30 สุดยอดผลไม้ไทยที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด+สุดยอดกล้วย (ตอน 1)


ผลไม้ฝรั่งได้ชื่อว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระมานานแล้ว และอาหารก็ได้ชื่อว่า เป็น 1 ในสุดยอดอาหารสุขภาพประเภทสมุนไพรสูง (healthy, herbal food)นี้ วันนี้มีข่าวว่า ผลไม้ไทยก็เป็นเจ้าแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) มาฝากครับ

<p>...</p>

ผลไม้ฝรั่งได้ชื่อว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระมานานแล้ว ส่วนอาหารไทยก็ได้ชื่อว่า เป็น 1 ในสุดยอดอาหารสุขภาพประเภทสมุนไพรสูง (healthy, herbal food)นี้ วันนี้มีข่าวว่า ผลไม้ไทยก็เป็นเจ้าแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) มาฝากครับ

ท่านอาจารย์ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคภัยไข้เจ็บที่คนไทยเราเป็นกันหลายโรค เป็นผลจากสารพิษที่เรียกว่า "อนุมูลอิสระ" โดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต

...

อนุมูลอิสระเกิดจากสาเหตุทั้งภายนอก เช่น มลภาวะ บุหรี่ แสงแดดจ้าๆ รังสี และสารเคมีอีกหลายชนิด และภายใน ซึ่งมาจากการเผาผลาญอาหารภายในร่างกาย(ออกซิเดชั่น) และการทำลายเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอม

ข่าวดีคือ การกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระให้มากพอทุกวัน เพื่อให้ได้วิตามิน C, E และเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนช่วยต้านสารพิษ หรือเจ้าอนุมูลอิสระนี้ได้

...

หลักการขั้นแรกคือ กินผักผลไม้หลายๆ สีทุกวัน และกินพร้อมอาหารที่มีไขมันดีๆ ด้วย เนื่องจากไขมันดีๆ ซึ่งพบมากในเมล็ดพืช ถั่ว งา และน้ำมันพืช เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระได้ดี เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระมีทั้งชนิดละลายในน้ำ และละลายในน้ำมัน(วิตามิน E และเบต้าแคโรทีน)

สารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำมันจำเป็นต้องมีน้ำมันเป็นตัวทำละลาย จึงจะดูดซึมได้ดี

...

วิธีที่จะช่วยให้ได้รับวิตามิน E มากพอทุกวันคือ ใช้น้ำมันพืชที่ไม่ใช่น้ำมันปาล์มและกะทิ น้ำมันปาล์มและกะทิมีไขมันอิ่มตัวสูง ทำให้ร่างกายสร้างไขมันในเลือด หรือโคเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น

วิธีที่จะช่วยให้ได้รับวิตามิน C มากพอทุกวันคือ กินผักผลไม้หลายๆ ชนิด โดยเฉพาะผักผลไม้ที่ไม่ผ่านความร้อนสูง หรือการปรุงอาหารนานๆ เนื่องจากวิตามิน C ไม่ทนต่อความร้อน

...

ท่านอาจารย์นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า จากการศึกษาผลไม้ไทย 83 ชนิด คัดมาแต่เนื้อๆ 100 กรัม

ผลปรากฏว่า สุดยอดผลไม้ที่คนไทยกินบ่อย และมีสารเบต้าแคโรทีน หรือสารต้านอนุมูลอิสระสีเหลือง-ส้มสูงสุด 10 อันดับแรกได้แก่

...

10 สุดยอดผลไม้ไทยที่มีเบต้าแคโรทีนสูงสุด ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม
1. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 873
2. มะเขือเทศราชินี 639
3. มะละกอสุก 532
4. แคนตาลูปเหลือง 217
5. มะปรางหวาน 230
6. มะยงชิด 207
7. สับปะรดภูเก็ต 150
8.  แตงโม 122
9. ส้มสายน้ำผึ้ง 101
10. ลูกพลับ 93

...

โปรดสังเกตว่า ถ้าเป็นมะละกอ... ควรเป็นมะละกอสุก เนื่องจากสารเบต้าแคโรทีน หรือสารต้านอนุมูลอิสระสีเหลือง-ส้มมีแนวโน้มจะพบเพิ่มขึ้นในผลไม้สุกมากกว่าผลไม้ดิบ

เพราะฉะนั้นถ้ากินส้มตำดิบทุกวัน... จะได้สารเบต้าแคโรทีนน้อยมาก ถ้าเสริมแครอตเข้าไป หรือกินมะละกอสุกตบท้ายหน่อย อย่างนี้จะได้เบต้าแคโรทีนเพิ่มขึ้นมาก

...

และอย่าลืมว่า เบต้าแคโรทีนจะดูดซึมได้ดีต้องอาศัยไขมันเล็กน้อยในอาหาร ถ้ากินแต่ส้มตำใส่แครอท การดูดซึมจะยังไม่ดีเท่าไร 

ถ้ากินพร้อมถั่วลิสงทำเองใหม่ๆ หน่อย ถั่วลิสงมีน้ำมันค่อนข้างมาก หรือกินพร้อมอาหารที่มีน้ำมันเล็กน้อย เช่น ผัดผักรวม ฯลฯ อย่างนี้จะเพิ่มการดูดซึมได้

... 

สารเบต้าแคโรทีนเปลี่ยนเป็นวิตามิน A ได้ จึงช่วยเสริมภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะภูมิต้านทานโรคของเยื่อบุต่างๆ เช่น แก้วตา ทางเดินหายใจ ฯลฯ

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ และโปรดติดตามตอนต่อไป (ตอนที่ 2) ครับ

...

หมายเหตุ                                           

  • โปรดคลิกที่นี่ เพื่ออ่านตอนที่ 2
  • [ Click ]

ข่าวประกาศ                                        

  • ถ้าผู้เขียนลากิจได้ > จะลาพักผ่อนในระหว่างวันที่ 16-24 กุมภาพันธ์ 2551 > จะไม่เขียนบล็อกในช่วงนั้นครับ > ขออภัย

ที่มา                                                 

  • ขอขอบพระคุณไทยรัฐ > แนะกินผลไม้ไทยมากๆ อุดมด้วยสารต้านมะเร็ง > 22 มกราคม 2551 > หน้า 1, 11, 19.
  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่รักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี + อาจารย์เบนซ์ iT ศูนย์มะเร็งลำปาง > สนับสนุนเทคนิค iT.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 13 กุมภาพันธ์ 2551.

</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span>

หมายเลขบันทึก: 165251เขียนเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2008 16:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับอาจารย์หมอครับ

ตามอ่านบันทึกอาจารย์บ่อยๆครับ

อย่างนี้ผมต้องทานผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ บ่อยๆเสียแล้วครับ เพื่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดี

ขอบคุณมากครับอาจารย์ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท