นักศึกษาแพทย์กับกิจกรรมนวดปริศนา


คงเป็นหน้าที่ของเรา พวกผู้ใหญ่กระมัง ที่ต้องค่อยๆ ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามในตัวเด็กๆ ของเรา ค่อยๆ หันเหความสนใจของพวกเขา ให้หันมามองดูแง่มุมเหล่านี้บ้าง

วันที่ 1 และ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ไปอบรมนพลักษณ์ ให้กับนักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 4 โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา มีเรื่องราวน่าประทับใจกับเด็กๆ กลุ่มนี้มาเล่าให้ฟังค่ะ

 

ตอนแรกดิฉันก็ไม่ทราบหรอกว่า ทางสมาคมรับจัดการอบรมให้เด็กกลุ่มนี้โดยใช้เวลาเพียง 1 วันครึ่ง เท่านั้น  .... เพราะอย่างที่ทราบว่า หลักสูตรนพลักษณ์ขั้นต้นออกแบบไว้สำหรับการจัดอบรม จำนวน 3 วันเต็ม... พอไปถึงวังน้ำเขียว สถานที่จัดอบรมก็เพิ่งทราบข้อมูล และทราบต่อไปอีกว่า ทีมจะทำกิจกรรมเพียงระยะแรก แล้วจะจัดอบรมอีกครั้งในระยะต่อไป .... โดยวิทยากรบางท่านก็ไม่ค่อยพอใจว่า เวลาที่ให้มา ไม่เพียงพอต่อกระบวนการที่ออกแบบไว้

 

แต่จุดแรกที่ประทับใจคือ ไม่ใช่สถาบันเป็นคนแสดงความจำนงจัดอบรมนพลักษณ์ ให้กับนักศึกษาแพทย์กลุ่มนี้  แต่เป็นผู้นำนักศึกษาแพทย์เอง ที่ได้รับทราบข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับนพลักษณ์ แล้วอยากให้ตนเอง และเพื่อนๆ รู้จักศาสตร์นี้ เลยติดต่อกับทางสมาคม และเป็นตัวตั้งตัวตีดำเนินการขออนุมัติโครงการ (เป็นโครงการเที่ยวด้วยครึ่งหนึ่ง และอบรมครึ่งหนึ่ง... จำนวนวันอบรมเลยโดนแบ่งครึ่ง 555)

 

ดิฉันมันเป็นประเภท "ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมดีเสมอ"  (แบบว่าแก้ไขอดีตไม่ได้ ก็ต้องพยายามมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน 555)  เลยไม่ค่อยหงุดหงิดกับจำนวนวันอบรมที่เหลือน้อย ... คิดแต่เพียงว่า แล้วเราจะออกแบบกิจกรรมให้ได้ประโยชน์กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มากที่สุดได้อย่างไรเท่านั้น .... หัวสมองก็เลยวิ่งกระฉูด จุ๊ดๆๆๆ  หาวิธี ๆๆๆๆ

 

กิจกรรมที่เราออกแบบให้ปิดตา จับคู่ แล้วนวดให้กัน คนถูกนวดจะเห็นหน้าคู่ของตน แต่ถึงเวลา กระบวนกรก็จับเปลี่ยนคู่ พอนวดเสร็จ คนถูกนวดเปิดผ้าผูกตา ก็ต๊กกะใจ เพราะเห็นคนนวดเป็นอีกคนหนึ่ง

พอจบกิจกรรมก็ตั้งวงสุนทรียสนนา พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน หลายคนสัมผัสได้ถึง "ความรู้สึกดีๆ ที่ผู้นวดมีให้กับตนเองคือผู้ถูกนวด" ดิฉันถามต่อไปว่า แล้วความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร มีความแตกต่างกันเรื่องเพศหรือไม่  หลายคนบอกว่า แทบไม่รู้สึก เพราะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่ถ่ายทอดออกมาให้กับตนเอง

.... โอกาสอันดีมาถึงดิฉันแล้วค่ะ ... กระโดดตบลูกทันที 5555.... ถามไปว่า แล้วหากพวกคุณเรียนจบออกไปเป็นแพทย์อาชีพแล้ว อย่าลืม ความรู้สึกแบบนี้  ที่เราได้ส่ง และรับความรู้สึกดีๆ ให้กับคนอื่น โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใคร รู้เพียงว่าเป็นมนุษย์ร่วมโลกใบเดียวกับเราคนหนึ่งเท่านั้น

ความรู้สึกดีๆ ที่เราส่งออกไป ใครๆ ก็รับได้ค่ะ ไม่มีแบ่งชั้นวรรณะ อายุ เพศ เราต่างร่วมรับรู้กันได้ค่ะ

เช่นเดียวกันกับที่บางคนแลกเปลี่ยนว่า เวลาถูกนวดก็คาดหวังว่า เขาน่าจะนวดแรงอีกนิด น่าจะขยับมานวดตรงนั้น ตรงนี้ของเราบ้าง  ....... เหมือนกันเมื่อเราต่างมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน "ความคาดหวัง" ย่อมเกิดขึ้น .... เมื่อเราถูกปิดตา ก็เหมือนกับว่า ในอนาคตเราไม่รู้หรอกว่า เราต้องให้บริการใครบ้าง และเขาเหล่านั้นจะคาดหวังอะไรจากเราบ้าง

 

