนทางความรู้

ผู้เข้าร่วมโครงการได้นำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากสังคมการเรียนรู้ ดังนี้

กลุ่ม 1

ยุคโลกาภิวัตน์ ผู้นำต้องต่อสู่โลกนอก และต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสนอก

กลุ่ม 2

จากวีดิโอ พวกเราเข้ามาแบบตั้งใจ ดร.จีระ พยายามจะให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียน ให้มีการคิดวิเคราะห์มากขึ้น

ศ.ดร.มนตรี บุญเสนอ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำการทำกิจกรรม Team Building โดยเน้นแนวคิดดังนี้

•5 กระแสในยุคปัจจุบัน

• Customer : ลูกค้า

• Competition : การแข่งขัน

• Change : การเปลี่ยนแปลง

• Cost : ต้นทุน

• Ethics: จริยธรรม คุณธรรม

•กระบวนทัศน์ใหม่ในการทำงาน

• การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

• รูปแบบการปรับปรุงไม่แน่นอนตายตัว

• ทุกคนมีส่วนร่วม / ทำงานเป็นทีม

•องค์ประกอบที่สำคัญ

• เน้นคุณภาพ

• เน้นลูกค้า/ผู้รับบริการ

• เน้นที่กระบวนการ

• ความมุ่งมั่น ร่วมมือ และความมีวินัยของทุกคน

•ปัจจัยที่สามารถทำให้สำเร็จ

• ปรับกระบวนทัศน์

• มีทัศนคติที่ดี

• ความเชื่อมั่นในแผนงานที่ได้ทำร่วมกัน และความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในองค์กรความมุ่งมั่นของทุกคนในองค์กร

• ไม่ยึดมั่นในรูปแบบ

•เกมสามเหลี่ยมพิศวง

• สร้างรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า 1รูปจากไม้จิ้มฟัน 3 อัน

• สร้างรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า 4 รูปจากไม้จิ้มฟัน 6 อัน

• สร้างรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าให้ได้มากที่สุดจากไม้จิ้มฟัน 12 อัน

• บทเรียน ปรับเปลี่ยนแนวคิดการทำงาน ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ต้องอาศัยความร่วมมือในทีม

•เกมร้อยใจเป็นหนึ่ง

• ต่อยางจากคนหัวแถวไปยังคนท้ายแถวและต่อกลับขึ้นมาจากคนท้ายแถวต่อเนื่องขึ้นมาเรื่อยจนถึงคนหัวแถว โดยไม่ใช้มือจับหลอดกาแฟ

• บทเรียน สะท้อนความร่วมมือร่วมใจกัน ต้องฟังคำสั่งชัดเจน แบ่งงานกันทำ มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความสามารถของแต่ละคนไม่เท่ากัน คนความสามารถน้อยต้องพัฒนาตน ส่วนคนความสามารถมาก ก็ต้องช่วยเหลือเออาทรผู้ด้อยกว่า ผู้นำต้องคอยบอกผู้ปฏิบัติให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางครั้งต้องดูแลเงื่อนไขเล็กๆน้อยๆให้ดี เพราะเป็นปัจจัยไปสู่ความสำเร็จ

•คนเก่ง

• ต้องวิเคราะห์เป็น ทำอย่างไรให้อปท.เข้าสู่ระดับมาตรฐาน

• รู้สภาพปัจจุบัน

• มีทักษะทางสังคม เข้าสังคมเป็น พูดจากับคนเป็น ถ้ารู้จักกัน ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น

• ใช้ทุกคนหลอมทำงานร่วมกัน

•คนเก่งคน ต้องยิ้มเป็น ขจัดนิสัยเสีย ใช้แนวคิดที่แตกต่างจากผู้อื่นมาพัฒนาต่อยอด

•คนเก่งงาน ต้องลงมือปฏิบัติและมีประสบการณ์

•การทำงานเป็นทีมต้องมี

• ความไว้เนื้อเชื่อใจ

• ความเห็นอกเห็นใจ

• ข้อตกลงร่วมกัน

• มีประโยชน์ร่วม

• ความเต็มใจ

• โอกาสที่เท่าเทียม

• การยอมรับ

• การถ่ายโอนความรู้

• การรวมพลัง

อาจารย์อดิศัย มนะเวส Consultant จาก Pacrim Group บรรยายเรื่อง 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูงและให้ผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกิจกรรมดังนี้

กิจกรรมที่ 1 อยากสร้างให้เกิดผลอะไรบ้างในชีวิตของท่าน ในการที่จะไปสู่ผลที่ต้องการ ต้องสร้างนิสัยอะไรบ้าง หรือเลิกนิสัยอะไรบ้าง

กลุ่ม 1 นำเสนอโดย นายระนอง สิงห์ฆะ นายกเทศมนตรีตำบลทองแสงขัน จังหวัดอุตรดิตถ์

• ในด้านครอบครัว ด้านงาน อยู่ดีมีสุข

• ในการที่จะไปสู่ผลที่ต้องการ ต้องมีคุณธรรม ใฝ่รู้

กลุ่ม 2 นำเสนอโดย นายเกรียงไกร กิจประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแก่ง จังหวัดอุตรดิตถ์

