ครูบาเคยบอกว่า ใน G2K เหมือนมีตะเกียงอาละดิน อยากได้อะไรก็แค่ถูตะเกียง จะมียักษ์ออกมาช่วยให้สมปราถนา ( บางครั้งก็เป็นนางฟ้าออกมา อิอิ )
น้าอึ่งอ๊อบก็เลยใช้บริการนี้ อยากอบรมคุณอำนวยให้ที่ทำงานตัวเอง ( คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ) ก็ถูตะเกียง ยักษ์ชอบวิ่งก็ออกมารับปากจัดการให้ วันที่เขียนบันทึกนี้ก็จัดเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนอึ่งอ๊อบไปแล้ว แต่ใช้ชื่อว่า กระบวนกร หัดขับ(เคลื่อน) (Knowledge Facilitator) ตามอ่านได้ที่นี่ครับ
ของน้าอึ่งอ๊อบ อันนี้เขียนดีที่สุด ขอบอก
ของเหล่านักการ อันนี้ก็ดีที่สุด ถ้าไม่มีคนชื่อน้าอึ่งอ๊อบ
ของดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี อันนี้ก็.....ว่าเองแล้วกัน อิอิ.....
ทั้งสามคนขยันเขียนหน่อยเน้อ มีคนมารออ่าน โดนด่าไม่รู้ด้วยนะ อิอิ
รับปากมาแล้วก็เชิญทีมงานมาปรึกษา บอกว่างานนี้เป็นกิจกรรมของมหาชีวาลัยสองแคว ร่วมกับมหาชีวาลัยเชียงใหม่ อธิบายโจทย์ให้ฟังว่าทางน้าอึ่งอ๊อบต้องการอะไร ? แล้วก็ออกแบบหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการ เหมือนวัดตัวตัดเสื้อให้ใหม่ ไม่ใช่เอาเสื้อโหลไปให้น้าอึ่งอ๊อบใส่ อิอิ
น้าอึ่งอ๊อบประสานมาว่าจะจัดวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ ก็เลยวางแผนว่าน่าจะไปแวะเยี่ยมอาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู แห่งวงน้ำชาที่เชียงราย ( นายทวีสิน คนดอย เป็นคนแนะนำครับ ) ก็ตามประสาคนชอบบุก ( ปกติไปหาสาวจะบุกเดี่ยว แต่คราวนี้ยกทีมบุกเลย อิอิ )
ก็อาศัยวิชาอาละดินศาสตร์ ติดต่อบล็อกเกอร์เชียงรายที่ชื่อหมอหน่อยคนสวยขอหมายเลขโทรศัพท์ของอาจารย์ ได้ปุ๊บก็โทรหาอาจารย์ปั๊บ แนะนำตัวทันทีว่าคนชอบวิ่งและทีมงานขอเยี่ยมคารวะอาจารย์วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ อาจารย์สดวกไหม ? อาจารย์บอกรอแป๊บ ( เดาเอาคงเปิดสมุดคิวน่ะ อิอิ ) แล้วก็บอกว่ายินดีต้อนรับครับ ว่างพอดี วันที่มาก็โทรศัพท์ติดต่อกันอีกครั้งแล้วกัน
ส่วนเรื่องเจอหมอเบิร์ดเล่าให้ฟังแล้ว รายละเอียดคงไม่เล่าให้ฟังเพราะเป็นการเอาความลับของหน่วยงานไปเปิดเผย อิอิ
ต้องขอเล่าให้ฟังก่อนครับว่าทีมงานของเรามีประสบการณ์การจัดการขยะมูลฝอยแบบประชาชนมีส่วนร่วมมานานแล้ว ขนาดเขียนหลักสูตรอบรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรื่องนี้มาแล้ว ก็คือหลักสูตรการจัดการขยะมูลฝอยโดยชุมชน ( Community Based Solid Waste Management – CBM ) และอบรมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศมาแล้วหลายสิบแห่ง แถมอบรมวิทยากรหรือกระบวนกรที่จะใช้หลักสูตรนี้อีกหลายครั้ง
แต่โดยนโยบายของท่านนายกเทศมนตรีที่จะให้เริ่มใช้ KM หรือการจัดการความรู้เป็นเครื่องมืออีกตัวหนึ่งในการทำงาน เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับทีมเรา หลังจากที่เราเริ่มมาก็ยังมีสิ่งที่ไม่เข้าใจ ยังไม่ชัดเจนอีกมาก เลยตัดสินใจไปเยี่ยมคารวะ อาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องนี้
อีกประการหนึ่ง ทราบว่าวงน้ำชาได้ศึกษาเรื่องจิตวิญญาณโดยอาศัยหลักทางวิทยาศาสตร์อธิบายสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ การคิด การทำงานของสมอง ฯ ศึกษาเรื่องสุนทรียสนทนา กระบวนกร การอ่าน การเขียน การแปล ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ การเยี่ยมคารวะครั้งนี้ทำให้ทีมงานของเราพัฒนาตนเองทั้งด้านจิตใจ และทักษะการเป็นกระบวนกร
ตามฟอร์มนะครับ รูปไปทาง ชื่อบล็อกไปทาง เนื้อหาไปอีกทางนึง อิอิ โปรดติดตามตอนต่อไป
นักการหนุ่มโปรดส่งรูปมาให้ด่วน ถ่ายรูปแล้วอุบไว้คนเดียว เขียนบล็อกก็ไม่เขียน รีบส่งมาก่อนเจอตัวนะ....
อีกคดีนึง เจอหมอเบิร์ดก็ไม่รู้จักถ่ายรูปเอาไว้ ... เฮ้อ เสียดาย....
คุณหมอชอบวิ่ง หละ ดูหงุดหงิดจริง หากอะไรทื่เกี่ยวกับน้องเบิร์ด (ที่ไม่ได้ถูกกอด) อิอิ..
ฝากไปถึงน้องนักการ เสนอจัดสัมมนาที่เชียงรายอีก หุ.หุ. ฮิ้ว...
สวัสดีค่ะ อ.หมอคนชอบวิ่ง
ปล. รอดูรูปจากนักการหนุ่ม และเสียดายเหมือนกัน ทำไมไม่ถ่ายหมอเบิร์ด นานๆได้เจอ นางสาวไทยอ่ะค่ะ :-)))
สวัสดีค่ะ
ตามมาถึงบล็อกเลยค่ะ ที่ไม่ค่อยกล้าทานขนมจีน เพราะเคยเห็นญาติทานแล้วท้องเสียมาก ต้องส่งร.พ.ค่ะ น่ากลัวจัง เกือบแย่แน่ะ
แต่ถ้าสะอาดและไม่ค้างก็คงไม่ค่อยเป็นไรนะคะ
คุณหมอ คุ้นเคยกับวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เห็นเด็กไทยอ่อนทั้งสองอย่าง แล้วคิดยังไงกันดีคะ น่ากลุ้ม ช่วยอ่านที่นี่ค่ะ
คนสวยไม่ยอมถ่าย ผิดโทษมหันต์เลย คนที่ตาไม่มีแววถือกล้อง
นักการอิ่มและนักการเมี่ยง(ขอแจม)