1. จำนวน ส.ส. จำนวน ส.ส.ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 480 คน โดยมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และมาจากการเลือกตั้งแบบสัดส่วนจำนวน 80 คน ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆที่ทำให้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใดมีจำนวน ส.ส.ไม่ถึง 480 คน แต่มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่า 456 คน ให้ถือว่าสมาชิกจำนวนนั้นประกอบเป็นสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องดำเนินการให้มี ส.ส.ให้ครบจำนวนภายใน 180 วัน และให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าอายุของ ส.ส.ที่เหลืออยู่
2. เขตเลือกตั้ง - เขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 2.1 การกำหนดเขตเลือกตั้งให้ดำเนินการ โดยจังหวัดใดมี ส.ส.ไม่เกิน คน ให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง แต่ถ้าจังหวัดใดมี ส.ส.ได้เกิน 3 คน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้ง โดยจัดให้แต่ละเขตเลือกตั้งมีจำนวน ส.ส. 3 คน 2.2 กรณีที่แบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดหนึ่งให้มีจำนวน ส.ส.ครบ 3 คน ทุกเขตไม่ได้ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งที่มี ส.ส.เขตละ 3 คนก่อน แต่เขตที่เหลือต้องไม่น้อยกว่าเขตละ 2 คน ถ้าจังหวัดใดมีการเลือกตั้ง ส.ส.ได้ 4 คนให้แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 2 เขต เขตหนึ่งให้มี ส.ส. 2 คน หรือถ้ามี ส.ส.ได้ 5 คน ก็แบ่งเป็น 2 เขต โดยเขตหนึ่งมี ส.ส.ได้ 3 คน อีกเขตหนึ่งมี ส.ส.ได้ 2 คน เป็นต้น - เขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบสัดส่วน การกำหนดเขตเลือกตั้งสำหรับ ส.ส.แบบสัดส่วน ให้จัดแบ่งพื้นที่ประเทศออกเป็น 8 กลุ่มจังหวัด ให้แต่ละกลุ่มจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง โดยแต่ละเขตเลือกตั้งให้มี ส.ส.ได้ 10 คน และการจัดกลุ่มจังหวัดให้จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกันอยู่ในกลุ่มจังหวัดเดียวกัน และในกลุ่มจังหวัดทุกกลุ่มจังหวัดต้องมีจำนวนราษฎรใกล้เคียงกัน โดยให้จังหวัดทั้งจังหวัดอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกัน
3. การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ส่งสมาชิกเข้าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด ต้องส่งสมาชิกเข้าสมัครรับเลือกตั้งให้ครบจำนวน ส.ส.ที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น เช่น ถ้าเขตนั้นมี ส.ส.ได้ 3 คน ก็จะต้องส่งผู้สมัครครบ 3 คนจะส่งเพียง 1 คนหรือ 2 คนหรือจะส่งเกินกว่า 3 คนไม่ได้ พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกเขตเลือกตั้งหรือจะส่งเพียงบางเขตเลือกตั้งก็ได้ บัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบสัดส่วนต้องไม่ซ้ำกับรายชื่อของผู้สมัครรับเลือกตั้งและต้องคำนึงถึงโอกาส สัดส่วนที่เหมาะสมและความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย
4.ใช้สิทธินอกเขต กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันที่ 23 ธ.ค. 50 นั้น สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีชื่อในทะเบียนบ้านต่างจังหวัด แต่ไม่สะดวกจะกลับไปเลือกตั้งที่ภูมิลำเนา สามารถใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.นอกเขตจังหวัดได้ในวันที่ 15-16 ธ.ค. 50 ณ สำนักงานเขตที่ท่านสะดวก แต่ต้องไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตฯ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 50 5. การลงคะแนน การเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงลงคะแนนเท่ากับจำนวน ส.ส.ที่มีได้ในเขตเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิ เช่น มี ส.ส.ได้ 1 คนก็กา X ได้ 1 เบอร์ มี ส.ส.ได้ 2 คนก็กา X ได้ 2 เบอร์ มี ส.ส.ได้ 3 คนก็กา X ได้ 3 เบอร์ การเลือกตั้ง ส.ส.แบบสัดส่วน ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงลงคะแนนเลือกพรรคการเมืองที่จัดบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นได้ 1 พรรคหรือ กา X ได้ 1 เบอร์ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสาระสำคัญของการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 หลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งนั้น รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ได้ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้นำเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป..... หน้าที่ของ ส.ส. หน้าที่ของ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2550 ก็ยึดกำหนดตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2540 กำหนดให้การเลือกตั้งเป็น “หน้าที่” ของพลเมืองไทย มี 5 ประการ คือ 1. ออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน 2. เป็นตัวแทนประชาชนเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี 3. ควบคุมการบริหารงานของรัฐบาล 4. อนุมัติงบประมาณแผ่นดินเพื่อการพัฒนาประเทศ 5. นำปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชนนำเสนอต่อรัฐบาลใช่ๆ การเลือกตั้งสำคัญมากๆกับคนไทย อนาคตของคนไทยก็ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งคะ