ชาวันละ 3 ถ้วย อาจช่วยถนอมเส้นเลือด
|
... ชาเป็น 1 ในเครื่องดื่มที่มีคนชื่นชอบกันทั่วโลก วันนี้มีผลการศึกษาว่า การดื่มชาวันละ 3 ถ้วยขึ้นไปอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดคราบไขมัน ซึ่งทำให้เส้นเลือดแดงที่คออุดตันมาฝากครับ ท่านอาจารย์ดอกเตอร์มาร์มุด ซูไรค์ และคณะ แห่งสถาบันวิจัยการแพทย์แห่งชาติ ฝรั่งเศส ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างคนสูงอายุ ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 73 ปี ... กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ชาย 2,613 คน ผู้หญิง 3,984 คน ผลการศึกษาพบข่าวดีคือ ผู้หญิงที่ดื่มชาตั้งแต่ 3 ถ้วยต่อวันขึ้นไปมีความเสี่ยงโรคเส้นเลือดแดงแคโรทิดที่คอตีบตัน (carotid artery plaque) ลดลง ทีนี้ข่าวดีย่อมมาคู่กับข่าวร้าย ซึ่งคงจะคล้ายกับวิกฤตที่มักจะมาคู่กับโอกาส... ข่าวร้ายที่ว่า คือ ความเสี่ยงโรคดังกล่าวในผู้ชายที่ดื่มชาไม่ลดลง ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่า ทำไม(และทำไม...) ...
... การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกเริ่ม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุน หรือคัดค้านต่อไป การดื่มชาอาจทำให้การดูดซึมแร่ธาตุในอาหาร เช่น เหล็ก ฯลฯ ลดลง เรียนเสนอให้พวกเราที่ดื่มชา พิจารณาเลือกดื่มชาระหว่างมื้ออาหารแทนการดื่มพร้อมอาหาร เพื่อให้การดูดซึมแร่ธาตุเป็นไปด้วยดี ... ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ที่มา
|
ความเห็น (6)
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ
- เอื้องแซะเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ชอบดื่มชาในช่วงที่ อายุ 45 up จนถึงปัจจุบัน
- วันไหนที่ไม่ได้ดื่มชา จะรู้สึกไม่ค่อยสดชื่น แต่ถ้าได้ชาร้อนๆสักถ้วย ก็จะรู้สึกดี ส่วนกาแฟจะดื่มไม่ได้เลยค่ะ
- เคยดื่มกาแฟแล้วแต่ร่างกายไม่รับ หัวใจจะเต้นเร็วกว่าปกติ แลยไม่กล้าดื่มอีกเลย
- แต่ถ้าดื่มน้ำ หรือชาก่อนนอน มักจะทำให้ปัสสาวะบ่อยจริงไหมคะ
- แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร?คะ
- ขอบคุณอาจารย์หมอค่ะ
ดื่มชาแล้ว ปัสสาวะบ่อยค่ะ แต่ดีค่ะ ชอบหมือนกันค่ะ
ขอขอบคุณ... คุณเอื้องแซะ
- ชื่อของคุณนี่คงจะเรียกได้ว่า "มีความไพเราะ" มากที่สุดใน gotoknow ทีเดียว
- การดื่มกาแฟ ชา มีส่วนเพิ่มการขับปัสสาวะได้
การดื่มชา หรือน้ำใกล้เวลานอน อาจเพิ่มปัญหาปวดปัสสาวะตอนกลางคืน ซึ่งอาจทำให้ฝันร้ายได้
- วิธีง่ายๆ คือ พอใกล้เวลานอนสัก 2 ชั่วโมงน่าจะลองงดน้ำดู โดยดื่มน้ำให้มากหน่อยในช่วงก่อนหน้านั้น
ขอขอบพระคุณอาจารย์ sasinanda...
- กล่าวกันว่า น้ำเปล่ากับชาไม่เติมน้ำตาล... น่าจะเป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ดีที่สุด
- เพราะแคลอรีต่ำมากๆ หรือประมาณ 0
- เครื่องดื่มอื่นๆ ดี แต่ส่วนใหญ่จะเสี่ยงอ้วนครับ
- ขอขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยแนะนำค่ะ
- สำหรับชื่อเอื้องแซะ มีอยู่ในใจนานแล้วค่ะ เพราะชอบกลิ่นหอมที่หอมนวล และหอมนาน
- ทุกครั้งที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จติดตามงานโครงการตามพระราชดำริ ศูนย์ศิลปาชีพ ประชาชนจะถวายดอกเอื้องแซะซึ่งพระองค์ท่านทรงโปรดกลิ่นหอมของดอกเอื้องแซะมาก
- และทรงให้ผู้เชี่ยวชาญสกัดกลิ่นทำน้ำหอมด้วยค่ะ เป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาก ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ของทุกปี ประชาชนจะรอคอยพระองค์ท่านเสด็จจังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยความจงรักภักดีค่ะ
- ปัจจุบันดอกเอื้องแซะเป็นกล้วยไม้ที่ถูกสงวน ตามโครงการคืนกล้วยไม้สู่ป่า ของพระองค์ท่านค่ะ ถือว่าเป็นความโชคดีของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน มิฉะนั้นแล้วกล้วยไม้ที่ขึ้นชื่อของจ.แม่ฮ่องสอน ( เอื้องแซะ และรองเท้านารี ) คงหมดป่าแม่ฮ่องสอนแน่ค่ะ ขอบคุณอาจารย์หมออีกครั้งค่ะ
ขอขอบคุณ... คุณเอื้องแซะ
- ผมเองคงต้องระลึกถึงพระคุณของชาวแม่ฮ่องสอน เพราะเคยไปฝึกงานที่โรงพยาบาลขุนยวม แม่ฮ่องสอนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ปี 2525
- ตอนนั้นต้นสนมีมากกว่าช่วงหลังๆ แยะ...
- แถมอากาศช่วงเมษายนยังเย็นสบายมากๆ... ขุนยวมอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก เช้าๆ ปีนั้น 17 องศาเซลเซียส ดูจากเทอร์โมมิเตอร์ครับ...