• ให้เกิดประสิทธิผลด้านงานและครอบครัว

• ด้านงาน เรามองทั้งสังคมเศรษฐกิจ สังคมเอื้ออาทร อยู่อย่างพอเพียง

• ใฝ่เรียนรู้เพื่อไปถึงผล

กลุ่ม 3 นำเสนอโดย นางจิราภรณ์ ผิวศิริ รองนายกอบต.นาซ่าว จังหวัดเลย

• อยากมีครอบครัวอบอุ่น

• ยอมรับความเห็นกันและกัน

• ต้องยอมรับฟังความเห็นกันและกัน มุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย

กลุ่ม 4 นำเสนอโดย สมควร เต็มลา นายกอบต.ศรีฐาน จังหวัดเลย

• มุ่งเน้นจัดการชีวิตและการงาน มองภาพรวมสร้างชุมชน พึ่งพากันและกัน สร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน

• มีจริยธรรม มีจิตสำนึกและทัศนคติที่ดี

กลุ่ม 5 นำเสนอโดย จ.ส.อ. มานิตย์ สวัสดิ์สุข ปลัดเทศบาลตำบลแม่หล่าย จังหวัดแพร่

• สถาบันครอบครัว ต้องอบอุ่นเข้มแข็ง

• ในด้านงาน มีภาวะผู้นำ เป็นที่ยอมรับ เสียสละ สุจริต บริการประชาชนดี

กิจกรรมที่ 2 นิสัยที่ดีที่มีในตัวท่านมีอะไรบ้าง นิสัยที่ไม่ดีในตัวมีอะไรบ้าง

กลุ่ม 1 นำเสนอโดย นายบำรุง หอมจันทร์ นายกอบต.วังหิน จังหวัดอุทัยธานี

• นิสัยที่ดี คือ เห็นใจผู้อื่น อ่อนน้อม เกรงใจ

• นิสัยที่ไม่ดี คือ พูดตรงเกินไป อ่อนแอถ้าอ่อนน้อมเกินไป

กลุ่ม 2 นำเสนอโดย นายศิโรตม์ พุทธา ปลัดเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง จังหวัดแพร่

• นิสัยที่ดี คือ ประนีประนอมไม่ดื้อ เห็นใจผู้อื่นสงสาร รักการอ่านใฝ่รู้

• นิสัยที่ไม่ดี คือ โกรธง่าย ไม่ประหยัด ใจร้อน

วิทยากร

• ผู้นำต้องเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังทั้งข้อความและอารมณ์

กิจกรรมที่ 3 อะไรที่ทำให้เราเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จอย่างจีรังยั่งยืนได้

กลุ่ม 1 นำเสนอโดย นางกานดา ดูเบย์ ประธานสภาอบต.วังซ่าน จังหวัดนครสวรรค์

• ต้องดูแลชุมชน ดี ให้อยู่ดีกินดี ทำอย่างจริงจังและจริงใจ เสมอต้นเสมอปลาย

กลุ่ม 2 นำเสนอโดย นายสำรวย ฉิมปาน ประธานสภาอบต.หนองกลับ จังหวัดนครสวรรค์

• ต้องนำและตามได้ เสนอแนวคิดให้ชุมชน อาจตามให้กับลูกบ้านประชาชน

กลุ่ม 3 นำเสนอโดย นายวิรัตน์ โภชะ ปลัดเทศบาลตำบลเชียงคาน จังหวัดเลย

• ครอบครัวเป็นสุข รักครอบครัว สนุกกับงาน ช่วยชุมชนเสมอต้นเสมอปลาย

กลุ่ม 4 นำเสนอโดย จ.ส.อ.บุนนาค แหบคงเหล็ก ปลัดอบต.นางพญา จังหวัดอุตรดิตถ์

• นำครอบครัวและตนได้ก่อน จึงจะนำผู้อื่นได้

กิจกรรมที่ 4

ธิติมาร่วมทำงานบริการประชาชน และนำเสนอแนวคิดเพื่อปรับปรุงการทำงานของหน่วยงานต่อหัวหน้า แต่ไม่มีใครเห็นด้วย ธิติมาควรทำอย่างไร

กลุ่ม 1

• อดทน บอกให้ทางหน่วยงานทดลองทำตามข้อเสนอแนะ ถ้าผลออกมาดี แล้วค่อยขยายผล พยายามตื๊อ

กิจกรรมที่ 5 กำหนดเป้าหมาย

กลุ่ม 1 นำเสนอโดย นายกอบต.เขากวางทอง

• จะลดละเลิกสิ่งไม่จำเป็น โดยปรึกษากับครอบครัวบันทึกบัญชีครัวเรือน

• จะทำโครงการตู้เย็นข้างบ้าน คือปลูกผัก ไว้กินเองในชุมชน

• ทำศูนย์เรียนรู้ตู้เย็นข้างบ้าน

วิทยากร

• ในเรื่องเป้าหมาย ควรกำหนดตัวเลขให้ชัดเจน จะได้ประมาณการถูกต้อง

บรรยายเรื่อง แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง: วิถีสำหรับชุมชน โดย ดร.ธันวา จิตต์สงวน

อนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง และรองอธิการบดี ฝ่ายโครงการพิเศษมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 กระแสโลกาภิวัตน์ ได้แก่

 การเปิดการค้าเสรี ส่งผลดีเมื่อมีความสามารถในการแข่งขัน เป็นมหาอำนาจ มีต้นทุนต่ำ ถ้าน้ำมันราคาแพงขึ้น จะต้องปลูกข้าวน้อยลงแล้วปลูกพืชเพื่อผลิตพลังงานทดแทนมากขึ้น

 ในเรื่องสิ่งแวดล้อม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ น้ำท่วมโลก คนตื่นตระหนกขายที่ดิน แล้วไปซื้อที่จังหวัดนครสวรรค์ และพิษณุโลก แต่ประเทศที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลก็ หาทางแก้ปัญหาได้

 ข้อเสนอแนะ

 ควรสอนให้บุตรหลานรู้จักความลำบาก มีเงินมาก อาจจะไม่มีความสุขก็ได้ คนจนก็มีความสุขตามอัตภาพได้

 การอนุรักษ์คือการใช้อย่างฉลาดและยั่งยืน ไม่ใช่เก็บ

 ควรกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆเหมือนภูฏานเพื่อช่วยอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวและสภาพแวดล้อมให้ดี

 ควรทำประกันชีวิต

 รู้จักออกกำลังกาย ทำจิตให้นิ่ง แต่กายขยับ ระดับอบต. ควรใช้รองเท้าวิ่งราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท เพื่อจะได้ไม่ปวดหัวเข่าเวลาวิ่ง

 ต้องมีความรักและมีความสุข เพื่อให้ร่างกาย หลั่งสารความสุขซึ่งทำให้สุขภาพแข็งแรง

 ต้องรู้จักแต่งตัวให้เหมาะสมตามอัตภาพ

 ควรประหยัดการใช้พลังงานและพลาสติก ปลูกต้นไม้ ตักอาหารพอกิน อย่าให้มากไป

 ควรส่งเสริมการผลิตสบู่ดำ ร่วมกันเป็นสหกรณ์ทำโซล่าเซลล์

 ควรมีการวิจัยผลิตยาจากวัชพืช เพราะเป็นพืชที่แข็งแรง เหมือนที่ญี่ปุ่นทำยารักษาโรคมะเร็งจากแห้วหมูจากเพชรบุรี

 ควรขายข้าวให้ได้ราคาแพง

 ควรทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเน้น

o ความพอประมาณ (Moderation) แบ่งเงินเพื่อกิน ใช้ เก็บ และทำบุญ แบ่งเวลาทำงานและครอบครัวให้เหมาะสมกัน

o ความมีเหตุผล (Reasonableness) หมายถึงเหมาะกับศักยภาพ เช่น เป็นอบต.ต้องชอบดูแลประชาชน คุยกับประชาชนและแก้ปัญหาชุมชน แต่ละจังหวัดควรทำธุรกิจที่เหมาะกับภูมิสังคมของจังหวัด ไม่ควรทำสินค้าโอท็อปเลียนแบบกัน

o การมีภูมิคุ้มกันตนเอง (Self Immunity) เช่น มีประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เงินออม และพเอน ควรมีเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน ควรเข้าร่วมการประชุมเพื่อสร้างเครือข่าย ควรมีเส้นสายช่วยเหลือในเรื่องที่ควร

 เนื้อหาของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง:2 เงื่อนไข

o เงื่อนไขความรู้ (Knowledge) - รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ใช้เหตุผลวิทยาศาสตร์ ไม่งมงาย

o เงื่อนไขคุณธรรม (Morality) - ซื่อสัตย์ สุจริต อดทน ความเพียร ไม่โลภเกินไป

 ถ้าปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ก็จะไปถึง 3 เป้าหมาย

o ความสมดุล

o ความมั่นคง

o ความยั่งยืน

 เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ห้ามมีหนี้ แต่ต้องใช้หนี้ ได้ หรือจัดการได้ ฟุ่มเฟือยได้ถ้าไม่เดือดร้อน

 ควรถามความต้องการของชุมชน

 ควรให้ชุมชนโตอย่างสมดุลและคิดว่าความสุขของชุมชนคือความเจริญ

 ควรฟื้นฟูวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างชุมชน

 ในการทำงานควรดูแนวทางจากผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดี

 ควรให้โรงเรียนสอนประวัติศาสตร์ท้องถิ่น

 ควรประกวดบุคคลตัวอย่างเศรษฐกิจพอเพียงและขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยสนับสนุนโล่ห์รางวัล

[วินัย สมประสงค์]

นำครอบครัว นำอย่างฉลาด ชาติเจริญ