ขายวัวส่งควายเรียน
หลายคนอาจเคยได้ยินประโยคนี้มาบ้างแล้ว เมื่อวันก่อนผู้เขียนเป็นครูทั้งคุมสอบและตรวจข้อสอบอ่านคิดวิเคราะห์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้วได้อ่านชื่อเรื่องที่นักเรียนคนหนึ่งตั้งชื่อเรี่องว่า ขายวัวส่งควายเรียน ซึ่งข้อสอบส่วนกลางนี้ออกมาในลักษณะเล่าเรื่องแล้วให้นักเรียนลองตั้งชื่อเรื่องดูให้สัมพันธ์กับเรื่องที่อ่าน พออ่านแล้วนึกเลยว่าเหมือนกับนักเรียนคนหนึ่งที่ผู้เขียนเป็นครูประจำชั้นอยู่พอดีเลย ผู้เขียนยังนึกเลยว่าเด็กที่ว่านี้อ่านแล้วจะรู้สึกอย่างไรบ้างหนอ
ประชุมผู้ปกครองไปเมื่อไม่กี่วัน ได้พบปะสนทนากับผู้ปกครองแล้ว ก็ได้แต่ช่วยกันว่าจะแก้ไขบุตรหลานได้อย่างไร เพราะทุกวันนี้เด็กยุคนี้ ไม่ใส่ใจเรื่องเรียนมากนัก ไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา ครูอาจารย์กวดขัน บ่นว่าไม่ได้ พ่อแม่ก็เช่นเดียวกัน บอกพอบ่นหน่อยก็กระทืบเท้าตึงๆออกไป เป็นเทวดากันหมด แต่ก็มีลูกบางคนที่เขาดีจริงๆ เรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 4 เกือบทุกตัว กิจกรรมก็ร่วม งานบ้านก็ทำ เชื่อฟังพ่อแม่ ก็เรียกว่าเป็นบุญของเขาไป ไอ้ตัวร้ายๆ ตาใส หน้าเซ่อ ทำมึน ทั้งคาดโทษ ทั้งทำโทษ ก็แล้ว ดื้อด้านเหมือนวัว เหมือนควาย ที่คนมักชอบเปรียบ ที่จริงวัว ควาย โดนตีมันก็ทำตามแล้วไม่ดื้อเหมือนคนหรอกใช่ไหม
การเรียนการสอนทุกวันนี้ นักเรียนส่วนใหญ่เกือบทั่วประเทศ มักไม่ค่อยได้รับการสอนให้รู้จักคิดวิเคราะห์ เมื่อมีการเน้นให้นักเรียนรู้จักคิดวิเคราะห์มากขึ้น เด็กไทยเราก็จะรู้จักแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนเลว และรู้จักคิดนอกรอบบ้าง คนไทยเราสมัยก่อน ใครที่คิดนอกกรอบ บ้างก็ว่าบ้า แต่ถ้าเป็นปัจจุบัน ถ้าใครคิดนอกกรอบได้ คิดก่อน รวยก่อน เพราะถือว่าสร้างสรรค์ ดังนั้นไม่ว่าจะในวงการใดๆก็แล้วแต่ ถ้ารู้จักคิด และนำความคิดมาพัฒนา รู้จักพลิกแพลงสร้างสรรค์ความคิดเหล่านั้นก็จะนำความเจริญ ความก้าวหน้าให้กับวงการนั้นๆ ไป ดีไม่ดีทำเงินให้อีกด้วย
ผู้เขียนในฐานะครูคนหนึ่ง และก็คิดว่าครูหรือผู้ใหญ่เราทั่วประเทศก็อยากให้เด็กๆบ้านเรามีความคิด เพราะคนที่รู้จักคิด โดยมากมักมีความรับผิดชอบ คนที่มีความรับผิดชอบ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีงานมีการทำก็ต้องรับผิดชอบงานที่ทำ รับผิดชอบครอบครัว รับผิดชอบสังคมร่วมกัน โลกเราก็คงจะอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่ต้องมาคอยช่วยกันรณรงค์ไม่ให้โลกร้อน ไม่ต้องมาจับผู้ร้าย ไม่ต้องมาจับตำรวจที่ทำผิด ไม่ต้องมาด่ากันไปด่ากันมาขุดคุ้ยเรื่องเก่าเรื่องจริงหรือไม่จริงเหมือนนักการเมืองเน่าๆ วนเวียนไม่รู้จบ เมื่อไรหนอใครตอบได้
แล้วคุณครูเคยเจอ ครูที่เห็นนักเรียนเหมือนวัว เหมือนควายมั๊ยคะ เอาแต่ดุ-ด่า-ตี แล้วก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ออกมานั่งคุยกัน พอกลับมาที่ห้องก็ดุ-ด่า-ตี เหมือนเดิม
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น สังคมเราทุกวันนี้ไม่ว่าจะวงการใด ไม่ว่า ครูหรือนักเรียน พระ หรือคนสามัญทั่วไป ดารา นักแสดง นักร้อง นักการเมือง และอีกหลายอาชีพ ล้วนมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันอยู่ เพียงแต่ว่า ใครที่จะประกอบกรรมดีหรือกรรมชั่วมากน้อยกว่ากันเท่านั้นแหละ ครูที่มีพฤติกรรมไม่น่านับถือทั้งเรื่องส่วนตัวทั้งเรื่องการเรียนการสอน ก็มี เด็กที่ร้ายกาจดื้อด้านเหมือนนรกส่งมาเกิดก็มี พระที่อาศัยผ้าเหลืองห่มกายที่ประพฤติผิดวินัยสงฆ์ก็มี ทุกวงการ เพียงแต่เราควรช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับสังคมช่วยกันทำให้คนเลวๆเหล่านี้ลดน้อยลง หรือหมดไปได้มากทั้งทางตรงทางอ้อม สังคมเราก็คงใสสะอาดขึ้น ไม่ต้องมาพบปะกับคนเลว คนชั่วให้เสื่อมราศรี จริงไหม ( ผู้เขียนก็ไม่ได้ยกตนว่าดีเลิศ แต่ก็คิดว่าไม่เคยคิดเบียดเบียน หรือทำผิดทำนองคลองธรรม แต่ทำงานผิดพลาดมีบ้าง ตามธรรมดาของคนทำงาน คนที่ไม่ผิดพลาดเลยคือคนที่ไม่ทำงาน )