ในวงของการพูดคุยนี้ ดิฉันเห็นแววตาของน้องๆ นักศึกษาแพทย์ ที่เบิกโพลง เห็นประเด็นที่ดิฉันโยนลงไป เห็นบางคนน้ำตาซึม .... แค่นี้กระบวนกรก็ดีใจสุดๆ แล้วค่ะ

เราได้ทำหน้าที่ในการปลูกเมล็ดพันธ์แห่งความรัก ความหวังดี และแง่มุมบางแง่มุม ให้กับบุคลากรที่จะทำประโยชน์เพื่อสังคมในอนาคตไว้ได้แล้วบางส่วน

 

หลังจากกิจกรรมนวดปริศนานี้ เห็นพลังการมีส่วนร่วมในการเรียนรู้จากน้องๆ ออกมาเยอะมาก รวมไปถึงความตั้งใจที่จะค้นหา "ตัวตน" ของตนเอง ตามวัตถุประสงค์ของการอบรมอย่างดีเยี่ยมทีเดียวคะ .... น่าปลื้มใจจริงๆ  

 

เห็นได้ว่า ในบางเรื่อง พวกผู้ใหญ่เองก็คาดหวังกับเด็กๆ ว่าเรื่องพวกนี้ต้องรู้  ควรรู้  แต่ในโลกของการเรียนหนักๆ แบบของหมอนั้น ในบางมุม บางแง่ของชีวิต อาจไม่เคยได้มีพื้นที่อยู่ในความใส่ใจของเขาเหล่านั้น ......

คงเป็นหน้าที่ของเรา พวกผู้ใหญ่กระมัง ที่ต้องค่อยๆ ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามในตัวเด็กๆ ของเรา  ค่อยๆ หันเหความสนใจของพวกเขา ให้หันมามองดูแง่มุมเหล่านี้บ้าง ... แต่ไม่ต้องสั่งสอนอย่างจริงจัง ว่า "เธอต้องใส่ใจคนไข้ เธอต้องส่งความรู้สึกดีๆ สะสมพลังในตัวเองเยอะๆ แล้วส่งให้คนไข้ผู้อ่อนพลังเหล่านั้น ฯลฯ "  การสอนแบบนี้คงไร้ผล

การทำให้เขาได้สัมผัสกับความรู้สึกเหล่านั้นเอง ด้วยตนเอง ... ในความเชื่อของดิฉันพบว่า มันจะยั่งยืน และติดทนในเนื้อในตัวคนๆ นั้น และส่งผลเป็นพฤติกรรมได้มากกว่า การพูดๆๆๆๆ สอนๆๆๆ ค่ะ

 

 

หมายเลขบันทึก: 168663เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2008 16:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • สวัสดีครับคุณอัญชลี
  • สัมผัสทุกสิ่งด้วย   ตัวตน เขาเฮย
    มันสื่อถึงกมล       รับรู้
    ติดทนยั่งยืนยล     ผลส่ง พฤตินา
    ดีกว่าสอนกระทู้    จ่อจู้ วัจจนัง
  • รบกวนเท่านี้ครับ ขอบคุณครับ
  • ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ P ทนัน ภิวงศ์งาม ที่แวะมาทักทาย พร้อมกับบทกลอนอันไพเราะ ขออนุญาตนำไปใช้ด้วยเลยนะคะ ....
  • ไม่ได้เป็นการรบกวนเลยค่ะ ... แล้วแวะมาทักทายกันบ่อยๆ นะคะ ... ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
  • สวัสดีครับคุณอัญชลี
  • เอาไปเลยไม่ได้     สงวนสิทธิ ใดเฮย
    สอนอ่านฟังแลคิด  ยากล้ำ
    นำฟังอ่านแลคิด    ศิษย์รัก ครูนา
    ฝึกบ่อยและทำซ้ำ  เลิศล้ำ วิชาครู
  • สาธุครับ

อาจารย์คะ น่าปลื้มใจแทนจัง  หลานที่เรียนหมอ(ปี 6) ก็ขอยืมหนังสือของสมาคม (ที่ได้ตอนเข้าอบรมขั้นพื้นฐาน) ไปอ่าน ช่วงฝึกงานที่ รพ. มหาราช เหมือนกัน หลานบอกว่าได้เรียนนพลักษณ์ในหลักสูตรด้วย ถ้าจำไม่ผิดอาจารย์แพทย์เป็นผู้ให้ความรู้  กบโง่เลยได้รู้ว่า เออ ! นพลักษณ์นี่ไม่ธรรมดานิ 555

  • ขอบคุณ คุณพวกบ้า 555 ค่ะ ที่ตามมาอ่านถึงที่นี่
  • อาจารย์แพทย์ที่ว่า คงจะเป็น หมอจันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ นายกสมาคมนพลักษณ์ไทย หัวหน้าทีมของดิฉันเองค่ะ
  • ตอนที่ไปอบรมให้ครั้งแรก ก็เพราะผู้นำนักศึกษาแพทย์ที่นั่น รู้จักนพลักษณ์แบบเคยได้ยินมาเล็กน้อย เลยทำเรื่องเชิญให้สมาคมฯ มาอบรมให้นิดนึง + ไปเที่ยวอีกนิดนึง 555
  • แต่พออบรมได้ แค่ 1 วัน เจ้าหน้าที่ขององค์กรก็ทาบทามให้อบรมต่อเนื่องอีกหลายกิจกรรมเลยค่ะ ทั้งเตรียมจัดให้เจ้าหน้าที่ของคณะพร้อมคณาจารย์ และเตรียมจัดให้นักศึกษาทุกชั้นปี
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท