รพ น้ำพอง กับ LO & KM
๑๕ กพ ๕๑
ผมขอขอบพระคุณ ชาว รพ น้ำพอง ทุกท่าน ที่ให้เกียรติ เชิญผม บ่นไป ชิมไป ให้ผู้บริหาร และ นักบุญทุกท่านฟังที่ รพ (เมื่อไร จะเลิก คำว่า เข้าเวร มาเป็น ทำบุญสักทีหนอ)
ไปกันหลายคน มี คุณแมน จาก Siam Ocean World ไปแจมด้วย และ ท่านอาจารย์ JJ
ก็รู้สึกประทับใจ ตั้งแต่ แรกเข้า รพ แล้ว เจอต้น ซากุระอิสาน สีชมพูหวานแจ๋ว พร้อม ไก่ย่างเขาสวนกวาง
ที่เสียดาย คือ ไม่ได้ ถ่ายรูปป้าย ที่เขียนว่า รพ แนวพุทธ อะไรทำนองนั้น เพิ่งรู้ว่ามีป้ายนี้อยู่หน้า รพ
จริงๆแล้ว ทำ LO & KM ก็คือ วิถีพุทธ นั่นเอง
และ จะว่าไปแล้ว ศาสตร์ทางการบริหาร อยู่ใน พระไตรปิฏก นั่นเอง เรามัวแต่ ชื่นชมฝรั่ง โดยหารู้ไม่ว่า ของดีอยู่ใกล้ตัวเราเอง
***********************************************
สรุปเนื้อหา เท่าที่พอจำได้
(ก) เริ่มต้น ไม่สอนครับ ใช้เทคนิค Storytelling ( อจ JJ เก่งมากครับ ท่านจับเทคนิคได้ว่า ผมใช้ Storytelling แบบเนียนๆ http://gotoknow.org/blog/uackku/165227) ... ผมพาไปดู ภาพ องค์กรอื่นๆ ไม่เริ่มด้วยทฤษฏี ไม่มี bullet ใน power point
ระหว่างดูภาพ เช่น บ KTC ก็แซวๆ แทรกๆ เนื้อหา ของ LO เข้าไป
LO เป็น วัฒนธรรม เป็นการ ปรับอุปนิสัย (หรือ สันดาน) คนที่อุปนิสัยไม่ดี ต่อให่เอา ระบบอะไรมาลง ก็ ล้มเหลว
พาไปดูรูป ชุมชนเข้มแข็ง เช่น แหลมรุ่งเรือง บ้านจำรุง รร รุ่งอรุณ รร จิตต์เมตต์ รร เพลินพัฒนา ฯลฯ ที่ ปฏิรูปการศึกษา ดูภาพการอบรมพ่อแม่ ครู ที่สำคัญพอๆกับ อบรมลูกๆ
ลูกเรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์ พ่อแม่ ก็เรียนรู้ที่จะมี "สติ" ไปพร้อมๆกัน
อธิบาย ความฉลาดของคนไทย ที่ล้อมวงคุยกัน เห็นหน้ากัน ฯลฯ แต่ พอ มี ทีวีเข้ามา ทุกคน หันไปดูทีวี ไม่ฟังกัน ไม่รู้จักกัน
เราเริ่มโง่ ตั้งแต่ ให้ การศึกษาในระบบครอบงำความคิดของเรา
การศึกษาแบบให้ข้อมูล ครู "คาบ" มา "คาย" ให้ ผู้เรียน"กลืน" เป็นการทำให้ไทย ถอยหลัง แพ้ ลาว แพ้เวียดนาม แพ้มาเลฯ ไม่เห็นฝุ่นไปแล้ว
ชี้ให้เห็น วัฒนธรรมไทย ตามก้นฝรั่ง ทิ้งของดี ไปเอา ของเสีย ที่ฝรั่ง "คายทิ้ง"แล้ว ฝรั่งเขา เห็นภัยของเสพนิยมแล้ว หันมามีชีวิตแบบพวกเรา แต่ เรา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เข็มขัดสั้น เดินตามเขา อย่างหน้ามือตามัว
เอา ระบบบริหาร แบบโหดๆ ขาดความเป็น มนุษย์ ไม่มี Human side หรือ Soft side management เลย
(ข)
เล่าเรื่อง ความสำคัญ ของ ฐาน กาย ฐานจิต ฐานความคิด
ฐานจิตสำคัญที่สุด ถ้าเป็นทีมฟุตบอล ก็จะเป็น กองกลาง (midfield) ครับ
คนไทยไม่ชอบใส่หมวกกันน็อค ไม่ชอบใส่เข็มขัดนิรภัย เกิดจาก "ไม่รักร่างกาย"ของตนเอง
ผมให้ เล่นเกมส์ ถูมือ แล้ว จับอวัยวะต่างๆ ของตนเอง ( ดู ภาพที่ บันทึก ของ อจ JJ http://gotoknow.org/blog/uackku/165214) แล้ว กล่าวคำขอบคุณอวัยวะนั้นๆ เป็นการกระตุ้น ให้ cell เหล่านั้น รู้สึกตัว ( เพราะ เดี๋ยว จะแทรก การสอน เรื่อง การู้ตัวทั่วพร้อม กายานุปัสสนา) ต้อง ค่อยๆ ต้อน คนเรียน ไปเจอ key word ที่ตั้งเอาไว้ ไงล่ะ
(ค) ดึงไปเรื่อง ดอกอะไร หรือ Dialogue ว่า การทำ LO มีเทคนิคสำคัญ คือ "สุนทรียสนทนา"
อย่าทำห้องประชุม ให้น่าเบื่อ อย่าทำเป็นสถานที่หักหน้า ด่า ตำหนิ สร้างอคติ คาใจ ฯลฯ กันเลย ให้เป็นที่ๆ เราอยากเจอกัน มีความสุขที่ได้ประชุมกัน
( ลองอ่าน อปริหานิยธรรม ๖ ดูนะครับ)
(ง) แนะนำ เรื่อง การเอา รพ เป็น วัด ทุกวินาที สามารถปฏิบัติธรรมได้ ไม่ต้องรอไปวัด
บางคนไปวัด เดินจงกรม นั่งสมาธิ ถือขาวห่มขาว ไปสะหลายวัน แต่ กลับมา ก็ สันดานเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ... แสดงว่า ปฏิบัติผิดทางสะแล้ว
บางคนไม่ไปวัดเลย แต่ กลับเมตตา มี จิตอาสา เปลี่ยนแปลง อดทน ดัดนิสัยตนให้ดีเสมอ ... นี่แหละ คนปฏิบัติธรรม ที่แท้จริง
"สันดานไม่เปลี่ยน คือ ไม่ได้ปฏิบัติธรรม"
อาชีพ แพทย์ พยาบาล เภสัช ทันต ฯลฯ ในโรงพยาบาล เป็นอาชีพที่เห็น เกิด แก เจ็บตาย สามารถปฏิบัติแนวดูจิตได้ดีที่สุด
เรื่องต่างๆ ที่รุมเข้ามา ให้เอามาเป็นโจทย์ฝึกดูจิต สะสมสติ ให้มากๆๆๆๆ จนกลายเป็นมหาสติ ฯ ก็ จะพ้นทุกข์อย่างถาวร
ภาพประกอบ บันทึก http://www.managerroom.com/forums/forum_posts.asp?TID=3650&PN=1
ความเห็น (8)
- ตามมาเรียนรู้ด้วยคนครับ อิอิ
อ่านบล็อก อาจารย์ ได้ อะไร มากมาย เอาไป คุยกับครอบครัว และที่ทำงาน ได้อีกแล้ว
ชอบที่เล่าเปรียบเทียบ เรื่อง การเอา รพ เป็น วัด ทุกวินาที สามารถปฏิบัติธรรมได้ ไม่ต้องรอไปวัด ดีจังเลยค่ะ
อยากฟังต่อ
ขอช่วยเล่าอีก นะคะ
สวัสดีครับอาจารย์
ขอบคุณมากๆครับ
ได้เรียนรู้มากมายเลยครับ
ณัฐกฤตา ผลอ้อ
อ.คะ หนูเพิ่งเห็นที่อาจารย์สรุปวันนี้เองค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์มากๆนะคะ
ชาวรพ.ถามว่ากำหนดการปีหน้าอ.จะมาอีกเมื่อไหร่คะ?